พบกับนักแสดงสาวสุดฮ็อต พรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี ในเซ็ตแฟชั่นมาดเท่สุดโมเดิร์นจาก LOUIS VUITTON คอลเลกชั่น Spring/Summer 2025 ผสานไอเดียของลุคเพื่อการเดินทางที่เป็นตำนานของเมซง ถูกตีความแบบร่วมสมัยผ่านงานดีไซน์ที่ไร้กาลเวลา นำเสนอในแมทีเรียล เท็กซ์เจอร์ และเทคนิคงานตัดเย็บชั้นสูงแบบฝรั่งเศสได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ถ้าเปรียบกับเมื่อก่อนที่เราเจอเธอในวัย 16 ซึ่งเราได้ร่วมงานกับเธอครั้งแรก พรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี นักแสดงสาวในสังกัด GMMTV ในวันนี้เติบโตขึ้นมาก เธอกลายเป็นสาวสวยสะพรั่ง กล้าแสดงความเป็นตัวเอง แถมยังพูดเก่งขึ้นด้วย พูดได้ว่าเธอกำลังอยู่ในช่วงค้นหาและเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองผ่านการทำงานที่หลากหลาย รวมถึงการใช้ชีวิต “ความที่เราเริ่มจากงานถ่ายโฆษณามาก่อน กว่าจะแคสต์เยอะมากกว่าจะได้งาน แต่ก็ทำให้ได้รู้ว่าความพยายามเป็นสิ่งสำคัญ แล้วทุกๆ ก้าวในชีวิตมันสำคัญมากสำหรับพรีม ตั้งแต่เล่นโฆษณา ได้ถ่ายแบบ เป็นนักแสดง ได้ทำงานกับแบรนด์ต่างๆ มันใช้เวลากว่าจะไปถึงตรงนั้น”
ถ่ายแบบมาเยอะ ชอบงานด้านนี้ในแง่ไหน
“พรีมชอบเวลาที่ได้มาถ่ายแฟชั่นเซ็ต เพราะว่ามันทำให้คนได้เห็นตัวเราในลุคใหม่ๆ ซึ่งเราอาจจะไม่ได้ใส่ในชีวิตประจำวัน แล้วก็ได้ลองหลายๆ ชิ้นที่เราอาจจะไม่เคยใส่มาก่อน ทำให้เห็นว่าเราก็เปลี่ยนไปได้หลายสไตล์เหมือนกัน”
ถ้าดูในอินสตาแกรม พูดได้เลยว่าเป็นสาวแฟชั่นคนหนึ่งเลย อยากรู้ว่าสไตล์ของพรีมเป็นแนวไหน
“อาจจะแล้วแต่มู้ด แต่ส่วนใหญ่ก็จะชอบใส่ชิ้นเบสิก casual is key อย่างใส่ยีนส์ดีๆ สักตัว แมตช์กับอะไรที่เรียบๆ แล้วก็ไปเล่นที่แอ็กเซสเซอรี่แทน ยกเว้นว่าวันไหนอยากจะเปลี่ยนลุคหรือสนุกขึ้น”
แล้วการถ่ายแบบกับ Louis Vuitton ในครั้งนี้ พรีมประทับใจอะไร
“ชอบในบุคลิกความเรียบหรูแต่แฝงไว้ด้วยความเท่หน่อยๆ คือมันมีความชิคๆ คูลๆ และมีดีเทลและความคราฟต์”
วันสบายๆ ของพรีมเป็นอย่างไร
“ถ้าตื่นมาก็จะดูแลตัวเอง อย่างกินน้ำ ไปยิม เวลาว่างก็จะชอบอ่านนิยาย ไปกินข้าวกับครอบครัว แล้วก็ชอบเดินเล่น คือเป็นคนชอบเดินมากๆ เวลา ไปเที่ยวต่างประเทศ เดินไม่ต่ำว่า 20,000 ก้าวทุกวัน อาจจะเพราะว่าอากาศมันดีด้วย พอกลับมาไทย ไม่ค่อยได้เดิน ก็อยากไปเดินมากๆ แต่มันร้อน ก็เลยพยายามหาอะไรทำ”
ตั้งแต่วันแรกที่เข้าวงการมาจนถึงวันนี้ มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปไหม
“จริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังตื่นเต้นทุกครั้งกับการทำงานนะ มันเหมือนเราลุ้น เราตื่นเต้นกับงานที่ทำ พอเห็นผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ชื่นใจ พรีมคิดว่าความรู้สึกตื่นเต้นมันเป็นอะไรที่ดีสำหรับการทำงาน ทำให้เรามี motivation”
