บทสัมภาษณ์พิเศษของ Tom Dixon นักออกเเบบผู้มีวิสัยทัศน์ในโลกดีไซน์ร่วมสมัย – L’Officiel Thailand

MOTIF ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ Tom Dixon ไลท์ติ้งเฟอร์นิเจอร์ ในประเทศไทยมากว่า 13 ปี เปิดบ้านต้อนรับ Tom Dixon ดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลกสู่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งการเยือนครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกจะได้พบปะกับเหล่าคนรักงานออกแบบชาวไทย พร้อมเปิดตัว Tom Dixon Experience แห่งแรกในประเทศไทย นำเสนอเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ และของแต่งบ้านดีไซน์โดดเด่นจากหลากหลายคอลเลคชั่นมาให้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ณ MOTIF ชั้น 4 ศูนย์การค้า Central Embassy ที่ออกแบบภายใต้แนวคิดของความคิดที่ร่วมสมัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
Tom Dixon ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงด้านการใช้วัสดุและกระบวนการรังสรรค์ที่เปี่ยมด้วยจินตนาการในงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์และโคมไฟ โดยเดิมทีเขาเป็นนักดนตรี ก่อนจะหันมาสนใจงานเชื่อมโลหะและก่อตั้ง Tom Dixon Studio ในปี 2002 ผลงานไอคอนิกของเขา เช่น S Chair ซึ่งถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ MoMA และ Beat Lights ที่ได้แรงบันดาลใจจากภาชนะใส่น้ำของอินเดีย สะท้อนการผสมผสานระหว่างศิลปะและฟังก์ชันได้อย่างลงตัว เเละในฐานะ Creative Director ของ Habitat (1998–2008) เขาได้พลิกโฉมแบรนด์และร่วมงานกับบริษัทสถาปัตยกรรมชั้นนำอย่าง OMA ในโครงการออกแบบภายในขนาดใหญ่ ปัจจุบัน ดิกซันยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในวงการออกแบบ ด้วยการมุ่งเน้นนวัตกรรมด้านวัสดุและความยั่งยืน
อะไรคือเเรงบันดาลใจของคุณในการออกเเบบงาน
มันยากที่จะมีเล่าเรื่องราวเดียวเพื่อครอบคลุมเเรงบันดาลใจของทุกผลงาน ผมจะยกตัวอย่างเรื่องหนึ่ง The Beat lights เป็นโปรเจคที่ทำร่วมกับ British Council ซึ่งเป็นการนำเสนองานฝีมือของอินเดียเเละไนจีเรีย มันคืองานการกุศล เเละผมได้เข้าร่วมโปรเจคนี้เพราะผมสนใจในการงานเหล็ก ผมได้ไปอินเดีย เเละได้พบกับช่างทำเหล็กที่กำลังทำหม้ออยู่ในหมุ่บ้าน ผมประทับใจในตัวรูปทรงหม้อ เเละสนใจในเทคนิคการทำ ซึ่งผมได้นำรูปทรงไปดัดเเปลงเป็นโคมไฟ The Beat Lights จึงเหมือนหม้อที่กลับด้านเเละสามารถใช้งานเป็นโคมไฟได้จริง โดยวัสดุทำจากทองเหลือง หลังจากนั้นผลงานนี้มีคนนำไปลอกเลียนเเบบมากมาย เเละราคาถูกกว่า ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะลอกเลียนผลงานของพวกเขาอีกรอบ โดยได้เปลี่ยนวัสดุจากทองเหลืองเป็นอลูมิเนียม ซึ่งนั่นก็คือเเรงบันดาลใจของผมจากผลงานที่ลอกเลียนเเบบผลงานของผมอีกทีหนึ่ง (หัวเราะ) เพราะมันทำให้ผลงานเกิดการพัฒนามากขึ้น ต้องขอบคุณพวกเขาจริงๆ
