รวมข้าวเเช่อาหารไทยประจำฤดูร้อนจากห้องอาหารของโรงเเรมมากมาย อาหารเลิศรสของไทยมาแต่ดั้งเดิม โดยจะเสิร์ฟในช่วงฤดูร้อน โดยเริ่มเป็นที่แพร่หลายในสมัยรัชกาลที่ 4 ภายในวังหลวงและชนชั้นสูง เนื่องจากต้องใช้ทั้งเวลา วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม และฝีมือการปรุงอาหารชั้นครู
เฟื่องฟู
ใบไม้ เเละดอกบัว
ห้องอาหาร Flourish โรงเเรม Sindhorn Kempenski Bangkok Hotel นำเสนอ “ข้าวแช่” สำรับของว่างไทยคลายร้อน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันในการปรุงและความละเมียดในรสสัมผัส เชฟชัชษร ประทุมมา Executive Sous Chef และเป็นเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย ของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ได้บรรจงรังสรรค์เมนูข้าวแช่ โดยคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศมาปรุงเป็นข้าวแช่พร้อมเครื่องเคียง ตำรับชาววัง เริ่มตั้งแต่การคัดสรรข้าวหอมมะลิคุณภาพดี นำมาหุงด้วยกรรมวิธีพิเศษจนได้ข้าวที่เรียงเม็ดสวย จากนั้นนำไปอบควันเทียนเพิ่มความหอม ในส่วนของน้ำลอยดอกไม้สำหรับข้าวแช่ ทางเชฟชัชษรจะนำน้ำมาต้มให้สุกและทิ้งข้ามคืนเพื่อให้กลิ่นคลอรีนระเหย จากนั้นนำดอกไม้หอมทั้งดอกมะลิและกลีบกุหลาบมอญ มาล้างให้สะอาดและนำใส่ลงในน้ำที่เตรียมไว้ พร้อมอบควันเทียนให้หอมกรุ่น ทำให้สัมผัสความหอมละมุนเมื่อได้ลิ้มลอง เครื่องเคียงรสเลิศเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เชฟชัชษรได้เตรียมไว้ให้คุณได้ลิ้มลองถึง 7เมนู
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายนนี้ ตั้งแต่เวลา 12:00 – 15:00 น. ณ ห้องอาหารเฟลอริช โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ รับประทานที่ห้องอาหาร ในราคาชุดละ 990++บาทสำหรับรับประทาน 1 ท่าน
สำรับข้าวแช่ Takeaway ในราคาชุดละ 1,290++บาทสำหรับรับประทาน 1 ท่าน สั่งสำรับข้าวแช่ Takeaway พร้อมตระกร้ากระจูดสีเขียวดีไซน์เก๋ ในราคาชุดละ 1,900++ บาทสำหรับรับประทาน 1 ท่าน
ศาลาทิพย์
ปิ่นโต เเละ High tea เเบบไทย
ฉลองเทศกาลสงกรานต์ด้วยเมนูชุดพิเศษที่นำเสนอรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวแช่ตำรับชาววัง หนึ่งในเมนูคลายร้อนยอดนิยมของชาวไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจัดเป็นอาหารจานเด่นภายในเมนูชุดเพิเศษต้อนรับสงกรานต์ “ข้าวแช่ชาววัง” ตำรับนี้ ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิอบควันเทียนแช่ในน้ำลอยดอกมะลิหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่ปรุงอย่างปราณีต ได้แก่ ลูกกะปิทอด หอมแดงสอดไส้เนื้อปู ไชโป๊ผัดหวานที่ใช้น้ำตาลโตนดแท้จากธรรมชาติในการให้รสหวาน และเนื้อฝอย นอกจากข้าวแช่ชาววังแล้ว แขกจะได้ลิ้มรสอาหารไทยต้นตำรับรสชาติเยี่ยม เช่น แกงเลียงกุ้ง ปลากระพงขาวทอดราดซอสมะขาม ฉู่ฉี่กุ้งลายเสือ ไข่เจียวไก่สับใบโหระพา และของหวานไทยโบราณที่หารับประทานได้ยากอย่างส้มฉุน ซึ่งเป็นหนึ่งในของหวานจากบทพระราชนิพนธ์กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อันประกอบด้วย ลิ้นจี่ลอยแก้วหอมกรุ่นกลิ่นส้มซ่า