ในวัยแค่ 20 ต้นๆ ตัวพรีมคิดว่ามันมีอะไรที่เป็นอุปสรรคในการทำงานหรือในการใช้ชีวิตบ้างไหม
“น่าจะเป็นเรื่องประสบการณ์ชีวิตที่ยังน้อยมั้งคะ เวลาต้องแสดงละคร เราอาจจะต้องเล่นเป็นคนในวัยทำงาน ซึ่งตัวจริงเรายังไม่เคยทำงานเลย อย่างมีครั้งหนึ่งที่ต้องเข้าซีนถูกแต่งงาน มันต้องเป็นความรู้สึกอย่างไร ก็ต้องมาคิดเอา ถามคนอื่นที่เคยผ่านมาแล้วบ้าง”
จำได้ว่าพรีมสัมภาษณ์กับลอฟฟีเซียลครั้งแรกตอนอายุ 16 ตอนนั้นยังเป็นเด็กมัธยมอยู่เลย แต่ตอนนี้เรียนมหาลัยแล้ว มันมีการเปลี่ยนแปลงทางความคิดหรือหน้าที่อะไรบ้างไหม
“ตอนนี้พรีมเรียนบัญชีบริหารจุฬาฯ เราต้องไปเรียนเกือบจะทั้ง 5 วันต่ออาทิตย์ บางทีมันก็จัดการได้ยาก แต่ก็ได้พี่ๆ ช่วยดูให้ บางครั้งพอเรียนเสร็จก็ต้องรีบมาถ่ายงานต่อ ซึ่งระดับมหาลัยมันก็แทบจะขาดเรียนไม่ได้ เราก็พยายามรับงานที่ไม่ตรงกับวันที่มีเรียนหรือมีพรีเซนต์หรือวันที่เราต้องนัดทำงานกับเพื่อน เลยต้องจัดเวลาดีๆ”
จากผลงานที่ผ่านมาหลายบทบาท ได้ร่วมงานกับพระเอกหลายคน เป็นอย่างไรบ้าง
“มันก็เหมือนการได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ไปเรื่อยๆ หรือถ้าได้ร่วมงานกันบ่อย ก็อาจจะได้รู้จักกันในมุมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างเรื่อง ‘เพราะเธอคือรักแรก A Love So Beautiful’ ที่เล่นกับพี่ดิว-จิรวรรตน์ คือเราอาจจะเคยแสดงในเรื่องเดียวกัน (F4 Thailand: Boys Over Flowers) แต่พอมาประกบคู่กันในเรื่องนี้ ก็ทำให้รู้ว่าเขาชอบเล่าเรื่องตัวเอง และมีมุมตลกของเขา และเขาชอบคิดว่าพรีมพูดเบาหรือพูดคนเดียว หรืออย่างพี่วิน-เมธวิน ก็จะชอบกิน (หัวเราะ) ที่โต๊ะจะมีอาหารหลายอย่างให้เขาเลือกกิน แล้วเขาก็ชอบแบ่งฟู้ดซัพพอร์ตให้พรีมด้วย”
มีบทบาทไหนที่เราอยากลองเล่นบ้างไหม
“อยากลองบทที่มีความ empowering หน่อยๆ มีความเป็นผู้นำ หรือไม่ก็ต้องโตขึ้นทางอารมณ์ความรู้สึก มีความร้ายๆ อยู่บ้างก็ได้ อยากลอง explore แนวๆ นี้ คิดว่าการที่เราได้แสดงเป็นตัวละครอื่นๆ มันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรจากตรงนั้นเยอะมาก อย่างตอนที่เล่นเป็นส้มโอใน ‘เพราะเธอคือรักแรก A Love So Beautiful’ พรีมรู้สึกว่าตัวเองได้ความสงสัยมาจากตัวละคร ตัวนี้เยอะมาก เพราะมันเป็นตัวละครที่บวกสุดๆ มันทำให้พรีมกล้าแสดงออกมากขึ้น คนยังทักว่าเราพูดเยอะขึ้นและแฮปปี้ เพราะเราต้องสวมบทเป็นเขาอยู่นานเป็นเดือนๆ”
แล้วปีนี้จะมีอะไรให้เราได้ติดตามไหม
