เหตุผลที่ไม่ควรพลาดซีรีส์ GOOD BOY

GOOD BOY (แชมป์ปราบอาชญากร) ซีรีส์แอ็กชั่นสุดมันที่ถ่ายทอดเรื่องราวของเหล่าอดีตนักกีฬาเหรียญทองผู้ผันตัวมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขารวมตัวกันเพื่อจัดตั้งทีมเฉพาะกิจพิเศษ นำโดย ยุนดงจู (รับบทโดย พัคโบกอม), จีฮันนา (คิมโซฮยอน), คิมจองฮยอน (อีซังอี), โกมันซิก (ฮอซองแท) และ ชินแจฮง (แทวอนซอก) ที่ต้องร่วมมือกันเพื่อโค่นล้มเครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่แฝงตัวอยู่เบื้องหลังอำนาจมืดในสังคม

หลังจากเดินทางมาถึงตอนที่ 6 ซีรีส์ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นทุกขณะ ทั้งฉากแอ็กชั่น การสืบสวน และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ชวนติดตาม สำหรับใครที่กำลังรอตอนต่อไป หรือยังลังเลว่าจะดูดีไหม เราขอพาไปดูเหตุผลที่ไม่ควรพลาด GOOD BOY เรื่องนี้เด็ดขนาดไหน ไปดูกันเลย!

นักแสดงและทีมงานการันตีคุณภาพ

หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ GOOD BOY น่าจับตามอง คือการรวมตัวของทีมงานเบื้องหลังระดับรางวัล และทีมนักแสดงที่มากด้วยฝีมือ เริ่มจาก ผู้กำกับชิมนายอน เจ้าของรางวัล Best Drama จากเวที Baeksang Arts Awards 2021 จากซีรีส์ Beyond Evil และยังมีผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่าง The Good Bad Mother ส่วนฝั่งบทได้ อีแดอิล นักเขียนมากประสบการณ์ผู้เคยฝากฝีมือไว้ในซีรีส์ดังอย่าง Life on Mars, Bring It On, Ghost และ Chief of Staff

ด้านนักแสดงนำก็เรียกได้ว่าเป็นทีม “ดรีมแคสต์” อย่างแท้จริง พัคโบกอม กลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้งหลังจากผลงานล่าสุด When Life Gives You Tangerines ที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ยิ่งไปกว่านั้น การประกบคู่กับ คิมโซฮยอนถือเป็นโมเมนต์ที่แฟน ๆ รอคอยมานานกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ทั้งคู่เคยร่วมงานกันในฐานะพิธีกรเวทีประกาศรางวัลในอดีต

เสริมทัพด้วยนักแสดงคุณภาพอย่าง โอจองเซ ที่ขึ้นชื่อเรื่องบทบาทหลากหลายและเคยฝากผลงานยอดเยี่ยมใน Revenantและ It’s Okay to Not Be Okay, อีซังอี จากผลงานอย่าง No Gain No Love, Spice Up Our Love และ Bloodhounds, ฮอซองแทนักแสดงระดับอินเตอร์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกจาก Squid Game และ แทวอนซอก ที่ผ่านผลงานแนวแอ็กชันและสืบสวนมาแล้วใน Player และ Private Lives

โอจองเซ

แทวอนซอก

ฮอซองแท

อีซังอี

แอ็กชั่นและคอเมดี้แบบจัดเต็ม

หนึ่งในเสน่ห์ของ GOOD BOY คือการผสมผสานระหว่างฉากแอ็กชั่นสุดเข้มข้นกับมุกคอมเมดี้ที่ทั้งสดใหม่และขำแบบไม่ฝืน นักแสดงแต่ละคนทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อบทบาทอดีตนักกีฬาที่กลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยต้องผ่านการฝึกซ้อมนานถึง 3–8 เดือน เพื่อให้การต่อสู้ในแต่ละฉากออกมาสมจริงที่สุด

พัคโบกอมกล่าวว่า “ผมอยากถ่ายทอดตัวละครออกมาให้ดีที่สุด ทุกคนจะมาก่อนเวลาและฝึกซ้อมทุกวัน”

ผู้กำกับชิมนายอนก็ได้แสดงถึงความพยายามอย่างหนักที่ทีมงานใส่ลงไปในฉากแอ็กชั่นรวมถึงการฝึกฝนอย่างหนัก เธอยังเล่าถึงการใส่มุกตลกลงไปในฉากแอ็กชั่นว่า “ฉันคิดว่ากีฬาต่างๆ อย่างมวยปล้ำหรือขว้างจักรสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้ได้ เราจึงปรับเปลี่ยนบางอย่างและเลือกที่จะใส่แง่มุมตลกลงไปด้วย”

ด้านแทวอนซอกก็ได้แอบแง้มฉากหนึ่งที่เขาขว้างทิชชู่เปียก พร้อมเล่าว่า “ฉากนั้นตลกมากและออกแนวแฟนตาซีนิดๆ หวังว่าทุกคนจะรอติดตามกันนะครับ” การผสมผสานระหว่างแอ็กชั่นและคอเมดี้อย่างลงตัวนี้จะทำให้ผู้ชมสนุกไปกับทุกตอนอย่างแน่นอน

ดูง่าย สนุกได้ทุกคน ซีรีส์เบาสมองแต่คุณภาพแน่น

แม้ว่า GOOD BOY จะเป็นซีรีส์แนวสืบสวนที่มีเนื้อหาจริงจัง แต่กลับสามารถผสมผสานความเข้มข้นของการสืบสวนเข้ากับแอ็กชัน คอเมดี้ และความอบอุ่นได้อย่างลงตัว กลายเป็นผลงานที่ “ดูง่ายและเข้าถึงได้ทุกคน” ไม่ว่าจะเป็นสายดราม่า สายแอ็กชัน หรือสายซีรีส์คลายเครียดในวันหยุด

