ช่วงเวลาสำคัญท่ามกลางความหรูหราและวัฒนธรรมในปี 2024
รวมเหตุการณ์สำคัญจากหลายแวดวงสังคม วัฒนธรรม และลักชัวรีในปี ค.ศ. 2024
บทความ: LuxuoTH
ปี ค.ศ. 2024 นับว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายทั้งในแวดวงสังคม วัฒนธรรม และวงการลักชัวรีเองก็มีความเคลื่อนไหวที่บางข่าวก็นับว่าสร้างแรงกระเพื่อมให้กับให้กับวงการธุรกิจและการเงินด้วยเช่นกัน Luxuo Thailand ขอรวบรวมข่าวสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้ไว้ในบทความนี้
พิธีวิวาห์ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสองทายาทตระกูลดังอินเดีย
(ภาพ: เก็ตตี้อิมเมจ)
งานแต่งงานของอนันต์ อัมบานี ทายาทตระกูลนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอินเดียซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์ กับราธิกา เมอร์แชนท์ ลูกสาววีเจอาร์ เมอร์แชนท์ นักธุรกิจชั้นนำอีกตระกูลสร้างสถิติโลกตะลึงหลายประการ ทั้งความเป็นงานแต่งที่แพงที่สุดไม่ใช่แค่ในปี ค.ศ 2024 แต่ในหน้าประวัติศาสตร์ ด้วยค่าใช้จ่ายกว่า 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 18,000 ล้านบาท) การจัดพิธีที่ครอบคลุม 4 สถานที่ทั้งอินเดียและตะวันออกกลาง การเชิญแขกระดับโลก ทั้งดาราบอลลีวูด ฮอลลีวูด เซเลบริตี้ นักธุรกิจแนวหน้ากว่า 1,500 คนด้วยเครื่องบินส่วนตัวและเฮลิคอปเตอร์รับส่ง ชุดแต่งงานที่มีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท การแสดงพิเศษจากศิลปินระดับโลก รวมถึงการถ่ายทอดสด ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาเตรียมการนานกว่า 2 ปี จนกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่ทุกคนต่างจับตามอง
Formula 1 พร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 75 โดยมีเครือ LVMH เป็นพันธมิตรในระดับโลก
(ภาพ: LVMH)
LVMH ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์นาฬิกาดังประกาศการเป็นพาร์ทเนอร์ระดับโลกกับ Formula 1 ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2025 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้แบรนด์ต่างๆ ภายในเครือ LVMH มีโอกาสได้นำเอาความเชี่ยวชาญและความพิเศษในสาขาของตนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมและแง่มุมต่างๆ ของการแข่งรถระดับโลกนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Moët Hennessy, TAG Heuer หรือแบรนด์ดังอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้คาดว่าจะดึงดูดผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ ที่หลากหลายยิ่งกว่าเดิมจากความแข็งแกร่งและความกว้างขวางของ LVMH และจะยิ่งเสริมการยกระดับประสบการณ์ให้กับแฟนรายการ Formula 1 ตลอดจนเสริมสร้างเกียรติประวัติให้กับการแข่งขันอันสุดแสนเร้าใจนี้
สกุลเงินดิจิตอลหรือคริปโตกลับมาเป็นที่น่าจับตามองอีกครั้ง
(ภาพ: iStock)
ทันทีที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาออกมาว่า โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ชนะ ราคา Bitcoin ก็ดีดตัวอย่างรวดเร็วจากราว 70,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญขึ้นเป็น 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากการเลือกตั้ง ก่อนจะทะยานต่อไปถึงระดับ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน และทะลุ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เหรียญคริปโตสกุลอื่นๆ ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วยเช่นกันจนเกิดเป็นการตื่นตัวไปทั้งตลาด ทั้งนี้ก็เพราะว่าทรัมป์ประกาศตั้งแต่ช่วงหาเสียงแล้วว่าตนนั้นสนับสนุนเงินดิจิตอลและจะทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นเมืองหลวงแห่งสกุลเงินคริปโตในอนาคต
การปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของ Jaguar
(ภาพ: จากัวร์) (ภาพ: จากัวร์)
Jaguar แบรนด์รถยนต์หรูสุดคลาสสิคสัญชาติอังกฤษอย่างได้สร้างกระแสทอคออฟเดอะทาวน์ก่อนปิดปี ค.ศ. 2024 ด้วยการปรับโฉมแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการปล่อยแคมเปญโฆษณาที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากเชื้อชาติต่างวัยแต่งกายในชุดสีสันฉูดฉาดและบ้าบิ่น ลบภาพลักษณ์เดิมๆ ที่ดูสุขุมและคลาสสิคไปโดยสิ้นเชิง การเปลี่ยนโฉมแบรนด์ในครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน โดยมีเป้าหมายที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์ที่เป็นเลิศในด้านความคิดสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิดแบบ “Copy Nothing” ของเซอร์วิลเลียม ไลออนส์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่เคยกล่าวไว้ว่า ‘A Jaguar should be a copy of nothing’ และตามมาด้วยการเปิดตัว Type00 รถคอนเซ็ปท์ไฟฟ้าในเดือนธันวาคมต่อทันทีที่สร้างสีสันให้กับวงการรถ
–Comedian” ถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 6.2 ล้านเหรียญสหรัฐที่ Sotheby’s นิวยอร์ก
Comedian (Photo: Sotheby’s)
จัสติน ซัน (Photo: Sotheby’s)
ผลงานศิลปะของศิลปินชาวอิตาเลียน เมาริซิโอ คัทเทลัน ที่มีชื่อว่า Comedian ที่เปิดตัวต้นฉบับเมื่อปี ค.ศ. 2019 ที่ Art Basel Miami ได้สร้างกระแสในโลกออนไลน์และเป็นที่ถกเถียงในชุมชนศิลปะเป็นประวัติการณ์ ซึ่งในครั้งนั้นมีสามเอดิชั่นด้วยกันและขายไปในราคา 120,000 ถึง 150,000 ดอลลาร์ และเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สถาบัน Sotheby’s ในนครนิวยอร์กจัดประมูลผลงานชิ้นนี้ขี้นอีกครั้ง และได้สร้างความฮือฮาไม่แพ้การเปิดตัวครั้งแรกเลยเพราะปิดประมูลด้วยราคาสูงถึง 6.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 200 ล้านบาท โดยนักลงทุนคริปโตชาวจีนนามว่า จัสติน ซัน ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน จัสติน ซัน ยังสร้างไวรัลอีกครั้งด้วยการโชว์การกินกล้วยจากผลงานชิ้นที่เขาประมูลมาอีกด้วย
ราฟาเอล นาดาลประกาศแขวนแร็คเกต
(ภาพ: Shutterstock)
“งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” เมื่อ ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสอาชีพชาวสเปนวัย 38 ปี ที่มีจุดเด่นในการตีโฟร์แฮนด์ท็อปสปินอันหนักหน่วง ทั้งยังเป็นผู้เล่นที่เชี่ยวชาญการเล่นลูกหยอดมากที่สุดคนหนึ่ง และเป็นเจ้าของฉายา “ราชาคอร์ทดิน” ประกาศแขวนแร็คเกตอย่างเป็นทางการแล้วหลังจากเป็นดาวเด่นอยู่ในวงการมานานกว่า 2 ทศวรรษ ที่มาของฉายาราชาคอร์ทดินตลอดกาลก็เนื่องจากเคยคว้าชัยในรายการเฟรนช์โอเพนมากถึง 14 ครั้งในช่วงปี ค.ศ. 2005-2022 แต่ถ้าจะนับรวมรายการแกรนด์สแลมอื่นๆ นาดาลก็เป็นแชมป์รวมมากถึง 22 ครั้ง ใกล้เคียงกับคู่แข่งคนสำคัญอย่างเช่นโรเจอร์ เฟเดอเรอ (20 ครั้ง) และโนวัค ยอโควิค (24 ครั้ง)
มหาวิหาร Notre-Dame แห่งปารีสกลับมาเปิดอีกครั้ง
(ภาพ: Shutterstock)
