ยกระดับการเดินทางของคุณในญี่ปุ่นด้วย GranClass ที่หรูหราที่สุดของชินคันเซ็น
ยกระดับการเดินทางในญี่ปุ่นกับ “GranClass” ที่นั่งที่หรูหราพรีเมียมที่สุดของชินคันเซ็น
บทความ: เนตรนภา ปะวะคัง ภาพเปิด: ชัตเตอร์
ช่วงนี้เริ่มเห็นใครหลายๆ คนลงภาพท่องเที่ยวญี่ปุ่นในสื่อโซเชียล เป็นสัญญาณว่าฤดูกาลท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้เวียนกลับมาอีกครั้ง แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ญี่ปุ่นก็ติดโผสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตลอด ซึ่งนอกจากอาหารการกิน ศิลปวัฒนธรรม ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และผู้คนญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์ชวนให้ไปสัมผัส อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ผู้คนเลือกไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่นก็น่าจะเป็นการเดินทางภายในประเทศที่ทำได้โดยง่ายด้วยการโดยสารรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น ซึ่งไม่ใช่แค่รวดเร็วแต่ยังสะดวกสบายและตรงเวลามาก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญคือเลือกรูปแบบที่นั่งได้ตามงบประมาณของตนเอง แต่หากคุณต้องเดินทางด้วยชินคันเซ็นและงบในการท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ การเลือกที่นั่งแบบ “GranClass” ซึ่งเป็นที่นั่งระดับพรีเมียมพิเศษที่สุดของชินคันเซ็นก็ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หรูหราและน่าสนใจไม่น้อย
รถไฟชินคันเซ็นเป็นเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่นที่ดำเนินการโดย Japan Railways (JR) เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1964 ชินคันเซ็น แปลว่า “เส้นทางไกลสายใหม่” และด้วยลักษณะรูปร่างที่เหมือนกระสุนและที่สำคัญคือความเร็วที่สูงมาก ทำให้ได้รับฉายาว่า “รถไฟหัวกระสุน” โดยเส้นทางแรกที่เปิดให้บริการคือเส้นทางโตเกียว – โอซาก้า ซึ่งหากเป็นรถไฟปกติจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 ชั่วโมงครึ่ง แต่ชินคันเซ็นสามารถไปถึงจุดหมายได้ด้วยความเร็วประมาณ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ร่นระยะเวลาเดินทางได้กว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งหากเรานึกภาพตามว่านี่คือเมื่อ 60 ปีก่อนก็ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากๆ
หลังจากให้บริการในเส้นทางแรก ชินคันเซ็นก็ค่อยๆ เพิ่มเส้นทางเรื่อยๆ จนกลายเป็นรูปแบบการเดินทางหลักที่เชื่อมต่อหัวเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นแทบทุกเมือง ซึ่งก็ช่วยร่นระยะเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางระหว่างเมืองทั่วประเทศญี่ปุ่นได้มากทั้งสำหรับคนท้องถิ่นและผู้มาเยือน จนในปัจจุบัน ชินคันเซ็นเปิดให้บริการทั้งหมด 9 สาย แบ่งเป็นชินคันเซ็น 7 สายและมินิชินคันเซ็นอีก 2 สาย รวมระยะทางประมาณ 2,951 กิโลเมตร โดยชินคันเซ็นจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนมินิชินคันเซ็นที่เป็นสายสั้นๆ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรจะวิ่งด้วยความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรื่องความเร็ว ความตรงต่อเวลา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยของชินคันเซ็นนั้นเป็นที่โจษจันอยู่แล้ว แต่หากคุณอยากยกระดับการเดินทางด้วยชินคันเซ็นของคุณให้สบายและพิเศษยิ่งขึ้น อีกสิ่งสำคัญที่ควรรู้ก็คือ รูปแบบชั้นที่นั่ง และการจองตั๋วที่จะมีทั้งแบบระบุที่นั่งและไม่ระบุที่นั่ง ซึ่งก็จะมีราคาแตกต่างกันไป
ที่นั่งชั้น GranClass
รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นจะมีชั้นที่นั่งให้เลือกทั้งหมด 3 ชั้น ได้แก่ Ordinary Car ที่นั่งชั้นปกติ เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายก็คล้ายที่นั่งชั้นประหยัดของสายการบิน, Green Car ที่นั่งที่หรูหราขึ้นมา เปรียบได้กับที่นั่งชั้นธุรกิจของสายการบิน และสุดท้ายกับ GranClass ที่นั่งที่หรูหราและพรีเมียมที่สุดของชินคันเซ็น เทียบได้กับที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบิน ซึ่งเราอยากแนะนำให้คุณรู้จักในวันนี้ โดยชินคันเซ็นให้บริการที่นั่งชั้น GranClass ครั้งแรกในสายโทโฮคุ เมื่อปี ค.ศ. 2011 ปัจจุบันมีชินคันเซ็นที่ให้บริการที่นั่งชั้น GranClass ทั้งหมด 4 สาย ได้แก่ สายโทโฮคุ สายโอคุริคุ สายโจเอ็ตสิ และสายฮอกไกโด
แผงควบคุมการปรับเบาะนั่งของ GranClass
ความพิเศษของที่นั่งชั้น GranClass ไม่ใช่แค่จำนวนที่นั่งต่อตู้ซึ่งมีแค่ 18 ที่นั่ง แบ่งเป็น 6 แถวๆ ละ 3 ที่นั่งแบบแยก 2 – 1 แต่ทุกที่นั่งยังเป็นเบาะหนังขนาดกว้างขวาง ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ของมนุษย์ และสามารถปรับได้มากถึง 45 องศาโดยไม่รบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ทำให้คุณรู้สึกเป็นส่วนตัวและนั่งสบายเป็นพิเศษ ส่วนพื้นก็ปูด้วยพรมซึ่งช่วยลดเสียงรบกวนขณะเดิน ทั้งยังมีช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดปิดได้เหมือนบนเครื่องบิน นอกจากนี้ ผู้โดยสารชั้น GranClass ยังจะได้รับน้ำดื่ม ของทานเล่น และผ้าเย็น และ GranClass ในบางสายก็ยังมีบริการเครื่องดื่มฟรีและเซ็ตอาหารว่างที่ปรุงจากวัตถุดิบตามฤดูกาลและคิดค้นร่วมกับเชฟชื่อดัง โดยคุณสามารถสั่งเครื่องดื่มและของทานเล่นกับพนักงานบริการประจำตู้ได้ตลอดการเดินทาง
เช็ตอาหารว่างและเครื่องดื่มใน GranClassเช็ตอาหารว่างตามฤดูกาลและท้องถิ่น (ภาพ: JR East)
ทั้งนี้ บรรยากาศภายในห้องโดยสารที่เงียบสงบเป็นสิ่งที่ชินคันเซ็นชั้น GranClass ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ฉะนั้น หากคุณมีโอกาสใช้บริการก็อาจต้องงดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดเสียงรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น เช่น การพูดคุยเสียงดัง การกดคีย์บอร์ด เพื่อประสบการณ์ในการเดินทางด้วยชินคันเซ็นชั้น GranClass ที่น่าจดจำตลอดการเดินทาง
ข่าวว่า Japan Railways มีแผนพัฒนาและขยายเส้นทางชินคันเซ็นอีกหลายสาย ซึ่งก็น่าจะมีสายที่เปิดให้บริการที่นั่งชั้น GranClass เพิ่มขึ้นอีกแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง: “งานญี่ปุ่น – Sense of Japan 2024” ที่ โรงแรม โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