พิพิธภัณฑ์ Poly MGM เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ ควบคู่ไปกับการจัดแสดงนิทรรศการปฐมฤกษ์สุดยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่อ “The Maritime Silk Road: เส้นทางสายไหมทางทะเล — ร่วมค้นพบความลึกลับแห่งท้องทะเลและสมบัติล้ำค่าบนเส้นทางการค้าโบราณ” ซึ่งเป็นความร่วมมือเชิงวิสัยทัศน์ระหว่าง บริษัท โพลี คัลเจอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Poly Culture) และ MGM ตั้งอยู่ในพื้นที่ของรีสอร์ทสุดหรู MGM MACAU โดยนิทรรศการครั้งนี้ มุ่งเน้นการนำเสนอธีมหลักเกี่ยวกับเส้นทางสายไหมทางทะเลผ่านหลักฐานด้านโบราณคดีทางทะเลต่างๆ ให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลินไปกับการเดินทางข้ามผ่านห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์โบราณ สู่การพัฒนาในโลกปัจจุบัน ไปจนถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของเส้นทางการค้าในมหาสมุทรทั่วโลก
พิพิธภัณฑ์ Poly MGM ถือเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างวัฒนธรรมและห้วงเวลา โดยผสมผสานการเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรมและมรดกที่สืบทอดกันมาไว้ภายในเลย์เอ้าท์การจัดแสดงที่สวยงาม สมบูรณ์ และปรับเปลี่ยนได้อย่างไร้ขีดจำกัด เปี่ยมด้วยผลงานศิลปะแบบอินเตอร์แอคทีฟที่นำเสนอผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำหน้า มุ่งเน้นการใช้วัสดุที่ถ่ายทอดความสำคัญทางวัฒนธรรมและสุนทรียภาพอย่างลงตัว รวมถึงการใช้เทคนิคอย่างพิถีพิถันที่สุดในการอนุรักษ์และจัดแสดงวัตถุทางศิลปะต่างๆ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ช่วยเสริมสร้างการนำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในแบบดั้งเดิมผ่านการดีไซน์ที่ร่วมสมัย ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบของนิทรรศการในแต่ละครั้งให้กลายเป็นเรื่องราวที่สดใหม่ ผ่านการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์เข้ากับศิลปะร่วมสมัย ท่ามกลางบรรยากาศการใช้เทคนิคการเล่นแสง เงา และภาพที่งดงามมีชีวิตชีวาเข้าด้วยกัน เพื่อกระตุ้นความรู้สึกทางศิลปะของผู้มาเยือนรวมทั้งเสริมสร้างให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ พิพิธภัณฑ์ Poly MGM จึงเป็นนิวาศน์สถานแห่งงานศิลป์ที่ไม่ถูกจำกัดด้วยพรมแดนของประเทศ เปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมให้เกิดการสนทนาและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในระดับโลก
หุ่นข้าราชการพลเรือน 3 สีสมัยราชวงศ์ถัง (Tang Tricolor Civil Official Figurine) แสดงถึงฝีมือช่างอันประณีตและโทนสีอบอุ่น พร้อมความสดใสและสมจริงในแบบฉบับของสมัยราชวงศ์ถัง ด้วยความสูงถึงหนึ่งเมตรจึงถือว่าเป็นวัตถุโบราณที่หายากและล้ำค่าอย่างยิ่ง (ได้รับความอนุเคราะห์จากพิพิธภัณฑ์ Poly Art Museum)
ภายใต้แนวทางจากองค์กร Guidance of Art Exhibitions China และ Poly Group นิทรรศการปฐมฤกษ์ “The Maritime Silk Road: เส้นทางสายไหมทางทะเล ได้รับการขับเคลื่อนโดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงจากประเทศจีน อิตาลี และฝรั่งเศส โดยรวบรวมคอลเลกชั่นศิลปวัตถุและงานศิลปะที่น่าประทับใจกว่า 228 ชิ้นจาก 184 ชุดมาจัดแสดง ซึ่งเป็นการโชว์เคสวัตถุต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับเส้นทางสายไหมทางทะเล รวมถึงวัตถุโบราณมากมายที่ค้นพบใต้น้ำ ผ้าไหม เครื่องเทศ และสมบัติหายากต่างๆ ด้วยความครอบคลุมด้านศิลปวัตถุที่นำมาจัดแสดง ตั้งแต่เอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ ไปจนถึงเครื่องเทศและสมบัติล้ำค่าอื่นๆ นิทรรศการครั้งนี้จึงเป็นการผสมผสานผลงานจากช่างฝีมือเข้ากับศิลปะร่วมสมัยได้อย่างกลมกลืน โดยการบูรณาการด้านข้อมูลเชิงลึกระหว่างภัณฑารักษ์ระดับนานาชาติเข้ากับเทคโนโลยีการนำเสนอขั้นสูง ช่วยยกระดับคุณภาพการรเข้าชมนิทรรศการให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ทั้งในด้านข้อมูลเชิงวิชาการ ความเป็นเลิศทางศิลปะ ประสบการณ์แบบอินเตอร์แอคทีฟ ไปจนถึงการมีส่วนร่วมของผู้เข้าชม