“น่าจะมีนะ ตอนนี้เริ่มถ่าย ‘The Dark Dice เกมทอยทะลุมิติ’ แล้วเรื่องนี้แสดงคู่กับเจมีไนน์ มีทั้งหมด 8 ตอนค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กนักเรียนที่เล่นเกมทอยลูกเต๋าแล้วหลุดเข้าไปในเกมแล้วต้องเอาตัวรอดไปในแต่ละด่าน ซึ่งบทที่เราได้รับก็คือจะเอ๊ะหน่อย เธอคือใครกันนะ เล่าได้แค่นี้ (หัวเราะ)”
มาถึงตอนนี้ คิดว่าประสบความสำเร็จกับอาชีพนี้ไหม
“ยังนะคะ เราอาจจะเหมือนเล่นมาหลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะรู้สึกแบบนั้น ยังมีอะไรให้ทดลองและเรียนรู้อีกเยอะค่ะ”
แล้วความสำเร็จของเราชี้วัดด้วยอะไร
“น่าจะเป็นการได้แสดงผลงานดีๆ ให้คนได้ชมและได้เข้าใจในสิ่งเราจะสื่อผ่านผลงานนั้นๆ ถ้าได้แบบนี้ก็น่าจะดี น่าจะฟูลฟิล คือเราอาจจะไม่มี เป้าหมายที่ชัดเจนขนาดนั้น เพราะเราก็อายุยังน้อย ยังไม่อยากตั้งเป้าหมายขนาดนั้น เพราะถ้าไปถึงแล้ว เราจะไปไหนต่อ ก็ยังอยากทำงานนี้ไปเรื่อยๆ แล้วก็อยากไปทำงานต่างประเทศ อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง ไม่ว่าจะเป็น งานแสดง หรืองานด้านแฟชั่นก็ตาม คิดว่ามันเป็นงานที่น่าสนใจซึ่งเรายังไม่เคยก้าวเข้าไป”
เคยได้ยินมาว่าพรีมอยากทำเอ็มวีของตัวเองบ้าง
“อาจจะเพราะพรีมแสดงเอ็มวีให้คนอื่นมาเยอะ ก็อยากมีของตัวเองบ้าง จะได้คิดพล็อต คิดมุมต่างๆ แต่งั้นก็ต้องร้องเพลงเหรอ (หัวเราะ)… ก่อนหน้านี้ ได้ไปร้องเพลงในคอนเสิร์ตมาบ้าง เป็นสิ่งที่ใหม่ที่สุดในชีวิต คนอื่นเขามี พื้นฐานมาแล้ว แต่เราเริ่มใหม่เลย ก็มีความท้อนิดหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ฮึบ ทำได้ เพราะทุกคนก็ตั้งตารอดูเราในมุมใหม่ๆ ก็เลยตั้งใจพัฒนาตัวเองมากๆ”
เคยบอกว่าแรงบันดาลใจมาจากแฟนคลับ มีอะไรอยากบอกแฟนๆ ไหม
“ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ รู้สึกขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ และซาบซึ้งกับทุกข้อความที่ทุกคนส่งมา บางวันที่เรารู้สึกแย่ๆ ก็มีข้อความเหล่านั้นที่เป็นกำลังใจ อาจจะด้วยความที่เราเป็นอินโทรเวิร์ตด้วยมั้ง เราอาจจะอธิบายหรือสื่อสารความรู้สึกไม่ค่อยเก่ง แต่ก็ขอบคุณที่เขายังเข้าใจและยังอยู่กับเรา แล้วทุกครั้งที่ได้เจอกันมันมีความหมายกับเรามาก ก็จะตั้งใจพัฒนาตัวเองต่อๆ ไปเรื่อยๆ”
นิยามความเป็นตัวเอง
“ยังไงดี พูดน้อย แต่ถ้าสนิทก็จะขี้อ้อนและชอบสกินชิป แล้วก็ chic but cute คือมีความชิคแต่ก็น่ารักหน่อยๆ…อุ้ย เราจะชมตัวเองเหรอ (หัวเราะ)”
สไตลิสต์: Mile Supakasem; แต่งหน้า: SUPHANUT TICHANA; ผม: Patipan Langkapayom ผู้ช่วยถ่ายภาพ: Chudchpong Aumponrat, Chayathat Nuchpum, Leon Xavier Cole
ผู้ช่วยสไตลิสต์: Panisa Phunchuch, Chotipong Chunnuan; ผู้ประสานงาน: Akera Sasunknern
