พบกับแฟชั่นเซ็ตซัมเมอร์มาดเท่แสนผ่อนคลายของศิลปินหนุ่มรุ่นใหม่ ภูธัชชัย แห่งวง BUS because of you i shine ในลุคแฟชั่นสุดเฟรชจาก PRADA ผสานสไตล์ความเป็นเมืองและความเป็นธรรมชาติ ผ่านแฟชั่นลำลองแบบสปอร์ตสไตล์ทหารเรือ และงานเทเลอร์เมดแบบทางการที่ถูกลดทอน ท่ามกลางเซ็ตดีไซน์แบบงานสถาปัตย์ที่ดูเหนือจริง
ถ้าเราสามารถออกแบบชีวิตของตัวเองได้ คุณอยากออกแบบให้มันเป็นแบบไหน สำหรับ ‘ภูธัชชัย’ ศิลปินหนุ่มสมาชิกวง BUS because of you i shine เขาบอกว่าไม่ได้อยากออกแบบให้เป็นอะไร “ผมว่าได้ใช้ชีวิตตามเส้นเรื่องของมันก็โอเคแล้วครับ ไม่ต้องไปออกแบบมัน จริงๆ ทุกคนก็คงอยากให้มีอะไรดีๆ เข้ามาในชีวิตอยู่แล้วครับ แต่สำหรับผมถ้าได้เจออะไรดีๆ ที่เข้ามาก็ดีใจกับมันแล้ว”
ศิลปินหนุ่มวัย 20 มีชื่อจริงว่า ภู-ธัชชัย ลิ้มปัญญากุล เขาบอกว่าสมัยเด็กค่อนข้างขี้อายและไม่กล้าแสดงออกเท่าไหร่ ถ้าลองเสิร์ชชื่อเขาก่อนที่เขาจะเดบิวต์เป็นศิลปิน ก็คงจะเห็นเขาในฐานะที่เป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไอซ์ฮอกกี้ซึ่งเป็นกีฬาที่เขารักมากๆ ใครเลยจะคิดว่าวันหนึ่งจากเด็กขี้อายคนหนึ่ง เขาจะกล้าเสี่ยงและตัดสินใจเบนเข็มเส้นทางของตัวเองมาสู่วงการเพลงทีป๊อป โดยเริ่มจากการเป็นศิลปินฝึกหัดค่ายนาดาว ได้เข้าประกวดในรายการ 789 Survival และได้มาเป็นภูธัชชัย แห่งวง BUS because of you i shine วงบอยกรุ๊ปที่มีสมาชิก 12 คน ที่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ในตอนนี้ “ผมทิ้งชีวิตเก่าไปหมดเลย เพื่อจะมาอยู่ตรงนี้” คำพูดเรียบง่ายของเขาบนเวทีคอนเสิร์ตครบรอบ 1 ปีของวงนั้นบ่งบอกอะไรมากมาย
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้มีโอกาสร่วมงานกับภูธัชชัย เขาแอบบอกว่าตื่นเต้นเพราะเป็นการถ่ายแฟชั่นเซ็ตคนเดียวครั้งแรก “ปกติจะมีเพื่อนๆ มาทำงานด้วยกันตลอด” และยังเป็นการถ่ายแฟชั่นกับ Prada ครั้งแรกด้วย “ผมชอบชุด Prada ที่ได้ใส่วันนี้มากๆ เพราะเป็นแบรนด์ที่ชอบด้วย แล้วก็ชอบที่ใส่ออกมาแล้วยังมีความเป็นตัวเรา อย่างลุคสูทสีน้ำตาลของ Prada ในความเป็นสูทมันก็มีดีไซน์อะไรที่แปลกใหม่ได้ แล้วก็เป็นสไตล์แบบที่ผมไม่ค่อยได้ใส่เท่าไหร่ ผมว่ามันเท่ดีครับ”
ถ้าดูจากอินสตาแกรมก็จะเห็นว่าภูธัชชัยนั้นสนุกกับการแต่งตัว
“จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้แต่งตัวเก่งขนาดนั้น แต่พอได้เป็นสมาชิก BUS ก็ทำให้ได้เรียนรู้ที่จะสนุกกับแฟชั่นมากขึ้น ได้ลองอะไรหลายอย่าง เมื่อก่อนแมตช์อะไรไม่ค่อยเก่ง อาจจะใส่แค่เสื้อยืด แต่ตอนหลังก็ต้องมีแจ๊กเก็ต มีการเลเยอร์เพิ่มลูกเล่น มันคือการทดลอง หาสิ่งที่เข้ากับตัวเอง เป็นการอัพเลเวลไปเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ผมชอบเสื้อยืดพอดีตัว ถ้ามันมีซิลลูเอตหรือเท็กซ์เจอร์ที่ดีมันก็ดูดีนะ แล้วไปเพิ่มพวกแอ็กเซสเซอรี่เอา แต่งน้อยแต่เท่อยู่ แล้วก็เข้ากับอากาศที่ไทย”