โซนจัดแสดงนิทรรศการใน 4 ธีม ทางพิพิธภัณฑ์ได้แบ่งโซนจัดแสดงตามธีมหลัก 4 โซนด้วยกัน ได้แก่ 1.) มรสุม (มรสุม), 2.) ต้นกำเนิดวัฒนธรรม (แหล่งกำเนิดทางวัฒนธรรม) 3.) การบูรณาการ (Integration) และ 4.) การเชื่อมต่อ (Connections) ซึ่งแต่ละโซนถูกเชื่อมโยงกันด้วยเส้นเวลาทางประวัติศาสตร์ที่ครอบคลุมตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงเส้นทางสายไหมทางทะเลสมัยใหม่ โดยนิทรรศการมีการนำเสนอแง่มุมต่างๆ ตั้งแต่ที่มา การพัฒนา ผลกระทบ และแนวโน้มในอนาคตต่อเส้นทางสายไหมทางทะเล
โดยในโซนแรก “มรสุม” เป็นการนำเสนอมุมมองระดับมหภาคเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษยชาติ ตั้งแต่ความเคารพที่มีต่อท้องทะเลอย่างลึกซึ้ง ไปจนถึงความเข้าใจอันถ่องแท้และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการนำทางและการสำรวจ ซึ่งการจัดแสดงในโซนนี้ เน้นการเชื่อมโยงช่วงเวลาต่างๆ ทางประวัติศาสตร์เข้ากับลำดับเวลาของอารยธรรมทางทะเล แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของชีวิตประจำวันที่เป็นผลมาจากอิทธิพลทางทะเล รวมถึงภาพประกอบนิทรรศการที่เปี่ยมด้วยสีสันอันสดใสของเส้นทางสายไหมทางทะเล
Cr. ทะเลจีนใต้ Cr. จีน (ไห่หนาน)
พิพิธภัณฑ์ภาคใต้
ทะเลจีน
สำหรับในโซนที่ 2 “ต้นกำเนิดวัฒนธรรม” เป็นการใช้โบราณคดีใต้น้ำมาเป็นแกนของการเล่าเรื่อง โดยเน้นการนำเสนอโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมเพื่อบ่งชี้ลักษณะเฉพาะของเส้นทาง ภายในโซนนี้ ผู้เข้าชมนิทรรศการจะได้เห็นประวัติศาสตร์เส้นทางสายไหมทางทะเลกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยการจัดแสดงชิ้นงานอันน่าทึ่งต่างๆ อาทิ ซากเรืออับปาง สิ่งประดิษฐ์ทางวัฒนธรรมที่กู้มาจากใต้น้ำ รวมถึงซากที่เหลืออยู่ของท่าเรือโบราณ เป็นต้น โดยเป็นการไขความกระจ่างเกี่ยวกับการค้าทางทะเลในประวัติศาสตร์ของจีน และยังเป็นหลักฐานสำคัญในการปกป้องประวัติศาสตร์โบราณเกี่ยวกับใต้ท้องทะเลของจีน
ในโซนที่ 3 “บูรณาการ” เป็นการเน้นย้ำถึงผลลัพธ์จากการปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างโลกตะวันออกและโลกตะวันตก ซึ่งแสดงให้เห็นผ่านการแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้า การเดินทางของคณะทูต การแบ่งปันมรดกทางวัฒนธรรม และคลื่นแห่งการอพยพของประชากร ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการตอกย้ำถึงอิทธิพลที่สำคัญของเส้นทางสายไหมทางทะเลที่มีต่อการเสริมสร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั่วโลก
สี่หัวสัตว์ปีนักษัตรทำด้วยบรอนซ์มาจากพระราชวังฤดูร้อนเก่า (Old Summer Palace Bronze Heads of Zodiac Animals) จัดแสดงอยู่ในนิทรรศการโซนที่ 3 “บูรณาการ” (ได้รับความอนุเคราะห์จากพิพิธภัณฑ์ Poly Art Museum)
โซนที่ 4 “การเชื่อมต่อ” ซึ่งเป็นโซนสุดท้าย มุ่งเน้นไปยังพัฒนาการในปัจจุบันและการมองไปข้างหน้าสู่อนาคต โดยเป็นมุมมองจากการมีบทบาทร่วมกันของมนุษย์ในการปกป้องและการสำรวจภาคพื้นทะเลในยุคใหม่ ผ่านสื่อจัดแสดงในรูปแบบต่างๆ ทั้งภาพถ่าย งานศิลปะ และผลงานศิลปะติดตั้ง (Installation Art) สะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาที่จีนกำลังรุดหน้าไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้น ยังผลให้เกิดโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ อีกมากมายที่ถูกปลุกขึ้นมาให้เผชิญตามเส้นทางสายไหมทางทะเล
เส้นทางสายไหมทางทะเลเป็นประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต เป็นแหล่งรวบรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการผสมผสานระหว่างความเก่าแก่เข้ากับความทันสมัย เส้นทางนี้ยังคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ดุจดั่งมรสุมที่โถมซัดอยู่เบื้องบนผืนน้ำและกระแสน้ำที่ไหลวนอยู่ใต้พื้นผิวทะเล ร่วมสัมผัสชีพจรแห่งวัฒนธรรมระดับโลกผ่านมุมมองของมาเก๊าในนิทรรศการปฐมฤกษ์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เวลาเปิดทำการ: จันทร์ ถึง พฤหัสบดี: 11:00-19:00 น., ศุกร์: 11:00-21:00 น., เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์: 10:00-20:00 น.
ชมบรรยากาศภายในนิทรรศการ The Maritime Silk Road
อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจ
ดื่มด่ำกับการเดินทางบนผืนน้ำ พร้อมลิ้มรสอาหารไทยบนเรือลำใหม่ ‘อัปสรา (Apsara)’
ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน เปิดตัว ‘Legends of the Lotus’ เมนูใหม่เอาใจคนรักอาหารไทยโมเดิร์น
ลายัน ไลฟ์ บาย อนันตรา เวลเนสรีทรีตรูปแบบใหม่ในภูเก็ต
