Blog

ค้นพบอิสรภาพแห่งวัยไปกับเราที่กรุงโตเกียว กับการเปิดตัวสูตรใหม่ของ ULTIMUNE Power Infusing Serum จาก SHISEIDO

หนึ่งเทรนด์ที่โดดเด่นในโลกของสกินแคร์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น คือเทรนด์ที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นชื่อกันดีอย่าง ‘Longevity’ หรือการสร้างความอ่อนเยาว์อย่างยั่งยืนให้กับผิว การเสาะหาต้นตอและเริ่มชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวนั้น กลายมาเป็นสิ่งที่เหล่านักวิจัยและแบรนด์ความงามให้ความสำคัญมากกว่าการลดเลือนและแก้ปัญหาผิวที่เกิดจากอายุที่มากขึ้นในช่วงวัยที่เพิ่มขึ้น ในปีที่ผ่านเราได้ทำความเข้าใจผ่านเทรนด์นี้มากขึ้น ผ่านการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีจากหลากหลายแบรนด์ ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่โดดเด่นนั่นก็คือ SHISEIDO แบรนด์ความงามสัญชาติญี่ปุ่นที่เราได้มีโอกาสไปทำความรู้จักกับคอลเลกชั่นสกินแคร์อย่าง Future Solution LX เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ เราก็ได้มีโอกาสเดินทางกับ SHISEIDO อีกครั้ง เพื่อทำความรู้จักกับอีกหนึ่งสกินแคร์ชิ้นเด่นที่ถูกปรับสูตรและยกระดับความเข้มข้นเพิ่มขึ้นอย่าง  ULTIMUNE Power Infusing Serum หรือเซรั่มขวดแดงที่หลายๆ คนคุ้นเคย ที่ครั้งนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจอย่าง ‘Freedom from Age’ ให้คุณได้สัมผัสอสระแห่งวัย ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม พร้อมกับสองเซเลบริตี้ ‘วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร’ ที่เพิ่งได้รับตำแหน่ง Friend of SHISEIDO South East Asia ไปหมาดๆ และ ‘วี วิโอเลต วอร์เทียร์’ Friend of SHISEIDO Thailand

นี่ถือเป็นรุ่นที่ 4 ของ  ULTIMUNE Power Infusing Serum หลังจากเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2014 ซึ่งการพัฒนาสูตรและปรับรูปโฉมในครั้งนี้ SHISEIDO ยังคงสะท้อนอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของแบรนด์ออกมาได้อย่างดี ในการหลอมรวมเอาโลกของวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่ก้าวหน้า ไว้กับมุมมองของศิลปะและความงามในสไตล์ญี่ปุ่นอย่างลงตัว โดยคอนเซ็ปต์หลักอย่าง ‘Freedom from Age’ ในครั้งนี้นั้น เริ่มต้นมาจากความเชื่อในเรื่องความงามของคนญี่ปุ่น ที่ต่างก็เชื่อว่าทุกสรรพสิ่งนั้นล้วนมีความงามอยู่ภายใน SHISEIDO จึงกลับมาพร้อมความตั้งใจ ที่จะดึงความงามเหล่านั้นออกมา ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีอายุเท่าไหร่ มีบุคคลิกแบบใด หรือเป็นเพศใดก็ตาม

วิทยาศาสตร์

จุดเด่นแรกของ  ULTIMUNE Power Infusing Serum รุ่นใหม่นี้ ก็คือการพัฒนาสูตรผ่านทั้งการวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ก้าวหน้า ซึ่งทาง SHISEIDO เลือกมาเพื่อตอบโจทย์การชะลอความเสื่อมโทรมของผิวให้ได้อย่างตรงจุด โดยครั้งนี้ ด้วยการวิจัยที่ใช้เวลายาวนานกว่า 30 ปีที่แบรนด์ได้ร่วมมือกับ สถาบัน CBRC (Cutaneous Biology Research Center) ศูนย์การวิจัยและพัฒนาระดับสูงในสาขาผิวหนัง โดยขับเคลื่อนด้วยความเชื่อในกลไกการปกป้องตัวเองตามธรรมชาติของผิวสามารถป้องกันปัญหาผิวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ และได้พบความเชื่อมโยงของพลังของภูมิคุ้มกันผิวมีผลต่อสาเหตุสำคัญของความร่วงโรยของผิว โดยค้นพบว่าหนึ่งในเซลล์ภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย อย่าง Memory T -Cell นั้นมีส่วนสำคัญในการกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและก่อให้เกิดความร่วงโรยแห่งวัยให้กับผิวในองค์รวม