นับว่าเป็นหนึ่งในข่าวดีและข่าวใหญ่แห่งปีที่มหาวิหาร Notre-Dame แห่งปารีสกลับมาเปิดประตูต้อนรับชาวโลกอีกครั้ง หลังจากผ่านการบูรณะเป็นเวลากว่า 5 ปีนับจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2019 ซึ่งพิธีเปิดมหาวิหารจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 และ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาและตามด้วยกิจกรรมต่างๆ จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม และกิจกรรมต่างๆ มากมายที่จะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงวันสมโภชพระจิตเจ้า (วันเปนเตกอสเต) ในวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 2025 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได่ร่วมเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญในครั้งนี้ ซึ่งการกลับมาเปิด Notre-Dame อีกครั้งคาดว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้กับทั้งคริสต์ศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วโลกแน่นอน ซึ่งเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวของฝรั่งเศสอย่างแน่นอน
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการแฟชั่นหรู
เซดริก ชาร์บิท ชาร์บิท
(Photo: Ezra Petronio)
จานฟรังโก จานแองเจลี
(Photo: Alice Rosati Studio)
ลูอีซ ทรอตเตอร์
(ภาพ: บอตเตกา เวเนตา)
วงการแฟชั่นลักชัวรีมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งใหญ่และตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ที่สร้างความเซอร์ไพรส์มากมายให้กับผู้คน ไม่ว่าจะเป็น Kering ที่แต่งตั้งเซดริก ชาร์บิท เป็นซีอีโอคนใหม่ของ Saint Laurent และ จานฟรังโก จานแองเจลี เป็นซีอีโอของ Balenciaga หรือ ไฮเดอร์ แอคเคอร์แมนน์ เป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนล่าสุดของ Tom Ford ซาราห์ เบอร์ตัน ส่งต่อเก้าอี้ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ Alexander McQueen ให้กับฌอน แมคเกียร์ เพื่อไปสู่ Givenchy การแต่งตั้ง ไมเคิล ไรเดอร์ ให้เป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Celine จูเลียน เคลาส์เนอร์ เป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ของ Dries Van Noten จอห์น กัลป์ลิอาโน ลาออกจากตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์แบรนด์ Maison Margiela ลูอีซ ทรอตเตอร์ ขึ้นแท่นเป็นเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Bottega Veneta ส่วน แมทธิว บลาซี ก้าวไปเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ของ Chanel
Korean Air ซื้อกิจการ Asiana
(ภาพ: โคเรียนแอร์)
ข่าวใหญ่ข่าวสุดท้ายก่อนสิ้นปีนี้ก็คือการควบรวมกิจการของสองสายการบินเกาหลี นั่นก็คือการที่ Korean Air เข้าซื้อหุ้นใหญ่ 63.88% ของ Asiana ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญมาโดยตลอด แผนการซื้อกิจการดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดยรัฐบาลเกาหลีตั้งแต่ช่วงปลายปี ค.ศ. 2020 และเพิ่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อไม่กี่วันนี้เองหลังจากได้รับอนุมัติโดยหน่วยงานควบคุมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ความเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อผู้โดยสารชาวไทยอย่างเราตรงที่คนไทยส่วนมากมีสมาชิก Royal Orchid Plus ของการบินไทยซึ่งอยู่ในเครือ Star Alliance และเดิมนั้นเราสามารถเก็บไมล์และใช้สิทธิพิเศษต่างๆ ของ Star Alliance ได้เมื่อบินกับ Asiana แต่ว่า Korean Air นั้นอยู่ในค่าย SkyTeam นั่นแปลว่า Asiana ก็จะต้องย้ายค่ายด้วยเช่นกัน ทำให้เราไม่สามารถใช้สิทธิใดที่มากับสมาชิก Star Alliance อย่างเช่นน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มหรือการใช้บริการเลาจ์ได้อีกต่อไป
บทความที่เกี่ยวข้อง: Sotheby’s to Hold Its First International Auction in Saudi Arabia