เมนูชุดพิเศษต้อนรับสงกรานต์นี้ราคาชุดละ 2,589 บาทถ้วน สำหรับผู้ใหญ่ เปิดให้บริการสำหรับมื้อค่ำตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568 ที่ ห้องอาหารไทย ศาลาทิพย์ ณ Shangri La Hotel ในบรรยากาศอันแสนรื่นรมย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ห้องชาสยาม
ตู้กับข้าวและเรือไม้
ห้องอาหาร The Siam Tea Room ห้องอาหารไทยดั้งเดิม ณ โรงเเรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park ริมแม่น้ำเจ้าพระยา Asiatique The Riverfront เชิญชวนทุกท่านต้อนรับฤดูร้อนด้วย “ข้าวแช่เจ้าพระยา” อาหารชาววังรสเลิศ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงตำรับโบราณสุดประณีต นำเสนอสำรับสุดพรีเมียมที่สะท้อนมรดกแห่งวิถีชีวิตริมน้ำ ด้วยเครื่องเคียงกว่า 20 ชนิด คัดสรรจากวัตถุดิบชั้นเยี่ยม เสิร์ฟมาในสำรับที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ตู้กับข้าวและเรือไม้ อันเป็นเอกลักษณ์ เริ่มต้นมื้อพิเศษด้วยของว่างคลาสสิก เช่น ม้าฮ่อสับปะรดย่าง เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่ม ส้มฉุนลิ้นจี่ โรยหอมแดงทอด ก่อนสัมผัสเมนูไฮไลท์ ข้าวแช่สองสี ทำจากข้าวสุรินทร์และข้าวอัญชัน เสิร์ฟในน้ำลอยดอกไม้หอมอบร่ำ ตามด้วยเครื่องเคียงตำรับชาววัง ปิดท้ายด้วยของหวานสุดพิเศษ มะม่วงแก้วขมิ้นเชอร์เบทน้ำปลาหวานกุ้งแห้ง ท็อปปิ้งด้วยมะม่วงหนึบ มอบรสสัมผัสที่สดชื่นลงตัว
ตั้งแต่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2568 เวลา 11:30 – 17:00 น. ณ ห้องอาหาร เดอะ สยาม ที รูมท์ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ราคาชุดละ 980 บาทสุทธิ (รับประทานที่ร้าน) หรือสั่งกลับบ้านชุดละ 1,280 บาทสุทธิ
House of Smooth Curry
พานเเก้วบนใบบัว
ห้องอาหาร The House of Smooth Curry ณ The Athenee Hotel โดยเชฟมนตรี จิรฐิติกาลกิจ คัดเลือกข้าวหอมมะลิออร์แกนิกจากกลุ่มเกษตรกรจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเมล็ดเรียงสวยและมีกลิ่นหอม รังสรรค์ข้าวในน้ำดอกมะลิแช่เย็นในชามที่สวยงาม พร้อมด้วยเครื่องเคียงรสหวาน เปรี้ยว เผ็ด และเค็ม เป็นการผสมผสานของรสชาติที่ปลุกเร้าหลากหลายประสาทสัมผัส สูตรอาหารโบราณนี้มีต้นกำเนิดในอาณาจักรมอญ และได้รับการปรับปรุงและพัฒนาโดยราชสำนักไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5, พ.ศ. 2411-2453) และปัจจุบันได้กลายเป็นเมนูเด่นที่อยู่คู่กับฤดูร้อนในประเทศไทย
ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายน 2568 นี้ ห้องอาหาร The House of Smooth Curry ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 โรงแรม The Athenee Hotel มื้อกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 – 14.30 น. และมื้อเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. ในราคา 950++ บาทต่อเซ็ต สำหรับรับประทานที่ห้องอาหาร และราคา 1,350+ บาทต่อเซ็ต สำหรับซื้อกลับบ้าน
OSHA
ดอกชมนาด กระดังงา กุหลาบมอญ และมะลิ
ร้าน Royal Osha จึงต้อนรับคิมหันต์ฤดู กับเมนูที่รังสรรค์มาตั้งแต่โบราณกับการคลายร้อนด้วยความอร่อย โดยเชฟวิชิต มุกุระ Executive Chef ถ่ายทอดความเป็นไทยสไตล์พรีเมียมสุดวิจิตรบรรจงให้นักชิมอิ่มเอมไปกับเครื่องเคียง รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศทั้ง 7 อย่างตามตำรับชาววัง พร้อมเครื่องเคียงพิเศษลำดับที่ 8 ในปีนี้ “เห็ดหวาน ทรงเครื่อง” มาเสริมสำรับเพื่อเป็นทางเลือกของคนรักการรับประทานอาหารแพลนต์เบส และสำหรับฤดูร้อนนี้ได้ผลไม้คล้ายร้อนมาช่วยเรียกน้ำย่อย “มะม่วงน้ำปลาหวาน” และ “ฝรั่งสีชมพูทำเป็นม้าฮ่อ” นอกจากนี้เชฟยังได้รังสรรค์ของว่าง “ยำมะยงชิด” เพื่อเปิดต่อมรับรสด้วยรสชาติจัดจ้าน ให้ได้คลายร้อนในวันที่อบอ้าวก่อนเข้าสำรับข้าวแช่
ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 กรกฎาคม 2568 ภายใน 1 สำรับ ประกอบด้วย ของว่าง 2 ชนิด ข้าวแช่ และผลไม้ลอยแก้ว ราคาชุดละ 1,350++ บาท/ท่าน และข้าวแช่บรรจุในกล่องของขวัญดีไซน์สวยงามคล้ายปิ่นโตทรงเหลี่ยม ราคา 2,300 บาทสุทธิ/กล่อง
Saneh Jaan
ข้าวแช่เสน่ห์จันทน์ไม่ได้เป็นแค่เมนูไทยโบราณ แต่เป็นการสืบทอดความพิถีพิถันจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ผ่านการพัฒนาและปรับสูตรมาอย่างต่อเนื่องกว่า 8 ปี โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตำรับดั้งเดิมของตระกูลบุนนาค และครัวข้าหลวงในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทัศน์สิริโสภา ทีมเชฟของเสน่ห์จันทน์จึงได้สร้างสรรค์ข้าวแช่ ที่มีเอกลักษณ์และความละเอียดละออในการปรุง หัวใจสำคัญของข้าวแช่ คือ “ข้าว” เชฟจะเลือกใช้ข้าวเก่าในการหุงเป็นข้าวเก่าที่ผ่านการขัดยางอย่างประณีต ตามตำรับชาววัง ซึ่งข้าวเก่าจะมียางน้อย ทำให้เวลาเทน้ำลอยดอกไม้น้ำจะใส ไม่ขุ่น โดยทางร้านจะเสิร์ฟเป็นข้าว 2 สี สีฟ้าจะหุงกับน้ำอัญชัน
ตั้งเเต่วันนี้ถึง 18 พฤษภาคม 2568 ในราคา 1,290++ บาท/ท่าน ในส่วนของรอบข้าวแช่ 11.30 – 2.00 น.พิเศษเพียงแต่งชุดไทยมาทานข้าวแช่ รับฟรีขนมหวาน
อ่านบทความเพิ่มเติม:
ดื่มด่ำกับรสชาติอาหารต้อนรับเทศกาลกินเจจาก SAVA all day dining
Luxury Group Dining Series สุนทรียะของการรวมยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญและเชฟผู้ช่ำชอง
