แกะรอยวัฒนธรรม GEN Z ในสยามแสควร์จากซีรีย์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ

จากกระแสความโด่งดังของซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ กำกับโดย บอส-นฤเบศ กูโน ผู้กำกับฝีมือเจ้าของผลงานโด่งดังอย่างซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ และภาพยนตร์ วิมานหนาม โดยซีรีส์รักวัยรุ่นจากค่าย LOOKE ค่ายน้องใหม่ที่จับมือกับ iQIYI เรื่องนี้ ทำให้กระแสการทำเล็บแบบ Nail Art และสถานที่ต่างๆในสยามกลับมาเป็นที่ฮอตฮิตอีกครั้ง
นอกจากความประสบความสำเร็จในกระแสความนิยมในตัวซีรีย์และความโด่งดังของทั้ง 4 หนุ่มนักแสดงนำ ไม่ว่าจะเป็น นิว ชยภัค ตันประยูร, ไปป์ มนธภูมิ สุมนวรางกูร, พีเจ มหิดล พิบูลสงคราม และ เลออน เซ็ค ซีรีย์เรื่องนี้ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนบันทึกบนเส้นทางการเวลาที่เปลี่ยนไปในย่านสยาม และเป็นเครื่องสะท้อนถึงวัฒนธรรมของเหล่า GEN Z ในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ภาพยนตร์ที่ฉายภาพความโรแมนติกและการเติบโต (Coming of Age) ของวัยรุ่นสองคนอย่าง รักแห่งสยาม โดยผู้กำกับอย่าง ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ก็เคยเป็นเครื่องบันทึกของความเป็นไปในสยามแสครว์และกิจกรรมต่างๆของวัยรุ่นในยุคนั้นที่หากเราย้อนกลับไปดูจะเห้นได้ว่าเทรนด์ต่างๆและแนวคิดของคนในแต่ละช่วงเวลามีความแตกต่างอย่างมีเสน่ห์และน่าเรียนรู้
นอกจากการเรื่องราวของซีรีย์ที่มีฉายหลังและสถานที่ถ่ายทำเป้นสยามสแครว์แล้ว เรื่องการใช้มือถือในการถ่านทำก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งน่าสนใจและน่าทึ่งอย่างยิ่ง โดย ตั้ง ตะวันวาด ผู้กำกับภาพของซีรีย์นี้กล่าวว่า เขาไม่คิดว่าจะได้ใช้ดทรศัพท์ถ่ายหนังเรื่องไหนอีกแล้วถ้าไม่ใช่เรื่อง GELBOYS ด้วยตัวบทที่ส่งเสริม การเคลื่อนย้ายที่สะดวกในพื้นที่ที่มีคนพลุกพลานอย่างสยามแสครว์ และการสะท้องถึง “โทรศัพท์ Culture” ในปัจจุบัน
สัญญาณความรักบนโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยี
อินเตอร์เน็ตกับการเป็น GEN Z ก้เรียกได้ว่าเป็นของคู่กัน โลกเสมือนที่เป็นสื่อกลางให้บุคคลสร้างและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ ในเรื่องพฤติกรรมต่างๆที่พี่วิเชียรทำบนโซเซียลกับโฟร์มดเป้นเหมือนรหัสลับที่คนในเจนซีเขารู้กันเช่น บน Instagram มากดไลด์โดยที่เราไม่รู้จักและไปได้ติดตามกัน การ Airdrop รูปให้กันบนมือถือของ Apple นอกจากเป็นการคัดสรรสมาชิกคนรพูดภาษา IOS ด้วยกันแล้วยังเป็นการเปิดบทสนทนาก่อนที่จะแลกช่องทางติดต่อ สิ่งเหล่านี้เรียกว่า”การทอดสะพาน” เมื่อรู้จักกันแล้ว แต่เครื่องหมายที่จะบอกได้ว่าสองคนนี้สนิทกันสุดๆไม่ว่าจะสถานะเพื่อนหรือแฟนคือการ ติดตามกันบน Spotify และถ้าหากยิ่งแชร์เพลยลิสต์ด้วยกันนี้คืออีกครั้งหนึ่งของความสัมพันธ์
และเรา choose ซึ่งกันและกันแล้ว แต่จุดสูงสุดของความสัมพันธ์นั้นก้คงหนีไม่พ้นการได้อยู่ในโลกดาวสีเขียวอย่าง “Close Friend”ใน Instagram ที่จะได้เห็นสตอรี่ชีวิตของเขาอย่างเอ็กคลูซีฟแบบไม่กั๊ก แต่ถ้าอยากไปอีกครั้งก็ต้องเป็นสตอรี่สีเขียวในไอจีที่เขาตั้งมาเพื่อไม่ให้ใครทราบตั้งตนมีเพียงคนสนิทเท่านั้นหรือเรียกอีกชื่อว่าไอจีไพรเวทหรือ”ไอจีหลุม” แต่ส่วนใหญ่คนที่อยู่ในโลกสีเขียวของไอจีหลุม ทุกคนล้วนอยู่ในเฟรนโซนโดยทั้งสิ้น
Cr.looke
การเรียนพิเศษและการเข้าสังคม
