Blog

น้ำตาล ทิพนารี Friend of the Brand ของ FRED บอกเล่าเรื่องราวความเปล่งประกายของเธอ

น้ำตาล-ทิพนารี วีรวัฒโนดม คือหนึ่งตัวอย่างที่งดงามของคำพูดที่ว่าดอกไม้ทุกดอกมีเวลาเบ่งบานของมัน เธอเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่รักในการแสดงมากถึงขนาดพูดว่าแม้ไม่มีใครดูผลงานก็จะแสดงต่อไป ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าเธอจะไม่เคยท้อหรือหมดไฟ แต่ด้วยความมุ่งมั่นในการพิสูจน์ตัวเองเรื่อยมาในเส้นทางสายนี้ และไม่เคยปฏิเสธโอกาสในชีวิต ทำให้วันนี้น้ำตาลเป็นนักแสดงที่มีผู้ชมผลงานของเธอทั่วโลก มีแฟนมีตติ้งและการแสดงคอนเสิร์ตที่ขายบัตรหมดอย่างรวดเร็ว มีใบหน้าปรากฏอยู่บนปกนิตยสารหลากหลายฉบับ ได้ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำมากมาย และล่าสุดเธอได้รับการแต่งตั้งเป็น Friend of the Brand ของ FRED เมซงจิวเวลรี่สัญชาติฝรั่งเศสอายุเกือบ 90 ปี ในฉบับนี้เราชวนคุณมาอัพเดตชีวิตของน้ำตาล ทั้งผลงานการแสดงใหม่ ความฝันในเส้นทางอาชีพของเธอ และการทำงานในฐานะ Friend of the Brand

เริ่มจากผลงานล่าสุดที่กำลังรอเปิดกล้องอย่าง Girl Rules กฎหลัก…ห้ามรักเธอ อยากชวนน้ำตาลเล่าถึงความพิเศษของเรื่องนี้และตัวละครที่ตัวเองได้รับ “Girl Rules เป็นเรื่องของกลุ่มเพื่อน และมีความสัมพันธ์เกิดขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความรักหลายรูปแบบ รักเพื่อน รักแฟนเก่า รักแฟนของเพื่อน รักเพื่อนร่วมงาน เป็นแนวที่โตขึ้นจาก Pluto นิทาน ดวงดาว ความรัก เรื่อง Girl Rules ถือเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่อีกโปรเจ็กต์ของบ้าน GMMTV ที่อยากให้ทุกคนรอติดตาม น้ำตาลว่าน้องๆ ทุกคนในเรื่องต่างก็มีเสน่ห์ และหลายคนน้ำตาลก็ยังไม่เคยร่วมงานด้วยเลย คิดว่าทุกคนจะได้เห็นเคมีใหม่ๆ ค่ะ ในเรื่องนี้น้ำตาลรับบทเป็นปริม เป็นผู้กำกับสาวที่ทำโปรดักชั่นเฮาส์กับเพื่อน ปริมเป็นเลสเบี้ยน เป็นคนมั่นใจในตัวเอง มีเสน่ห์ทางเพศ ซึ่งน้ำตาลมองปริมว่าเขาดูมีเสน่ห์ทั้งในสายตาผู้หญิงและผู้ชาย แต่ปมของเขาคือความขัดแย้งในเรื่องแฟนเก่า เชื่อว่าในช่วงชีวิตหนึ่งมันจะมีคนที่เราไม่สามารถลืมได้ไม่ว่าจะดีหรือร้าย คนคนนั้นจะอยู่ในใจเราเสมอ”