ผู้กำกับชิมนายอนอธิบายว่า “โทนของซีรีส์นี้เข้าถึงง่าย มีทั้งความตลกและดราม่า เป็นซีรีส์ที่ดูสบายๆ เราตั้งใจทำให้คนดูสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสนุกไปกับมัน หวังว่า GOOD BOY จะกลายเป็นความสนุกเล็กๆ ในวันหยุดของทุกคน”

ด้านคิมโซฮยอนก็เห็นด้วยกับความรู้สึกนี้ พร้อมกล่าวว่า “พวกเราถ่ายทำกันในช่วงหน้าร้อน ฉันคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้จะช่วยเติมความสดชื่นให้กับหน้าร้อนของผู้ชม หวังว่าทุกคนจะได้คลายเครียดระหว่างดูซีรีส์ของเราค่ะ” เช่นเดียวกับอีซังอีที่กล่าวว่า “หลังเลิกงานและก่อนนอน ผมมักจะหาซีรีส์ดูสักเรื่อง ถ้าดู GOOD BOY ก่อนนอนในช่วงสุดสัปดาห์ ก็จะเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้กินของอร่อยตอนดึกพร้อมดูซีรีส์สนุกๆ” เพราะฉะนั้นอย่าลืมเพิ่ม GOOD BOY ลงในลิสต์ซีรีส์วันหยุดของคุณ

ความยุติธรรมที่เข้าถึงหัวใจ

หนึ่งในแก่นสำคัญที่ทำให้ GOOD BOY โดดเด่นกว่าใคร คือการถ่ายทอดแนวคิดเรื่อง “ความยุติธรรม” ได้อย่างลึกซึ้งและกินใจ ผ่านตัวละครหลักทั้ง 5 คนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคม แม้จะเคยถูกมองข้ามหรือไม่ได้รับโอกาสในอดีต พวกเขาเลือกใช้ความสามารถและประสบการณ์จากโลกของนักกีฬามาเป็นพลังในการทวงคืนความยุติธรรมให้กับผู้คน

ผู้กำกับชิมนายอนเล่าว่า แก่นของเรื่องนี้อยู่ที่อดีตนักกีฬาที่กลายมาเป็นตำรวจและต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พัคโบกอมกล่าวว่า “ผมรู้สึกประทับใจกับตัวละครที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ตัวละครทั้ง 5 คนต่อสู้เพื่อสิ่งนั้นและแสดงให้เห็นว่าความยุติธรรมยังคงมีอยู่ หวังว่าพวกเราจะสามารถเป็นแรงสนับสนุนเล็กๆ ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐและทุกคนที่กำลังต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในโลกแห่งความจริงได้”

ด้านโอจองเซ ซึ่งรับบทตัวร้ายของเรื่อง ได้เล่าว่า “เสน่ห์ของความเป็น GOOD BOY มันตราตรึงมาก ตัวละครบางตัวมีเรื่องราวที่น่าเศร้า จนทำให้คุณอยากเอาใจช่วยพวกเขา”

เติมแรงบันดาลใจพร้อมให้แง่คิด

GOOD BOY ไม่ได้เป็นแค่ซีรีส์แอ็กชั่น–คอเมดี้ที่ดูสนุกเท่านั้น แต่ยังซ่อนแนวคิดและพลังบวกไว้อย่างลึกซึ้ง เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ทั้งการลุกขึ้นใหม่หลังจากถูกมองข้าม การเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือการต่อสู้เพื่อสิ่งที่เชื่อ แม้จะดูง่ายแต่กลับเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ชวนให้ผู้ชมได้ฉุกคิด

โอจองเซกล่าวว่า “GOOD BOY นั้นสนุกและดูง่าย แต่ผู้กำกับก็ใส่หลายอย่างไว้ให้คนดูได้คิดและไตร่ตรอง”

ด้านฮอซองแทเล่าว่า “ผมรู้สึกแปลกใจที่ตัวเองมีน้ำตาคลอขณะอ่านบทฉากแอ็กชั่น”

พัคโบกอมกล่าวว่า “การเริ่มต้นความท้าทายใหม่ๆ อาจกลายเป็นแรงผลักดันในชีวิตของใครบางคน ผมเองก็มีการเริ่มต้นใหม่ผ่านซีรีส์เรื่องนี้ หากคุณกำลังเจอกับความยากลำบากในการเริ่มต้นใหม่ หวังว่า GOOD BOY จะเป็นพื้นที่ที่ปลอบใจคุณได้ และผมคิดว่า GOOD BOY จะเป็นซีรีส์ที่มอบแนวทางที่ดีแก่ผู้ชม”

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

บทสัมภาษณ์ของ พัคโบกอม, คิมโซฮยอน และ อีซังอี นักแสดงนำจาก GOOD BOY

‘บิวกิ้น – พีพี’ จัดเต็มความสนุก เนรมิตคอนเสิร์ตในธีมงานแต่งสุดอบอุ่นแห่งปี

DICE ปล่อยซิงเกิลใหม่ เพลงรักสุดคลั่งที่อยากให้เธอคนเดียวได้ยิน

The post เหตุผลที่ไม่ควรพลาดซีรีส์ GOOD BOY appeared first on L’Officiel Thailand.