ในทุกๆ วันมีเซลล์ผิวใหม่เกิดขึ้นและทำงานอย่างแข็งขันอยู่ตลอดเวลา การทำงานของเซลล์ผิวแต่ละเซลล์นั้นสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบดังนั้นเมื่อเซลล์ผิวในองค์รวมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผิวหน้าของเราก็จะมีสุขภาพดีและคงความอ่อนเยาว์ตามไปโดยปริยาย แต่ถ้าหากมีเซลล์ที่เสื่อมสภาพลง (Aged Cell) ก็เปรียบได้กับการที่กลไกในระบบการทำงานของผิวนั้นจะลดประสิทธิภาพลง มิหนำซ้ำยังมีการส่งสัญญาณให้เซลล์ผิวที่มีประสิทธิภาพรอบข้าง เสื่อมสภาพลงไปตามๆ กัน จนเกิดการสะสมของเซลล์ผิวที่ร่วงโรย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าของเราแข็งแรงน้อยลง เกิดปัญหาผิว และริ้วรอยแห่งวัย ซึ่งในปัจจุบันนั้น มีผลวิจัยที่เห็นได้ชัดว่า ปัจจัยที่ทำให้เซลล์ผิวนั้นเกิดความร่วงโรย มีอีกหลายปัจจัยทั้งภายในร่างกาย อาทิ ความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ หรือการทำงานที่ผิดปกติของระบบร่างกาย รวมไปถึงปัจจัยภายนอก ทั้งมลภาวะ ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ไปจนถึงรังสียูวี ที่มีผลกระทบต่ออายุของเซลล์ผิว เราจึงสามารถพูดได้ว่าการที่เซลล์เสื่อมสภาพลงนั้น ไม่ได้ถูกกำหนดโดยอายุที่มากขึ้นเพียงปัจจัยเดียว

Dr. Tetsuya Hasegawa ผู้ค้นพบการทำงานที่น่าประหลาดใจของเซลล์ภูมิคุ้มกันอย่าง Memory T -Cell ในครั้งนี้เล่าว่า Memory T -Cell จะกำจัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพ (Aged Cell) ได้อย่างตรงจุด โดย Memory T -Cell มีความสามารถในการจดจำเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ จากการเปลี่ยนเเปลงของสสารทางชีวภาพในเซลล์ผิวที่ชราภาพ ซึ่งจะแตกต่างจากสสารทางชีวภาพของเซลล์ผิวที่ยังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จากผลการทดลองของ SHISEIDO ที่นำเอาทั้งเซลล์ผิวที่มีสุขภาพดี เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และเซลล์ภูมิคุ้มกันมาไว้ด้วยกัน โดย Memory T -Cell จะเลือกกำจัดเพียงเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างชัดเจน ดังนั้นการที่ Memory T -Cell ทำงานได้อย่างเต็มที่นั้น ก็ยิ่งช่วยให้เสริมสร้างความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อย่างดีและยั่งยืน นั่นจึงทำให้ SHISEIDO ต่อยอดในการหาส่วนผสมที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของ Memory T -Cell ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

และก็เป็นอีกครั้งที่ SHISEIDO ได้ค้นพบส่วนผสมจากธรรมชาติที่ทรงพลังจากดอกคามีเลียจากเกาะโกโตะของประเทศญี่ปุ่น ดอกไม้ที่บานสะพรั่งท่ามกลางสภาพอากาศที่เเปรปรวนของใจเกาะกลางทะเล จนได้ออกมาเป็น Power Fermented Camellia+ ส่วนผสมล่าสุดใน ULTIMUNE Power Infusing Serum รุ่นใหม่ ซึ่งได้มาจากสารสกัดจากการหมักบ่มเมล็ดของดอกคามีเลียจากเกาะโกโตะ ผ่านกรรมวิธีการหมักบ่มในรูปแบบ Ki-koji ซึ่งเป็นการหมักบ่มที่ใช้สำหรับทำเครื่องดื่มตามสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ จึงได้สารสกัดที่มีความเข้มข้นสูง ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างเต็มที่ และที่สำคัญยังช่วยในการสร้างโปรตีน CXCL 9 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของ Memory T -Cell ให้มีประสิทธิภาพ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการชะลอความร่วงโรยในผิว ให้ผลลัพธ์ของผิวที่แข็งแรง อิ่มฟู และอ่อนเยาว์

นอกจากนี้แล้ว SHISEIDO ยังคงคำนึงถึงความยั่งยืนต่อโลกและธรรมชาติ ภายใน ULTIMUNE Power Infusing Serum รุ่นใหม่ ยังผสานไว้ด้วยสารสกัดจากส่วนอื่นๆ ของต้นคามีเลียจากเกาะโกโตะเอาไว้ เพื่อเสริมทัพการบำรุงผิวให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งสารสกัดจากกลีบดอกที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของปราการผิว สารสกัดจากใบที่ช่วยลดอาการอักเสบของผิว และน้ำมันจากเมล็ดของต้นคามีเลียที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว

และอีกหนึ่งส่วนสำคัญของ ULTIMUNE Power Infusing Serum รุ่นล่าสุดที่สะท้อนการใส่ใจในความยั่งยืนต่อโลกและธรรมชาติของ SHISEIDO นั้น คือขวดที่ถูกออกแบบใหม่ โดยมีน้ำหนักที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และยังผลิตขึ้นจากแก้วรีไซเคิล พร้อมกับดีไซน์ที่ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ผ่านแนวคิดของศิลปะแบบญี่ปุ่น ที่ครั้งนี้มาพร้อมกับการคำณวนรูปทรงที่สมบูรณ์แบบ