แน่นอนว่าในโลกที่การแข่งขันสู้ที่ไม่ได้เป็นแค่ในวัยผู้ใหญ่แต่ในเด็กๆก็เป็นเช่นกัน การเรียนกรดวิชาก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม “ต้องทำ” สำหรับเจนซี ไม่ว่าจะเป็น OnDemand,ดาว้องค์,ครูสมศรี,ครูลูกกอล์ฟ,Pinnacle,Farose Academy, Debut 15 หรืออื่นๆอีกมากมาย แน่นอนว่าหากผู้อ่านทุกคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ร่วมในชื่อใดชื่อหนึ่งที่กล่าวมาไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้ปกครอง หรือคนเรียนเอง นอกจากจุดมุ่งหมายในการเรียนพิเศษนอกเวลาแล้ว นี้คือสถานที่สังคมของหลายๆคน โดยเฉพาะการเรียนห้องสดที่จะทำให้เพื่อนต่างโรงเรียนหรืออาจจะเป็นที่ทำให้ใครหลายคนพบรักวัยใสเลยก็ว่าได้
ร้าน กล้วย กล้วย
cr.bananax2
ในสยามสแครว์ร้านขนมที่อยู่มาอย่างยาวนานเป็น 10 ปี หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นร้าน กล้วยกล้วย เป็นร้านขนมหวานที่ใช้ส่วนประกอบหลักเป็นกล้วย บอกได้เลยว่าเป็นสวรรค์ของคนรักกล้วยเลยทีเดียว โดยเมนูเด็ดที่เด็กเจนซีทุกคนต้องเคยกินเลยคือ กล้วยปั่น ที่ทุกคนสามารถเลือกได้ว่าเมนูกล้วยปั่นจะผสมอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นกล้วยโอริโอ้ กล้วยช็อกโกแลต หรือจะเป็นรสชาติอื่นๆ พร้อมเมนูขนมกล้วยๆต่างๆ
ภายในร้านกิจกรรมที่ทุกคนจะต้องเคยทำคือการเขียนข้อความในโพสอิทและแปะที่เสา แน่นอนว่านอกจากความอร่อยแล้ว สถานที่แห่งนี้มันยังทำหน้าที่เป็นเสมือนเว็บบอร์ดต่างๆ ทั้งข้อความเกี่ยวกับความเป็นไปของสถานการณ์ปัจจุบัน ศิลปิน ดารา และข้อความบอกรักต่างๆของคู่รักแล้ว หรือการแสดงออกถึงความรักในโรงเรียน สถานบันหรือกลุ่มเพื่อน นอกจากนี้ยังเป็นที่หาคู่และแจกวาร์ปของตัวเองอีกด้วย
ร้าน Kantima Salon , การทำเล็บและแฟชั่น
Cr. Kantima Salon, Looke
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซีรีส์เรื่อง GELBOYS ทำให้กระแสการทำเล็บแบบ Nail Art กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มคนเจนซีเท่านั้น แต่เรายังได้เห็นกลุ่มเด็กผู้ชายใส่ชุดนักเรียนมัธยมเดินเข้าไปทำเล็บในซาลอนอีกด้วย จนคำว่าชายแท้เล็บเจ็บคงไม่เกินเรื่องจริง นอกจากความเปิดกว้างทางแฟชั่นที่การทำเล็บไม่ได้ติดอยู่กับความเป็นผู้หญิงและเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้เห็นถึงอิสระในการเป็นตัวเองของคนเจนซี
ในเรื่องร้านทำเล็บที่เป็นจุดกำเนิดเรื่องกั๊กใจทั้งหมดพี่วิเชียรและโฟร์มดนั้น อยู่บนลิโด้ สยามชั้นสองที่มีชื่อว่า Kantima Salon ที่เริ่มจากความหลงใหลในการชอบทำเล็บของเจ้าของสู่ธุระกิจร้านทำเล็บ ด้วยเอกลักษณ์ที่ร้านสามารถเพ้นท์และสร้างศิลปะบนหน้าเล็บของลูกค้าได้ดั่งงานศิลปะ จึงทำให้ที่แห่งนี้ครองใจและเป็นอีกกิจกรรมของมนุษย์เจนซี
พลังในการซัพพอร์ตอุตสาหกรรมบันเทิง
อิสระทางความคิด ความรัก และการแสดงออกต่อศิลปินอย่างชัดเจนเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเจนซี ในซีรีย์เห็นได้ชัดถึงกิจกรรมร่วมกันต่างๆที่วัยรุ่นได้รับอิทธิพลจากศิลปินในวงการบันเทิง เช่น การร่วมชมและปั่นวิวให้กับศิลปินที่ชมเมื่อเขาปล่อยเพลงใหม่ การไปให้กำลังใจศิลปินที่มาร่วมรายการที่ Flex 102.5 ณ ลิโด้ คอนเน็คท์ หรือการแรนด้อมแดนซ์ด้วยเพลง T-Pop ที่ลานหน้าตึกสยามสเคป ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือพลังของคนรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนความเป็นไปของโลกในยุคปัจจุบัน
Cr.looke
บทความที่เกี่ยวข้อง
พาส่องความหลังของ John Galliano ในยุค Y2K ที่ทิ้งไว้ให้แก่คนรุ่นหลัง!
สปอร์ตชิคฉบับสาวออฟฟิศ Y2K ไปกับคอลเลกชั่น Miu Miu Fall 2022 Ready-to-Wear
ว่าด้วยเรื่องของ Y2K จริง…Y2K ปลอม…แล้ว Vivienne Westwood เกี่ยวข้องอย่างไร?