เรื่องนี้น้ำตาลเล่นคู่กับฟิล์มเป็นเรื่องที่สอง ตอนทำงานร่วมกันเรื่องแรก น้ำตาลเคยให้สัมภาษณ์ว่าแม้ทั้งคู่จะมีนิสัยแตกต่างกัน แต่ด้วยการพูดคุยกันบ่อยๆ ทำให้เข้าใจกันมาก และยังเป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี อยากให้เล่าว่าทั้งคู่ช่วยกันอย่างไรบ้าง “Pluto เหมือนเป็นสนามแรกที่ทำให้เราลองผิดลองถูกมาด้วยกัน จริงๆ มีเรื่องหนังสือรุ่นพลอย Ploy’s Yearbook ที่ได้ร่วมงานกัน แต่ไม่ได้เล่นคู่กัน มันเหมือนเราเข้าโรงเรียนแล้วเจอเพื่อน และดันโชคดีได้เจอเพื่อนที่ต่างคนต่างเข้าใจกัน และวันนี้เราจะมาทำงานกลุ่มนะ มันเป็นงานที่ไม่มีใครต้องทำคนเดียว และสำหรับน้ำตาล น้องฟิล์มถือเป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยแบ่งเบาความเหนื่อย น้ำตาลกับฟิล์มมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกัน และมีความเชี่ยวชาญบางเรื่องที่ไม่เหมือนกัน ข้อดีของฟิล์มคือเขาเป็นคนที่คอยรับฟัง คอยซัพพอร์ต มันทำให้เราย้อนกลับมาคิดว่าบางทีเราต้องนิ่งและฟังเขาบ้าง เหมือนกับน้องฟิล์มต้องเพิ่ม น้ำตาลต้องลด การทำงานของเรามันเลยราบรื่น อย่างก่อนหน้านี้ เรามี PRINCESS’S TALE ที่เป็นแฟนมีตติ้งในประเทศไทย เราผ่านอะไร
ด้วยกันมา ตอนนั้นเป็นอีกสนามที่ทำให้เรารู้ว่าไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์ แต่ในความไม่เพอร์เฟ็กต์ของเรา เราต้องให้อภัยข้อผิดพลาดของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะให้อภัยคนอื่นด้วยเหมือนกัน น้ำตาลรู้สึกว่ามีอะไรผิดพลาดเยอะมากใน PRINCESS’S TALE แต่มันก็ทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขตอนอยู่บนเวที ซึ่งทำให้เราย้อนนึกไปถึงตอนเรียนละครเวที เราไม่ต้องเป็น เพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ตลอดเวลา ขอแค่เรามีความสุข คนดูมีความสุข เลยเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่เรานำมาปรับใช้ใน BLUSH BLOSSOM FAN FEST ระหว่างทางน้ำตาลกับฟิล์มรู้ว่าเราไม่เก่งตรงไหน เราต้องพยายามตรงนั้น เราเต้นไม่ดีเท่าคนอื่น เราก็ต้องนัดกันซ้อมนอกรอบ เหมือนเราไปออกกำลังกาย แล้วเจอพาร์ตเนอร์ที่ดีคนหนึ่ง ทำให้เรามีแรงที่จะทำสิ่งนั้นมากขึ้นในทุกๆ วัน”

แล้วน้ำตาลเองให้กำลังใจตัวเองอย่างไรในวันที่ท้อ

“เวลาเจอเรื่องที่ทำให้เหนื่อยหรือท็อกซิกมากๆ ถ้าตอบแบบไม่โลกสวยคือการมีกลุ่มแฟนคลับที่ healthy มากๆ เขาให้กำลังใจเรา ให้ความรักเราตลอดเวลา สำหรับน้ำตาล สิ่งที่ทำให้เรามีสติกลับมาคือเราต้องรู้ว่าจะโฟกัสกับอะไรมากกว่า ถ้าเราเจอข้อความที่ไม่ดี ก็ดูซิว่าเป็นเรื่องจริงไหม ถ้าเขาพูดเรื่องจริง เราจะทำไงได้ แต่ถ้าไม่จริง จะไปซีเรียสทำไม เราเลือกได้ว่าจะมีความสุขในแบบไหน น้ำตาลจะบอกแฟนคลับเสมอนะเวลาเราหายไป เพราะเรารู้ว่าเวลาคนรอมันทรมานแค่ไหน แต่เราก็ต้องรู้ว่าอะไรที่ทำให้เราเหนื่อยเกินไปจนท้อ ส่วนใหญ่เรื่องงานถ้าเหนื่อยก็แค่กินแค่นอนมันก็หาย แต่บางเรื่องถ้าทำให้เหนื่อยใจ เราก็เลือกที่จะไม่เสพมัน”

น้ำตาลบอกเสมอว่ารักการแสดงมาก ถึงขนาดที่ว่าแม้ไม่มีคนดูก็ยังจะแสดง แล้วมีบ้างไหมที่รู้สึกสนุกกับการแสดงน้อยลง

“มีค่ะ ก็เพราะว่าไม่มีคนดูนี่แหละ ตอนเรียนละครเวทีอาจารย์บอกว่าคนดูสำคัญมาก ถ้าไม่มีคนดูเราไม่รู้นะว่าเราจะได้รับฟีดแบ็กอย่างไร ก็มีช่วงหมดไฟค่ะ แต่จะให้ไปทำอะไรได้ในเมื่อสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือการเป็นนักแสดง คือไม่ได้ดูถูกตัวเองนะ แต่เวลาทำงาน ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนถ้าเราทำแล้วยังมีความสุข น้ำตาลคิดว่านั่นคือสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด ก็ขอบคุณความโชคดีและโอกาสหลายๆ อย่างในชีวิตที่ทำให้เราได้มาเป็นนักแสดง ได้มาเล่น
Pluto ได้มาเล่นบทดีๆ มากมาย มีแฟนคลับมากขึ้น ได้เห็นว่ามีคนรับรู้ถึงความตั้งใจในงานที่เราทำ ณ ตอนนี้ผลงานเรามีคนดูทั่วโลก รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีในชีวิต ผู้ใหญ่ก็บอกว่าที่เราได้ทั้งหมดนี้มาก็เกิดจากการที่เราพิสูจน์ตัวเอง”