แฟชั่นของ รสบัส ก็มีความสนุกหรือหลากหลายเหมือนกันนะได้เปลี่ยนคาแรกเตอร์ต่างๆอยากรู้ว่าชอบลุคของตัวเองในเอ็มวีไหนที่สุด
“ชอบลุคไหนที่สุดเหรอ ผมขอนึกก่อนนะ…เอาจริงผมชอบลุคในเอ็มวี BOW WOW นะ ลุคแรกเป็นเสื้อลายๆ มีความคาวบอย มันเริ่มกลับมาฮิตกันในช่วงนี้ อีกลุคเป็นชุดสูทที่ดูแกลม มีเลเยอร์ ที่ไม่ค่อยได้ใส่ในชีวิตประจำวันเท่าไหร่”
แฟชั่นสำหรับภูธัชชัยคืออะไร
“มันคือความมั่นใจในการพรีเซนต์ตัวตน สื่อสารความเป็นตัวเองออกมา อย่างเสื้อผ้าลุคเดียวกัน คนแต่ละคนใส่มันก็ออกมาไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าเขาจะพรีเซนต์ออกมาอย่างไร แล้วมันก็ไม่มีกรอบหรือกฎเกณฑ์ด้วย มันไหลไปได้ตามความมั่นใจของเรา”
คำนิยามที่เหมาะกับตัวเองในวันนี้
“น่าจะเป็น…‘ดีใจกับทุกอย่างที่เข้ามา’ มีช่วงหนึ่งมันมีอะไรเข้ามาในชีวิตเยอะมากจนลืมนึกถึง ผมรู้สึกดีใจกับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นนะ แต่อาจจะยังไม่ทันที่จะซึมซับความดีใจขนาดนั้น ผมเลยรู้สึกว่าเราควรจะรู้สึกกับมันและ appreciate กับสิ่งที่เกิดขึ้นให้มากขึ้น”
เวลา 1 ปีกว่าๆที่เป็นที่รู้จักในฐานะสมาชิกวง รสบัส ปรับตัวได้หรือยัง
“มีช่วงหนึ่ง ผมคิดว่าผมปรับตัวได้แล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่งก็รู้สึกว่าการปรับตัวได้ก็อาจจะไม่มีอยู่จริง เพราะมันมีอะไรใหม่เข้ามาทุกวัน ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่ทันตั้งตัว มันมีความตื่นเต้นที่ได้เจอในทุกๆ วัน ซึ่งผมก็ยังชอบความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาเป็น BUS ได้เจออะไรใหม่ๆ ในทุกๆ วันครับ”
มีแฮชแท็กหนึ่งที่แฟนๆใช้เกี่ยวกับภูธัชชัยคือ –วันๆในหัวโต๋ยคิดอะไร จริงๆแล้วภูธัชชัยคิดอะไร
“คือมันจะมีช่วงสมองไหลครับ บางทีโฟกัสกับการซ้อมและการเตรียมตัวขึ้นโชว์เยอะมาก ผมว่าเพื่อนๆ ก็เป็น แต่อาจจะแสดงออกคนละแบบ วันที่ซ้อมเยอะหรือเหนื่อยมาก ผมจะปล่อยจอย อยากจะทำอะไรก็ทำ เหมือนได้พักแป๊บหนึ่ง”
ภูธัชชัยรักษาสมดุลชีวิตของตัวเองอย่างไร
“ผมว่าตารางชีวิตมันมีอะไรที่เปลี่ยนได้ตลอดเวลา อยู่ที่ว่าเราจะจัดสรรและรับมือกับมันได้ดีแค่ไหน ถ้าเหนื่อยจริงๆ ก็คือช่วงที่งานตรงกับช่วงสอบครับ ผมก็พยายามที่จะคีพทุกอย่าง ทำให้มีประสิทธิภาพ ผมว่ามีความอดทนที่จะฝ่าฟันมันไปให้ได้ในระดับหนึ่ง ทำให้มันคอมพลีตไวๆ”
อะไรเป็นไฮไลต์ของชีวิตในตอนนี้
