ล่องนาวาชมสองฝั่งเจ้าพระยา พร้อมวิวแจ่มตาบนดาดฟ้าเรือ ‘Apsara’ (อัปสรา)
“วิวสวยดีจัง…” วลีที่ลอยมาจากโต๊ะข้างๆ เมื่อเรือ ‘Apsara’ (อัปสรา) เคลื่อนออกจากท่าริเวอร์ซิตี้เกือบหนึ่งทุ่ม เราคล้อยตามอยู่ในใจ หลังปล่อยวางการงานไว้บนฝั่ง แล้วก้าวลงมานั่งบนเรือลำใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งปรากฏโฉมไม่ถึงเดือน การเดินทางของมื้ออร่อยกำลังจะเริ่มต้น
ผลงานศิลปะภายในเรือเป็นฝีมือของนักรบ มูลมานัส ศิลปินชื่อดังที่นำตำนานเก่าแก่ เมขลาล่อแก้วกับรามสูรขว้างขวานมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
โทรศัพท์มือถือทำหน้าที่เก็บภาพสวยตามระเบียบ มีเสียงเพลงหวานๆ จากนักไวโอลินสาวเล่นคลอไปกับบรรยากาศ ก่อนเสิร์ฟเมนูแรก แขกทุกคนต้องล้างมือ! พนักงานเอาน้ำใส่เหยือกมาให้ล้างมือถึงโต๊ะ ประหนึ่งกำลังจะเปิบด้วยมือ แต่ไม่ใช่..เป็นแค่กิมมิกน่ารักแบบไทย
น้ำพริกลงเรือในกระทงทอง
เพลินอารมณ์
รสสัมผัสแรกเรียกว่า Apsara Original หรือรัตติกาลห้องธารา เปรียบเสมือนการได้ล่องเรือมาทานอาหารด้วยกันในค่ำคืนนี้ พนักงานสาวอธิบายพร้อมกับวางเมนูหน้าตาสะสวย น้ำพริกลงเรือในกระทงทอง ส่วนผสมมีทั้งหมู ปลา กุ้ง กรุบกรอบด้วยแตงกวา ทานคู่กับอัปสราแครกเกอร์ที่มีส่วนผสมของสาคูกับกะปิ ตามด้วยจานเรียกน้ำย่อย อร่อยในคำเดียว เพลินอารมณ์ ประกอบด้วย ถุงเงินยวง ข้างในเป็นหมูห่อด้วยฟองเต้าหู้ ข้างใต้เป็นซอสอะโวคาโด ปั้นขลิบแกงปู เชฟเลือกใช้ปูเนื้อซึ่งมีความนุ่ม ทานคู่กับซอสสับปะรด เมี่ยงส้ม มีส่วนผสมของกุ้ง ส้มโอ มะพร้าว ทานพร้อมใบชะพลูที่ห่อมาในหนึ่งคำได้เลย
ต้มยำกุ้งแม่น้ำอโยธยา
แกงคั่วเนื้อนุ่มใบชะมวง ปลาหิมะทอดผัดน้ำพริกแจ่ว
เอกลักษณ์ของอาหารที่นี่เป็นสไตล์ไทยร่วมสมัย โดยนำเมนูสมัยโบราณที่หาทานได้ยากมาประยุกต์ให้เหมาะกับปัจจุบัน เมนูที่ขาดไม่ได้เลยในสำรับอาหารไทยก็คือต้มยำ สำหรับอัปสราแล้วต้องไม่เหมือนใคร ต้มยำกุ้งแม่น้ำอโยธยา เชฟรังสรรค์ในรูปแบบของซุปรสชาติกลมกล่อม ซดเพลิน ส่วนอาหารจานหลัก ปลาหิมะทอดผัดน้ำพริกแจ่ว และแกงคั่วเนื้อนุ่มใบชะมวง เสิร์ฟพร้อมข้าวที่มีให้เลือกทั้งข้าวขาวหรือข้าวหอมนิล สองเมนูที่เข้ากันได้ดี ทานปลาคำ ทานเนื้อคำ เป็นความลงตัวที่เหมาะสมทั้งรสชาติและปริมาณ
ไอศกรีมส้มฉุน แก้วตาดวงใจ พลอยไพลิน
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน ไอศกรีมส้มฉุน แก้วตาดวงใจ พลอยไพลิน วางเสิร์ฟขณะเรือวกกลับมายังจุดเดิม เราเพลิดเพลินจนลืมดูว่าผ่านไปแล้วเกือบสามชั่วโมง ห้วงเวลาแห่งความชิลหมดลงโดยปริยาย ส่วนตัวแล้วเราคุ้นเคยกับแม่น้ำสายนี้เพียงแค่ขับผ่านไปมาทุกวัน แต่พอได้มาสัมผัสแบบใกล้ชิดยิ่งทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลง ทว่าการได้อยู่นิ่งๆ บนดาดฟ้าเรือและใช้เวลากับแลนด์มาร์กสำคัญอย่างวัดอรุณฯ (เรือจะจอดให้เก็บภาพประมาณสิบนาที) กลับรู้สึกถึงความคงเดิม แม้ความรุ่งเรืองจะแผ่ขยาย แต่แม่น้ำสายนี้ยังทรงพลังและมอบความสุขสงบให้กับใจเราได้เสมอ
อัปสราบริการทุกวัน รองรับลูกค้าได้ 50 คน เริ่มออกจากท่าเรือริเวอร์ซิตี้ (หมายเลข 1) เวลา 18.45 น. เซ็ตเมนู 4 คอร์ส ราคาสุทธิ 3,800 บาท และ 4,800 บาท พร้อมตัวเลือกไวน์แพริ่ง เครื่องดื่มมีให้เลือกมากมาย อาทิ ม็อกเทล วิสกี้ รัม วอดก้า รวมทั้งเครื่องดื่มจากประเทศในแถบเอเชียที่คัดสรรมาอย่างดี ตลอดจนไวน์คุณภาพจากทั่วโลก สามารถเช่าเหมาลำเพื่อจัดดินเนอร์ส่วนตัวหรือเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญได้ สอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่ 0-2679-1200 หรืออีเมล [email protected] เว็บไซต์ banyantree.com
เรืออัปสราสรรค์สร้างอย่างสวยงามจากไม้สักที่สะท้อนความสง่างามแบบไทย มีพื้นที่ดาดฟ้าชั้นลอยให้นั่งรับลม ชมวิวสองฝั่งแบบไม่มีอะไรบดบังสายตา
The post ล่องนาวาชมสองฝั่งเจ้าพระยา พร้อมวิวแจ่มตาบนดาดฟ้าเรือ ‘Apsara’ (อัปสรา) appeared first on L’Officiel Thailand.