บทเรียนสำคัญที่ได้จากงานการแสดงคืออะไร

“คือการได้เข้าใจมนุษย์ อาจไม่ได้เข้าใจถ่องแท้ แต่อย่างน้อยก็ได้เข้าใจเหมือนที่เราเข้าใจตัวเอง รู้สึกว่ามนุษย์ไม่แบน มีความกลม มีรัก โลภ โกรธ หลง มีดีมีชั่ว มีทุกอย่างแบบที่ตัวเราก็มีเหมือนกัน พอได้ไปเข้าใจคนอื่น เลยทำให้เรารู้จักคำว่า empathy และอยากให้คนอื่นๆ มี empathy กับผู้คนบนโลกเหมือนกัน”

มีอะไรในวงการบันเทิงที่อยากทำอีกบ้าง

“อยากเป็นครูสอนการแสดงค่ะ เป็นเบื้องหลังไปเลย เรามีประสบการณ์ประมาณหนึ่งในเบื้องหน้าที่พอจะถ่ายทอดได้ น้ำตาลเรียนปริญญาโทเป็นครู ที่มศว. (คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาวิชาศิลปศึกษา) เลยรู้ว่าการเป็นครูไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเป็น เอาแค่จะสอนอย่างไรให้เด็กคนหนึ่งเติบโตเป็นวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ดีในสังคม แล้วเราจะสอนอย่างไรให้เด็กเป็นนักแสดงที่ดี จริงๆ การเรียนการแสดงไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเป็นนักแสดงเสมอไป  อยากให้อย่างน้อยๆ เด็กที่เติบโตมาได้เข้าใจตัวเอง และเข้าใจผู้อื่น น้ำตาลมองว่าปัจจุบันคนเป็นโรคซึมเศร้าเยอะ เราต้องสังเกตพฤติกรรมตัวเองและรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง อย่างที่บอก การแสดงไม่ใช่เรียนแล้วจะต้องมาทำงานในวงการบันเทิงเท่านั้น การแสดงสามารถเธอราปีได้หลายอย่าง นั่นคือสิ่งที่น้ำตาลจะต้องไปเทกคอร์สในอนาคต อาจจะไปอเมริกาหรืออังกฤษ  มีแพลนว่าจะสอนการแสดงแน่ๆ เพราะต่อไปถ้าเราไม่ค่อยมีโอกาสทางการแสดงเท่าตอนนี้ แล้วเราจะทิ้งสิ่งที่เรียนไปเหรอ เรารักสิ่งนี้มาก ถ้าเรามีความรู้อะไรที่สามารถส่งต่อได้
ก็อยากส่งต่อให้น้องๆ รุ่นหลัง”

นอกจากงานในวงการบันเทิง น้ำตาลยังผ่านการทำงานในวงการลักชัวรี่

มาเยอะด้วย และล่าสุดน้ำตาลได้รับการแต่งตั้งเป็น Friend of the Brand ของ FRED รู้สึกอย่างไรบ้างกับการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเมซง

“ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้มาเป็น Friend of the Brand ของ Fred Jewelry รู้สึกขอบคุณมากๆ ค่ะ และเป็นเกียรติกับชีวิตและครอบครัววีรวัฒโนดม เพราะสำหรับน้ำตาลแค่ได้มาถ่ายโฟโต้ชู้ตแต่ละงานก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีมากแล้ว ดังนั้นการได้มาเป็น Friend of the Brand ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจในชีวิตของน้ำตาล และหวังว่าจะสามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแบรนด์ และในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นตัวเองแบบนี้ให้สมกับที่เลือกเรามา”

น้ำตาลประทับใจอะไรใน FRED

“หลายคนอาจมองว่า FRED เข้าถึงยาก เพราะเป็นจิวเวลรี่ชั้นสูง แบบสูงจริงๆ อย่างที่น้ำตาลมาถ่ายวันนี้ ก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าชีวิตนี้จะได้มาใส่สร้อยเส้นละหลายสิบล้าน ต่างหูคู่ละหลายสิบล้าน แต่เรื่องราวของอัญมณีแต่ละเม็ดที่ถูกร้อยเรียงมาไว้บนตัวเรามันเล่าเรื่องราว อย่างมาจากที่ไหน เช่น บางเม็ดมาจากโคลอมเบีย ซึ่งก็เหมือนชีวิตคนคนหนึ่งเหมือนกันนะ ที่ถูกหยิบออกมาเจียระไน น้ำตาลก็มองชีวิตตัวเองว่าเป็นเพชรเม็ดหนึ่งที่เราจะเจียระไนตัวเองให้ออกมาเป็นอย่างไร แต่นอกจากนี้ FRED  ก็มีชิ้นงานที่เหมาะกับวันธรรมดาด้วย อย่างที่น้ำตาลชอบใส่มากคือจิวเวลรี่โรสโกลด์ รู้สึกว่าใส่เมื่อไรก็ได้ ใส่ออกงานหรือใส่ในชีวิตประจำวันก็ได้ ดังนั้นจริงๆ แล้ว FRED  เข้าถึงได้ในทุกเพศ ทุกวัย และก็มีเอกลักษณ์ในแบบของ FRED