“ถ้าในฐานะวง ก็น่าจะเป็นการที่เราได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่ IMPACT ARENA เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาครับ มันเหมือนมาถึงความฝันแล้วในฐานะวงครับ แต่สิ่งที่ดีที่สุดในความรู้สึกของผมในการได้มาเป็น BUS ก็คือ การได้มีเพื่อนที่ดี มันเป็นอะไรที่หาได้ยาก ถ้าไม่ได้มาทำงานตรงนี้ก็คงจะไม่ได้เจอเพื่อนๆ ที่ดีขนาดนี้ คือการมีเพื่อนที่ดีก็ทำให้การทำงานยิ่งมีความสุข”
พูดถึงผลงานเพลงล่าสุดอย่าง โบว์ว้าว เพลงนี้ภูธัชชัยได้เป็นเซ็นเตอร์ด้วยมันมีความหมายต่อตัวเราอย่างไร
“ในทุกๆ เพลง ทุกคนมีความสำคัญและต่างก็มีหน้าที่ครับ ส่วนการเป็นเซ็นเตอร์ก็คือการทำหน้าที่เป็นตัวแทนเพลงนั้น ในครั้งนี้พี่ๆ ทีมงานมองว่าเหมาะกับผม ตอนที่ประกาศก็ยังนั่งเหวออยู่เลย ไม่เคยคิดภาพตัวเองเป็นเซ็นเตอร์ แต่ก็อยากจะทำออกมาให้ดีที่สุดครับ ต้องพยายามเพิ่มมากขึ้น อัพเลเวลให้ตัวเอง ต้อง represent ให้ดี และรักษาภาพรวมให้เป็นหนึ่งเดียว ต้องซ้อมหนักทั้งร้องทั้งเต้น ต้องถามครูนอกรอบ ทำยังไงถึงจะเต้นได้ดี”
ได้ขึ้นแสดงบนเวทีประกาศรางวัล Asia Artist Awards 2024 ในกรุงเทพฯ แล้วมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองแล้วล่าสุด รสบัส กำลังจะได้ไปแสดงที่เทศกาลดนตรี Summ Sonic ที่ญี่ปุ่นด้วย
“ตอนแรกที่รู้ก็ตกใจนะ ไม่คิดว่าพวกเราจะได้รับเลือกให้ไปแสดงครับ มันเป็นงานใหญ่ของภูมิภาคนี้ และแฟนๆ ดนตรีต่างก็รอคอยงานนี้กัน มันคือที่สุดของมิวสิกเฟสติวัลด้วย มันคือการออกไปเพอร์ฟอร์มที่นอกประเทศครั้งแรกสำหรับเรา ตอนนี้ก็เตรียมตัวกันให้พร้อมที่สุดครับ”
ณ ตอนนี้มองการร้องเพลงเป็นอาชีพไหม
“ผมว่าใช่นะ ผมคิดว่าตัวเองจะร้องเพลงไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีคนอยากฟังผมร้องอยู่ มันสนุกและมีอะไรให้ค้นพบทุกวัน เราสามารถพัฒนาการร้องของเราไปได้เรื่อยๆ มีอะไรให้ค้นคว้ามากมายครับ”
ความท้าทายที่ได้ค้นพบหลังจากที่ได้เข้ามาเป็นศิลปิน
“น่าจะเรื่องเวลาพักผ่อน เมื่อก่อนเราจะมีเวลาว่างมากกว่านี้ เราก็จะไม่ได้เห็นคุณค่าของเวลานอนหรือเวลาพักผ่อนเท่าไหร่ แต่พอมาเป็นศิลปินแล้ว ทำงานมาจนแทบไม่มีเวลา ก็เลยเห็นคุณค่าของมันมากขึ้น ทุกครั้งที่เราว่าง เราก็อยากจะนอน อยากจะพัก ไม่ได้อยากออกไปไหน”
เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงอายุ 20 รู้สึกว่าข้างในตัวเองต่างไปจากเดิมไหม
“จริงๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่นะ ตอนวันเกิดที่ผ่านมา ผมไปทำงานที่ต่างประเทศกับเพื่อนๆ วง BUS พอดี ผมทำงาน กำลังสนุกอยู่ ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร เอาจริงๆ ผมลืมไปเลยว่ามันเป็นวันเกิด แต่เพื่อนๆ ก็เอาเค้กมาให้ รู้สึกดีใจมากครับ เป็นการฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆ น่าจะปีที่ 3 แล้วมั้ง…คือจริงๆ ผมไม่ได้อยากรีบโต อยากใช้ชีวิตดี๊ด๊าไปเรื่อยๆ อายุที่มากขึ้นมันก็ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นแหละ แต่ผมก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้กดดันตัวเองว่าต้องโตให้เร็วขนาดนั้นครับ”
ได้ให้ของขวัญตัวเองบ้างหรือยัง
“ผมเพิ่งให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับตัวเอง แต่อาจจะไม่ได้ให้ในวันเกิด คือผมพาตัวเองไปเที่ยวโซนยุโรปโดยใช้เงินจากการทำงานของตัวเอง เป็นอะไรที่ภูมิใจที่สุดตอนนี้แล้วมั้งครับ รู้สึกว่ามันมีค่ามาก เป็นการใช้เงินจากการที่เราตั้งใจทำงานมา ผมถือว่ามันเป็นของขวัญให้กับอายุ 20 ของผมได้เลยนะ แล้วเป็นการบินไปต่างประเทศเองครั้งแรกด้วย คือผมกะจะไปดูบอล ผมจองตั๋วเครื่องบินไปแล้ว แต่ลืมดูตารางว่ามันไม่มีแข่งช่วงนั้น ก็เลยแค่ได้ทัวร์สนามครับ แค่นี้ก็ดีใจนะ แล้วก็ไปดูแสงเหนือมาด้วย ผมว่ามันน่าจะอยู่ใน bucket list ของคนอื่นๆ เหมือนกัน”
ความฝันหรือความปรารถนาอื่นนอกจากงาน
“ผมชอบเที่ยว ชอบเที่ยวธรรมชาติ ชอบไปในที่ที่ไม่เคยไป แค่ช่วงหลังผมไม่ค่อยมีเวลาได้ไป แล้วถ้าใครติดตามผมจะรู้ว่าผมไม่ได้ติดโซเชียล ถ้าตอนเที่ยวก็จะหายไปบ้าง เพราะกำลังซึมซับกับตัวเอง ณ ตอนนั้นอยู่ อยากอยู่ตรงนั้นให้เต็มที่ แล้วก็ไม่ค่อยถ่ายรูปด้วย ผมแทบไม่ได้จับโทรศัพท์เลย การไปเที่ยวเป็นสิ่งที่ผมจอยแล้วก็ให้แรงบันดาลใจด้วย”
มีช่วงเวลาไหนในชีวิตที่รู้สึกเสียดายไหม
“ไม่มีเสียดาย แต่อาจจะแค่คิดถึงเฉยๆ อย่างช่วงเวลาที่เป็นนักศึกษาปี 1 ดีใจมากเพราะได้รู้จักคนเยอะขึ้น เพราะก่อนหน้านั้นผมเรียนโฮมสคูล สังคมก็จำกัด เพื่อนน้อย แล้วยังไม่ค่อยออกจากบ้านด้วย พอเข้าปี 1 ได้เจอเพื่อนใหม่ ได้ไปเดินห้างด้วยกัน รู้สึกว่าเป็น new chapter of my life แต่พอจบปี 1 ก็ถ่าย 789 Survival ก็ไม่ค่อยมีเวลาแล้ว พอนึกย้อนกลับไปช่วงมัธยมก่อนเรียนโฮมสคูล และช่วงปี 1 มันคิดถึงครับ”
ภูธัชชัยจะมีความสุขที่สุดถ้า–
“ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้าเป็นเหมือนตอนนี้ก็มีความสุขแล้ว”
ช่างภาพ: Intrachai Watmakawan
บรรณาธิการ: Watcharachai
นักเขียน: Pimpilai Boonjong
เครื่องสำอาง: บาร์เรล Sutipat
ผม: Kongkia Kriss-Reree
ผู้ช่วยช่างภาพ: Chudchpong Aumponrat, Surathphazut,
Leon Xavier Cole, Ratchaporn Muangsak
ผู้ช่วยสไตลิสต์: Panithan Prasongsanti, Warinrampai Tipetchupron
การตั้งค่า: Thirawat Saetae
ผู้ประสานงาน: Akeera Sasungnern