อีกทั้งเขายังพูดถึงเเรงบันดาลใจที่ได้มาจากดนตรี เเละงานปั้น เเละนำมาดัดเเปลงในวงการออกเเบบอีกที
มุมมองตลาดของ Tom Dixon Studio ในประเทศไทยเป็นอย่างไร
ประเทศไทยมีความคิดที่อิสระ เเละความสร้างสรรค์ ซึ่งคนไทยเข้าใจถึงความหมายของศิลปะ สถาปัตยกรรม เเละเฉดสี พวกเขามีมุมมองที่เเตกต่างในการเข้าถึงคอนเซ็ปต์ของเเต่ละผลงานของผม เเละนำเสนอออกมาให้เเตกต่างเเละเเปลกใหม่ ประเทศไทยมีการพัฒนาที่รวดเร็ว เเละกลายเป็นประเทศที่น่าอยู่ เเละในที่สุดผมก็ได้มาเยือนที่ประเทศไทย พร้อมร่วมงานกับผู้คนที่รักเเละซัพพอร์ตผลงานของผม ซึ่งผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ถ้าถามว่าตัวตนของผมจะมีอิทธิพลอย่างไรในประเทศไทย ผมขอตอบคำถามนี้ในปีหน้าเลยละกัน ผมรอคอยดูการเติบโตเเละอิทธิพลของผมที่สามารถส่งต่อให้ประเทศไทยได้เช่นกัน
อะไรคือหลักสำคัญในการออกเเบบงานของคุณ
ผมจะไม่สามารถเป็นดีไซเนอร์ที่ดีได้ ถ้าผมไม่เคยลงมือสร้างมันขึ้นมาเอง วัสดุเป็นสิ่งที่สะท้อนความหมายของตัวโพรดัค ดังนั้นผมจึงให้ความสำคัญมากในการเลือกวัสดุ ทั้งทำความเข้าใจกับมันเเละศึกษาเทคนิคการนำวัสดุเหล่านั้นมาทำเป็นตัวโปรดัค
เดิมทีเป็นนักดนตรีมาก่อน ถ้าผมไม่ได้พบเจอกับอุบัติเหตุครั้งนั้น ผมอาจจะได้ทำดนตรีให้กับ Michale Jackson, Madonna เเละ Pink Floyd (หัวเราะ) ดังนั้นผมน่าจะเป็นนักดนตรี ไม่ก็เชฟ ผมชอบทำอาหารมาก หรือผมจะไปเป็นเเฟชั่นดีไซเนอร์ จริงๆอะไรก็ได้ที่รายล้อมผมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ผมชอบที่ได้พบเจอกับความเปลี่ยนเเปลงในทุกๆวัน
สิ่งที่อยากบอกกับผู้คนที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักออกเเบบ
ในโลกปัจจุบันนี้ มันง่ายมากที่จะเข้าถึงลูกค้า ผ่านทางโซเชี่ยลมีเดีย เว็บไซต์ เเละโฆษณา เเต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ยากด้วยเช่นกัน เพราะมีผู้คนที่ทำเเบบเดียวกับคุณ ดังนั้นสิ่งที่ผมสามารถเเนะนำได้คือ เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ถ้าคุณสนใจเกี่ยวกับสิ่งใด ลองมองหามุมมองอื่นที่เเตกต่างในสิ่งนั้นๆให้มากที่สุด ดีกว่าการที่เป็นเหมือนคนส่วนมากสนใจหรือเป็นอยู่
อ่านบทความเพิ่มเติม:
บทสัมภาษณ์พิเศษของดีไซน์สตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ของ 132 5. ISSEY MIYAKE
บทสัมภาษณ์สุดพิเศษของ Tilda Swinton ถึงความประทับใจและสายสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างตัวเธอและ CHANEL
ILYSB…LANY บทสัมภาษณ์สุดพิเศษที่ว่าด้วยเรื่องของ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต