ความท้าทายครั้งใหม่ของนุ่น-วรนุช กับการรับบทแม่สายสตรองในซีรีส์ล่าสุด ‘อย่ากลับบ้าน’
เมื่อการทำซีรีส์ที่มุ่งหวังจะนำเสนอความแปลกใหม่ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และพร้อมแล้วที่จะให้คนไทยได้ชมทาง Netflix ซีรีส์เรื่อง ‘อย่ากลับบ้าน (Don’t Come Home)’ ที่แฟนๆ แนวลึกลับระทึกขวัญรอคอย มีทั้งหมด 6 ตอน กำกับโดย วุฒิดนัย อินทรเกษตร ผู้กำกับโฆษณามือรางวัลที่ใช้เวลาร่วมสองปีในการทำงาน นำแสดงโดย วรนุช ภิรมย์ภักดี (รับบท วารี), พิชชาภา พันธุมจินดา (รับบท ฟ้า), สิรินยา บิชอพ (รับบท พนิดา) และนักแสดงสมทบอีกมากมาย
“ซีรีส์เล่าเรื่องราวของแม่คนหนึ่งที่อยู่ๆ ลูกก็หาย หายไปไหน หายไปได้ยังไง พอแจ้งตำรวจก็ยังหาไม่เจอ เลยกลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้ตามหาว่าลูกสาวหายไปไหน พร้อมๆ กับตัวละครวารีซึ่งเป็นแม่ พร้อมๆ กับตำรวจ พร้อมๆ กับคนดูด้วย” นุ่น-วรนุชแง้มจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในซีรีส์ล่าสุดที่เธอร่วมแสดง
เรื่องนี้ต้องใช้อินเนอร์หรือพลังในการแสดงประมาณไหน
“นุ่นไม่ได้คิดว่ามันต้องเป็นยังไง แต่คิดว่าเราเป็นตัวละครให้สอดคล้องกับภาพที่ผู้กำกับอยากนำเสนอ คือมันต้องบวกกัน ถ้าเล่นไปโดยไม่สนสไตล์ของหนัง หรือ genre หนังว่าเป็นประเภทไหน มันก็ไม่ได้ นุ่นพยายามจะดูและสื่อสารว่าผู้กำกับอยากได้ประมาณไหน เหมือนไปทำความรู้จักกัน แล้วก็ไปเรียนรู้กันตอนที่เราถ่ายทำ สำหรับหนัง genre นี้อาจจะมีบางอย่างที่เคยเห็น แต่จะมีความแตกต่างที่ลึกลับ ซึ่งมันไม่ได้เป็นอย่างที่คนคาดคิด หรือเวลาคนเห็นเทรเลอร์เขาจะบอกต้องเป็นแบบนี้แน่เลย คือเดาเรื่องได้ แต่…อ๊ะ!! นุ่นว่าอันนี้ไม่มีใครตอบถูก”
มีประโยคหนึ่งที่วุฒิดนัย ผู้กำกับบอกว่าเขาต้องการพาให้ผู้ชมไปสู่เรื่องราวที่ไกลกว่าความคาดหมาย
“นุ่นใช้คำนี้เลยค่ะ ‘เกินความคาดหมาย’ แต่เราไม่ได้หมายความว่าไปไกลขนาดนั้น มันเป็นเรื่องความรู้สึกของทั้งตัวละครและคนดูมากกว่าค่ะ คือเหมือนกับทุกคนเดาว่าจะเป็นอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ซึ่งจะรู้ก็ต่อเมื่อได้ดูจบค่ะ ตอนอ่านบทครั้งแรกความรู้สึกของนุ่นก็เหมือนคนที่ดูเทรลเลอร์ค่ะ พออ่านอีพี 1 เสร็จก็อยากอ่านอีพี 2 ต่อว่ามันเป็นยังไง แล้วจะยังไงต่อ คือเราอยากรู้ไปพร้อมกับตัวละครเลย ซึ่งดีมากนะคะ มันให้ความรู้สึกว่าตอนที่เราอ่านบท ณ วันนั้น แล้วไปถ่ายจริง และได้เห็นตอนออกอากาศ มันก็เป็นเหมือนกัน คือเป็นเหมือนที่ผู้กำกับต้องการนำเสนอ เรื่องนี้นำเสนอความแปลกใหม่ แน่นอนว่าซีรีส์ส่วนใหญ่ต่างนำเสนอความสนุกสนาน เพราะมันคือเอนเตอร์เทนเมนต์ นุ่นอยากให้คนได้ชมกันเพราะว่าทุกคนตั้งใจมากกับโปรเจ็กต์นี้ และไม่ใช่แค่เมืองไทย ทุกคนจะได้รับชมพร้อมกับอีกกว่า 190 ประเทศ อันนี้ก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ถือเป็นโอกาสที่คนชาติอื่นจะหันมาเห็นพวกเรานักแสดงหรือทีมไทยทำงานกัน”
Cr. ได้รับความอนุเคราะห์จาก Netflix © 2024
