5 กิจกรรมเพื่อสุขภาพในภูฏาน ดินแดนมหัศจรรย์ที่คนใฝ่ฝัน
‘ภูฏาน’ ดินแดนมหัศจรรย์ที่ใครๆ ก็อยากไป แม้กระทั่งคนที่เคยไปมาแล้วก็ยังอยากไปอีก ด้วยความที่อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ บรรยากาศก็เงียบสงบ แถมยังปกคลุมด้วยมนตราแห่งจิตวิญญาณซึ่งแผ่กระจายอยู่ในทุกย่างก้าวของการดำเนินชีวิต ดินแดนหุบเขาแห่งมังกรสายฟ้าแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับนักเดินทางที่รักธรรมชาติและความสงบ ต่อไปนี้คือกิจกรรมที่ควรไปลองสัมผัสด้วยตัวคุณเอง
1/ โยคะ
นับตั้งแต่เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ผู้ที่รักการฝึกโยคะต่างก็หลั่งไหลมายังจุดหมายปลายทางอันเงียบสงบบนเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ เพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติโยคะของตัวเอง ไม่ว่าจะตื่นมาเล่นในที่พักซึ่งสามารถมองเห็นความยิ่งใหญ่ของทิวเขาได้ตลอดเวลา หรือจะเปลี่ยนฉากหลังเป็น ซอง (Dzong) หรือวัดของภูฏาน ก็นำพาความเงียบสงบสู่จิตใจได้ดีไม่แพ้กัน (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโยคะและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในภูฏาน https://bhutan.travel/experiences-wellness-and-wellbeing–
2/ ไหว้พระ
ปูนาคาซอง (Punakha Dzong) วัดในเมืองปูนาคาซึ่งเก่าแก่เป็นอันดับสองของประเทศ หนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่สง่างามที่สุดของราชอาณาจักรแห่งนี้ ชาวภูฏานจะเรียกว่า ‘พระราชวังแห่งความสุข’ ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของเขตนี้ ตั้งอยู่ระหว่างจุดบรรจบของแม่น้ำโมชูและโพชู รวมทั้งยังมีศาสนสถานสำคัญอีกแห่งซึ่งนักท่องเที่ยวต้องไปเยือนคืออารามกังเต (Gangtey Monastery) ตั้งอยู่ในหุบเขากังเต สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือเป็นแหล่งพักใจอันเงียบสงบสำหรับผู้มาเยือนท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิถีชาวพุทธในประเทศภูฏาน ก่อนเดินทางไปเยือนสถานที่จริง https://bhutan.travel/experiences-culture)
3/ แช่ตัวในอ่างหินร้อน
การผ่อนคลายและฟื้นฟูร่างกายด้วยการแช่ตัวในอ่างหินร้อนเมนชูสไตล์ภูฏาน (Bhutanese Menchu Hot Stone Bath) หรือการแช่น้ำอุ่นเพื่อรักษาโรคโดยใช้น้ำแร่และสมุนไพร ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่เหมือนใครในโลก เจ้าของโรงอาบน้ำจะนำหินจากแม่น้ำไปเผาไฟจนร้อนจัด ก่อนนำลงแช่ในอ่างเพื่อให้หินปล่อยแร่ธาตุออกมา ซึ่งมีสรรพคุณด้านสุขภาพหลายประการ อาทิ ช่วยรักษาโรคข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง อาการปวดข้อ และความผิดปกติของกระเพาะอาหาร
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าใจวิถีชีวิตของชาวภูฏานได้มากยิ่งขึ้นจากการเข้าพักในโฮมสเตย์ซึ่งยังคงไว้ทั้งสถาปัตยกรรม และการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิม รวมถึงได้มีโอกาสอาบน้ำหินร้อนเพื่อการบำบัดร่างกายในอ่างไม้ที่ชวนให้นึกถึงพิธีกรรมอาบน้ำแบบโบราณ ใช้น้ำแร่ และสมุนไพรรักษาโลกที่หาได้ในท้องถิ่นมาเป็นส่วนประกอบการปรนนิบัตินี้ โดยสามารถเลือกได้ว่าต้องการแช่น้ำหินร้อนในบรรยากาศหรูหราหรือเรียบง่าย ซึ่งทั้งสองตัวเลือกมาพร้อมกับความเป็นส่วนตัว การรักษา และรุ่มรวยไปด้วยวัฒนธรรมโบราณ