แล้วน้ำตาลชอบอะไรบ้างในคอลเลกชั่น Monsieur Fred Ideal Light ที่สวมใส่ถ่ายแบบในวันนี้

“คอลเลกชั่นนี้โดดเด่นมาก อย่างแหวนสีฟ้าในเซ็ต Exalting Joy โอ้โห
โดดเด่นมากๆ แต่ส่วนตัวชอบเซ็ต Endless Horizon มาก มองแล้วทำให้นึกถึงความชิลล์ๆ ของชายหาด Mar del Plata แต่เซ็ต Bright Vitality ที่ได้แรงบันดาลใจจากใบปาล์มในสวน Palermo ก็สวยมาก สร้อยเส้นนี้ถ้าใส่แล้วใครไม่มองน่าจะแปลก (หัวเราะ) น้ำตาลรู้สึกว่าแค่เราใส่เสื้อผ้าเรียบๆ แล้วใส่สร้อยเส้นนี้เส้นเดียวคือจบ เอาอยู่”

แล้วน้ำตาลรู้สึกเชื่อมโยงกับ FRED อย่างไร

“ถ้าไม่ได้โฟกัสแค่คอลเลกชั่นนี้ น้ำตาลว่า FRED มีความคิดสร้างสรรค์บางอย่าง นอกจากจิวเวลรี่ชั้นสูง เขายังมีแบบเป็นเชือก ซึ่งเป็นวัสดุที่ทำให้สวมใส่ง่ายขึ้น และมีหลายสี ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีสีสัน ก็เหมือนน้ำตาล เช่น วันนี้น้ำตาลอาจจะเป็นสีดำหรือสีเหลือง พรุ่งนี้อาจจะเป็นสีฟ้า เขาสร้างสรรค์ชิ้นงานได้เข้าถึงความหลากหลาย ซึ่งตอบโจทย์คนยุคใหม่มาก อย่างน้ำตาลมาเล่น Girls’ Love คนถามบ่อยมาก เธอเป็นเพศอะไร น้ำตาลเคยคบกับผู้หญิง และก็เคยคบกับผู้ชาย แล้วก็เคยชอบ LGBTQ เพศอื่นๆ น้ำตาลรู้สึกว่า FRED ให้ทั้งความเป็นตัวเราและความเป็นคนยุคปัจจุบันมากๆ เพราะคนทุกวันนี้มีความหลากหลายมากๆ”

ในชีวิตประจำวันน้ำตาลเลือกจิวเวลรี่อย่างไร

“เลือกที่เรียบง่ายแต่ยังลักชัวรี่อยู่ เพราะบางวันเราอยากแต่งตัวสบายๆ แต่ใส่ต่างหูคู่หนึ่ง สร้อยเส้นหนึ่ง หรือแหวนวงหนึ่งออกจากบ้านแล้วรู้สึกว่าไม่ได้ดูโทรม ยังดูดีอยู่ในชุดธรรมดาๆ แบบที่น้ำตาลชอบที่สุดของ Fred Jewelry คือโรสโกลด์ค่ะ หรือจิวเวลรี่ชิ้นไหนจากคอลเลกชั่น Ideal Light ก็ช่วยคอมพลีตลุคได้ทันที”

นอกจากความสวยงามและลักชัวรี่แล้ว การเลือกเครื่องประดับสักชิ้นมาอยู่บนร่างกายเรามีความหมายอย่างไรกับน้ำตาลบ้าง

“ถ้าน้ำตาลใส่สร้อยคอ เราอยากให้คนที่มองเข้ามารู้สึกว่าน้ำตาลยังมีความอ่อนหวานอยู่ สร้อยโรสโกลด์ทำให้น้ำตาลรู้สึกอ่อนโยนขึ้นจากความเป็นผู้หญิงห้าวๆ ส่วนการใส่ต่างหูสำหรับน้ำตาลคือความมั่นใจ และถ้าอยากได้ความทะมัดทะแมง น้ำตาลจะใส่แหวนที่นิ้วชี้ เวลาเลือกใส่เครื่องประดับจะคิดแบบนี้ตั้งไว้ก่อนเลย”

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button
pgslot
pg
dv188
dv188
dv188
dv188
dv188
dv188
dv188
dv188
dv188