ศิลปะ

หลังจากได้สัมผัสกับด้านวิทยาศาสตร์ของ SHISEIDO กันไปแล้ว เราได้เริ่มต้นวันที่สองด้วยการเข้าสู่อีกหนึ่งมุมมองสำคัญของแบรนด์อย่างมุมมองด้านงานศิลปะ ซึ่งในการเปิดตัว ULTIMUNE Power Infusing Serum รุ่นล่าสุดนี้ ทางแบรนด์ได้จัดอีกหนึ่งนิทรรศการในรูปแบบ Immersive ณ Terada Warehouse ที่บอกเล่าเรื่องราวของเซรั่มขวดแดงในตำนาน ผ่านมุมมองแห่งงานศิลป์ โดยได้ Theodore Miller โปรดิวเซอร์ชื่อดังมารับหน้าที่ Creative Director และ Curator รวบรวมศิลปินมากความสามารถมาสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ตั้งแต่โซนแรกอย่าง The Origin ที่บอกเล่าเรื่องราวความมหัศจรรย์ของดอกคามิลเลียแห่งเกาะโกโตะ ผ่านสายฝนที่พาเราดำดิ่งสู่โลกของดอกคามีเลียอันบานสะพรั่ง ต่อกันที่ห้อง The Essence ที่สะท้อนความสุนทรีย์ที่มีในเซรั่มขวดแดงรุ่นล่าสุด ผ่านกลิ่นหอมและแสงไฟที่เปรียบเสมือนเนื้อสัมผัสอันสดชื่นและบางเบา ซึ่งอุดมไปด้วยสารบำรุง ให้ผิวของเราได้ชะลอความโร่งโรยแห่งวัยได้อย่างดี ปิดท้ายด้วยโซน The Science ที่ถ่ายทอดการเคลื่อนตัวของ Memoey T-Cell เซลล์สำคัญที่ทาง SHISEIDO ได้ค้นพบถึงประสิทธิภาพการกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ออกมาในรูปแบบการเต้นแนวร่วมสมัย บอกเล่าเรื่องราวการสร้างผิวสวยด้วยเซรั่มรุ่นล่าสุดนี้

นอกจากนี้ SHISEIDO ยังถ่ายทอดมุมมองของสุนทรียศาสตร์ลงไปในเนื้อสัมผัสของ ULTIMUNE Power Infusing Serum รุ่นล่าสุด กับเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นแต่บางเบาไม่เหนอะหนะผิวและยังซึมซาบอย่างรวดเร็ว พร้อมมอบความสดชื่นด้วยนวัตกรรมไมโครแคปซูลที่จะกระจายตัวเมื่อสัมผัสลงบนผิว และปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ จากพืชพรรณธรรมชาติที่สดชื่น ผสานด้วย Matsurika (ดอกมะลิแซมแบค) มอบความรู้สึกสดชื่นและความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ใช้

แบรนด์

การเปิดตัว ULTIMUNE Power Infusing Serum รุ่นล่าสุดนี้ สำหรับเราแล้ว เป็นเหมือนการก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ของ SHISEIDO เลยก็ว่าได้ เพราะเซรั่มขวดแดงรุ่นไอคอนิกนี้กลายมาเป็นภาพจำของ SHISEIDO สำหรับคนในยุคสมัยใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การที่เซรั่มรุ่นนี้มาพร้อมกับสูตรที่พัฒนาขึ้นโดยอ้างอิงปัจจัยที่เป็นปัจจุบันและดีไซน์ที่ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการเปิดโลกของ SHISEIDO ให้กับเหล่าคนรุ่นใหม่ หรือใครที่ยังไม่เคยลองใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ได้อย่างดี

โดยเราได้มีโอกาสพูดคุยกับอีกหนึ่งบุคคลสำคัญจาก SHISEIDO อย่างคุณ Emi Wakabe ผู้ดำรงตำแหน่ง Global Vice President ในส่วนของ Product Development Department of  SHISEIDO Global Brand Unit ถึงมุมมองนี้ เธอได้กล่าวไว้ว่า “หัวใจหลักของ SHISEIDO ในฐานะแบรนด์ความงามนั้น นอกจากเราจะต้องการมอบความงามให้กับทุกๆ คน แล้ว เรายังอยากจะดึงความงามจากภายในของทุกๆ คน ออกมาเช่นเดียวกัน จากความเชื่อที่ว่าทุกๆ คนและทุกๆ สิ่งนั้นมีความงามเป็นของตัวเอง ULTIMUNE Power Infusing Serum รุ่นล่าสุดนี้ เปรียได้กับภาพสะท้อนความตั้งใจของเราในฐานะแบรนด์ความงามอย่างได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิทยาศาสตร์และศิลปะ หรือการเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ๆ ฉันมองว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการกระจายความตั้งใจของเราสู่ทุกๆ คนทั่วโลก”

ช่างภาพ: Thanut Treeschanchacha

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button
pgslot
pg