4/ เดินป่า
การได้สูดอากาศบริสุทธิ์และค้นพบความผ่อนคลายขณะเดินป่าบนเทือกเขาหิมาลัยอันโด่งดังโดยมีฉากหลังแสนงดงาม คือสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน ถ้าคุณกำลังมองหาความท้าทายทั้งร่างกายและจิตใจ ‘เส้นทางทรานส์-ภูฏาน’ (Trans Bhutan Trail) จะมอบประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ รวมระยะทาง 403 กิโลเมตร จากเมืองฮา (Haa) ทางตะวันตก ไปจนถึงเมืองทราชิกัง (Trashigang) ทางตะวันออกของประเทศ ถือเป็นเส้นทางเดินป่าที่น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เปิดโอกาสในการค้นหาความสงบภายในตัวเองและเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณตลอดเส้นทาง (อ่านรายละเอียดการเดินป่า 12 วัน เส้นทางทรานส์-ภูฏาน ได้ที่ https://bhutan.travel/adventure-experiences)
5/ เรียนรู้เรื่องยา
ชาวภูฏานส่วนใหญ่ยังคงเชื่อและใช้ยาแผนโบราณ ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า พวกเขาเรียกยาแผนโบราณว่า โซวะ ริกปะ (Sowa Rigpa) ซึ่งมีความเป็นมายาวนานนับพันปี เหตุผลที่ยาแผนโบราณยังคงเป็นที่นิยมเนื่องจากเป็นการรักษาที่ยึดหลักคำสอนของศาสนาพุทธ จากแนวคิดที่เชื่อว่าคนเราจะมีสุขภาพดีได้ก็ต่อเมื่อธาตุหลักทั้ง 3 อย่างในร่างกายเกิดสมดุล ได้แก่ อากาศ น้ำดี และเสมหะ การรักษาอาจรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การใช้ยาสมุนไพร กายภาพบำบัด และการบำบัดทางจิตวิญญาณ นอกจากนี้เห็ดหลายชนิดและถั่งเช่ายังมีคุณค่าทางยาและคุณประโยชน์อีกมากมายต่อร่างกาย นักเดินทางสามารถเยี่ยมชมสถาบันบริการยาแผนโบราณ (Traditional Medicine Services) ที่เมืองทิมพูเพื่อขอคำปรึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
เกี่ยวกับวีซ่าและค่าธรรมเนียมเพื่อการพัฒนาความยั่งยืน
การยื่นขอวีซ่าหรือใบอนุญาตไปภูฏานนั้นสามารถทำได้ง่ายดาย นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมีวีซ่าและใบอนุญาตก่อนเดินทางไปภูฏานโดยสมัครทางออนไลน์หรือผ่านทางบริษัททัวร์ภูฏาน โดยใช้เวลาประมาณ 5 วันในการดำเนินการ
ผู้มาเยือนจะต้องชำระค่าธรรมเนียมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Fee – SDF) ของภูฏานเป็นจำนวน 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อคืน (มีอัตราลดหย่อนสำหรับเด็ก) และค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าจำนวน 40 ดอลลาร์สหรัฐ จะใช้ได้เพียงหนึ่งครั้ง และไม่สามารถขอคืนได้
ค่าธรรมเนียมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDF) จะถูกนำมาใช้เป็นทุนสนับสนุนโครงการด้านวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และการศึกษาทั่วประเทศภูฏาน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bhutan.travel
The post 5 กิจกรรมเพื่อสุขภาพในภูฏาน ดินแดนมหัศจรรย์ที่คนใฝ่ฝัน appeared first on L’Officiel Thailand.