เหตุผลแรกที่ตัดสินใจเล่นเรื่องนี้
“ต้นค่ะ ผู้กำกับ เป็นการร่วมงานกันครั้งแรก เวลานุ่นรับงานอะไรเราจะฟังว่าเรื่องเป็นยังไง คือเราเห็นตาเขา มันมีประกาย เขาเป็นคนเขียนบทเองและกำกับเองด้วย เพราะฉะนั้นเขาจะมีภาพในหัว และเวลาที่เขาเล่า ตาเขามีสตอรี่ ก็เลยเอาวะ กำกับเรื่องแรกด้วย น่าจะต้องตั้งใจมากๆ แหละ ประกอบกับเนื้อเรื่องที่ไม่เคยเล่นแบบนี้ด้วย เลยคิดว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจและท้าทายสำหรับตัวเองค่ะ บวกกับเป็นซีรีส์ของ Netflix ทำให้มั่นใจคุณภาพของการถ่ายทำด้วย”
บรรยากาศในการถ่ายทำ มีอะไรสนุกๆ เล่าให้ฟังไหม หรือฉากที่ประทับใจเป็นพิเศษ
“มีหลายฉากมากเลยค่ะที่ประทับใจ มันมีความเล็กๆ น้อยๆ ในดีเทลของตัวละคร ความหมดหวังของคนเป็นแม่ที่หาลูกไม่เจอ เอาจริงๆ นุ่นไม่เคยเป็นแม่มาก่อน แต่ก็เห็นคนรอบข้างที่มีลูก เห็นความสัมพันธ์ของแม่ลูกที่อยู่รอบข้างเรา ไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ และเป็นแม่ยุคนี้ด้วย คือแม่ยุคนี้ไม่เหมือนคุณแม่ในสมัยก่อน เขาจะรู้สึกเหมือนลูกเป็นเพื่อนมากกว่า นุ่นก็เอาความรู้สึกของคนในปัจจุบัน ณ ตอนนี้ที่เขาเป็นอย่างนั้น และเราได้เห็นความรัก ความเสียใจ ความสูญเสียของคนรอบข้าง มันก็ซึมซับในส่วนตรงนั้นมา เขาเสียใจ เขาเป็นแบบนี้นะ หรือบางคนที่ลูกเขาเสีย มันจับอารมณ์ตรงนั้นได้ ก็เลยเอาสิ่งเหล่านี้มาประกอบในความรู้สึกที่เราได้รับบทวารีด้วยค่ะ จะว่าไปนุ่นกับวารีไม่มีความเหมือนกันเลย แต่เราชอบเขาในแง่ของความรักลูก นุ่นเชื่อว่าแม่ทุกคนจะต้องมี ในวันที่เราจะต้องเลือกระหว่างแม่กับลูก เราเลือกลูก สำหรับในซีรีส์นะคะ
“เราถ่ายทำกันที่จังหวัดนครนายก ทีมงานเซ็ตใหม่หมด ทุกอย่างสวยมาก นุ่นไม่อยากให้รื้อเลยทั้งภายในภายนอก ตอนถ่ายทำลำบากมากเพราะฝนตก ทั้งโคลน ทั้งฝนจริงฝนปลอมปนกันไปหมด แต่สนุกดีค่ะ”
Cr. ได้รับความอนุเคราะห์จาก Netflix © 2024
ได้ดูผลงานตัวเองแล้วรู้สึกอย่างไร
“พอใจมากค่ะ นุ่นตั้งใจมากๆ แต่ไม่ใช่แค่นุ่นคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นพี่ซินดี้ (สิรินยา บิชอพ) น้องแพร (พิชชาภา พันธุมจินดา) และทีมงานทุกคน นุ่นขอบคุณทีมงานมากๆ ที่ทำโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา จริงๆ มันพร้อมหมดแล้ว เราแค่เดินเข้าฉากและทำหน้าที่ของเรา ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากๆ เหมือนทุกอย่างช่วยกันหมดเป็นก้อนเดียวกัน เวลาถ่ายทำก็สนุก ทีมงานน่ารักค่ะ
“นุ่นกับพี่ซินดี้เจอกันเมื่อ 22 ปีที่แล้วค่ะ เคยเจอกันแต่ไม่เยอะค่ะ กับน้องแพรไม่เคยค่ะ เคยเจอกันแวบๆ เพราะแพรเป็นเพื่อนของรุ่นน้อง ดีใจที่ได้เล่นกับทั้งคู่เลย เพราะว่าทั้งคู่ฝีมือเก่งมาก การที่เราได้มาเจอกับคนที่เล่นเก่งๆ แอ็กติ้งดีๆ ถือว่าเป็นโบนัสของตัวละครเราแล้วค่ะ”
ในฐานะนักแสดง คิดว่าปัจจุบันคนดูคาดหวังอะไรจากหนังแนวนี้
