เจฟ ซาเตอร์ ได้รับแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Maison Valentino ไปหมาดๆ และเมื่อย้อนกลับไป เจฟได้แสดงถึงสายสัมพันธ์ที่ดีต่อเมซงผ่านผลงานเพลง Black Tie ในปี 2023 ซึ่งเป็นซิงเกิลภาษาอังกฤษครั้งแรกในชีวิต และเป็นซิงเกิลที่ 8 ตอกย้ำความเป็นศิลปินที่หาตัวจับยากของเขา
ซิงเกิล Black Tie ซึ่งโดดเด่นด้วยซาวด์เท่ๆ และเสียงร้องที่ทรงพลังและเข้าถึงอารมณ์ของเจฟยังได้แรงบันดาลใจมาจาก คอลเลกชั่น Black Tie ของ Maison Valentino แบรนด์แฟชั่นลักชัวรี่จากอิตาลีนาม ซึ่งมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับดนตรีอยู่แล้ว
คอลเลกชั่น Fall-Winter 2023 ซึ่งมีชื่อว่า Black Tie นี้ได้นำเอาเนกไทสีดำซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นทางการและความเป็นชายมาตีความใหม่ และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แสดงถึงความเป็นปัจเจก การปลดปล่อย และการก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งเข้ากับความหมายของเพลง Black Tie ที่หนุ่มเจฟทั้งแต่งเนื้อและดนตรี และโปรดิวซ์เอง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ยอมรับตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์และใช้ชีวิตในแบบของตนเอง
ในมิวสิกวิดีโอที่เพิ่งปล่อยออกมา เรายังได้เห็นเจฟปรากฏตัวในลุคสุดเท่ซึ่งเป็นชุดจากรันเวย์จากคอลเลกชัน Valentino Black Tie ทั้งหมด 2 ชุด รวมถึงลุคตัดขึ้นใหม่เป็นพิเศษทั้งหมด 2 ลุค ผลงานการออกแบบของผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ Pierpaolo Piccioli ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ ทั้งชุดคลุมสีดำและสีขาวพร้อมดีเทลการปักด้วยขนนกทั้งชุด อีกทั้งปักคำว่า “JEFF SATUR” ด้วยเลื่อมสีเข้มบริเวณด้านหลัง เข้าคู่กันกับกางเกงขายาว และเสริมด้วย ValenTie ที่ออกแบบพิเศษ ด้วยการปักอักษรย่อ “JS” และสวมใส่ชุดสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Maison สวมคู่กับกางเกงขาสั้น พร้อมผูกเนกไทสีแดง และรองเท้าบู๊ต M-Way ของ Valentino Garavani Rockstud นอกจากนี้ เหล่านักเต้นที่ร่วมแสดงยังสวมใส่แว่นตาโอเวอร์ไซส์ iconic oversized Valentino V-Romask จาก Valentino eyewear ด้วย
เจฟ ซาเตอร์ ศิลปินหนุ่มลูกเสี้ยวไทย จีน อังกฤษในสังกัด Wayfer Records (ภายใต้การดูแลของ Warner Music Thailand) เข้าสู่วงการในฐานะนักร้องมาตั้งแต่ปี 2015 และต้องฟันฝ่าบนเส้นทางสายในวงการเพลงอยู่นานจนแทบจะถอดใจไปแเล้ว เจฟ ซาเตอเริ่มโด่งดังเป็นพลุแตกจากบทบาทการแสดงในซีรีส์ KinnPorsche The Series ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง และทำให้คนได้รู้จักตัวตนของเขามากขึ้นในฐานะศิลปินที่ครบเครื่องทั้งในด้านการร้องและการแต่งเพลง และนับวันความสามารถของเขาก็เป็นที่ประจักษ์ชัด ทั้งจากซิงเกิล “ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade)”, “Dum Dum (ดึม ดึม)” รวมถึง “ก่อนที่เธอจะลืมฝัน (Lucid)” และ Black Tie ซึ่งเป็นผลงานล่าสุด รวมถึงการได้มีโอกาสไปโชว์ความสามารถทางการร้องเพลงในรายการเรียลิตี้สุดฮิตของจีน ‘Call Me By Fire 3’ ซึ่งทำเอาผู้ชมทั้งอึ้งและทึ่งๆ ไปตามๆ กัน
ไม่เพียงเท่านั้น เจฟยังเป็นที่จับตามองจากสไตล์แฟชั่นอันโดดเด่นเป็นตัวเองของเขา ทำให้แบรนด์ต่างๆ อยากร่วมงานกับเขามากมาย ซึ่งรวมถึง Maison Valentino ซึ่งเขาได้เดินทางร่วมงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ที่มิลานด้วย
ชมมิวสิควิดีโอ Black Tie ได้ที่ YouTube: Jeff Satur
บทความที่เกี่ยวข้อง:
– Valentino Le Noir คอลเลกชั่นสีดำล้วนในแบบฉบับของสุภาพสตรี Valentino
– Valentino Haute Couture Spring/Summer 2024 ความเรียบหรูในเฉดสีที่สดใส
– Black Tie ของ Valentino กับการฉีกทุกกฎเกณฑ์สู่ความกล้าอันแสนสง่า