“นุ่นว่าคนดูต้องการความสนุกและความแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหนัง หรือซีรีส์ต่างๆ ทุกวันนี้มันมีให้เราเสพค่อนข้างเยอะมากๆ และนุ่นหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับความสนใจจากทุกๆ คนค่ะ”
Cr. ได้รับความอนุเคราะห์จาก Netflix © 2024
ดูเหมือนนุ่นจะห่างหายจากการแสดงไประยะหนึ่งหรือเปล่า
“จริงๆ ก็ไม่ได้นานมาก ต้องบอกว่าวงการบันเทิงเองสเปซของละครหรืออะไรต่างๆ มันถูกแบ่งสัดส่วนกันไปค่อนข้างเยอะในช่วงที่ผ่านมา แต่นุ่นยังรักที่จะทำงานตรงนี้อยู่ค่ะ”
บาลานซ์ชีวิตยังไงคะ ทั้งงาน ครอบครัว ธุรกิจ
“แล้วแต่ช่วงจังหวะชีวิตมากกว่า นุ่นว่าทุกอย่างเราสามารถบาลานซ์ได้ ในเรื่องของธุรกิจ เราไม่ได้ทำคนเดียว นุ่นมีทีม มีผู้ช่วย มีพาร์ตเนอร์ที่ทำด้วยกัน เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันช่วยให้ง่ายขึ้นเยอะ ก็ช่วยเช็คกันไปมา ในเรื่องของงาน มันจะมีช่วงที่ทำงานหนัก ทำงานน้อย ซึ่งก็เป็นปกติค่ะ ส่วนเรื่องครอบครัว นุ่นจะไม่รับงานเสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่จำเป็นนะคะ คือต๊อด (ปิติ ภิรมย์ภักดี) เป็นพนักงานประจำ เขาจะหยุดเสาร์อาทิตย์ค่ะ เราก็พยายามจะไม่รับงานวันที่เขาหยุด”
นุ่นอยู่ในวงการมานานมาก ยังมีอะไรที่อยากทำอีก
“นุ่นว่ายังมีอีกเยอะที่ยังไม่ได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นงานแสดง คือถึงแม้ว่าเราอายุเริ่มมากขึ้น แต่บทบาทที่เราได้รับ มันก็เปลี่ยนแปลงไปตามอายุของเราเหมือนกัน หรือตามตัวละคร มันก็เหมือนมีสิ่งใหม่ๆ ให้นุ่นได้เรียนรู้ตลอด บวกกับการที่เราได้ทำงานกับคนใหม่ๆ ทีมใหม่ๆ ก็เหมือนเราได้เริ่มต้นใหม่ทุกวัน
“นุ่นอยู่วงการมา 27 ปีแล้วค่ะ กำลังจะเข้าปีที่ 28 ที่ผ่านมานุ่นพยายามดูแลตัวเองค่ะ ตอนเด็กๆ นุ่นจะถูกสอนเสมอว่า อย่าใส่รองเท้าแตะออกไปข้างนอก แต่สมัยนี้ก็ใส่ตลอดเลยนะคะ เพราะสมัยก่อนกว่าแฟนๆ จะได้เจอนักแสดงเป็นเรื่องที่ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ นอกจากไปงานโชว์ตัว คือเขาอยากเห็นเราในแบบที่ดูสวย ไม่ใช่ดูโทรม เหมือนเป็นภาพลักษณ์ที่พี่ๆ เคยสอนเอาไว้ ตอนนี้อาจจะไม่ได้ขนาดนั้นแล้ว ก็คือพยามยามดูแลตัวเองมาตลอด และอีกอย่าง นุ่นอาจจะเป็นคนไม่ดื่ม ไม่เที่ยว แต่เป็นคนนอนดึกมาก ก็เลยทดแทนกัน…หรือเปล่า”
บทไหนที่อยากเล่น
“นุ่นยังไม่เคยเล่นบทแฝด แฝดแบบจริงจังนะคะ มันมีความท้าทายที่น่าสนใจ”
ในวัย 44 อะไรคือความสุขของเรา
“ทุกวันนี้ก็คือความสุขแล้ว มีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนที่ดี มีงานที่ดี ก็ขอให้มีดีๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดในวันนี้ เพื่อที่ทุกๆ วันจะเป็นวันที่ดีของเรา”
อยากทิ้งท้ายอะไรไหมคะ
“อยากฝากซีรีส์ ‘อย่ากลับบ้าน’ นะคะ เป็นซีรีส์ที่ทุกคนตั้งใจมากๆ เป็นเรื่องเล่าผ่านตัวละครวารี…วารี จารึกอนันต์ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
ช่างภาพ: กรีดา จีระพงศ์พลิน
The post ความท้าทายครั้งใหม่ของนุ่น-วรนุช กับการรับบทแม่สายสตรองในซีรีส์ล่าสุด ‘อย่ากลับบ้าน’ appeared first on L’Officiel Thailand.