ชาเนลนำเสนอคอลเลกชั่นเสื้อผ้าชั้นสูงอีกครั้ง และนำพาความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ออกมาให้สู่ Grand Palais และแขกคนพิเศษจากทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากการเฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปีในปีนี้ คอลเลกชั่นดังกล่าวถือเป็นคำประกาศถึงความงามและความเป็นเลิศ โดยมอบขอบเขตที่ไม่จำกัดให้กับสตูดิโอในการสร้างสรรค์ ด้วยความชำนาญและอิสระอย่างยิ่งใหญ่ และถ่ายทอดคุณค่าและกลับถึงแก่นแท้ของแบรนด์ และดังที่กาเบรียล ชาเนลเคยกล่าวไว้ว่า “สุขสบายอย่างมีรูปแบบ รักอย่างมีสีสัน”
สีสันของคอลเลกชั่น
คอลเลกชั่นกูตูร์ในครั้งนี้ ทีมงานของเมซงได้เลือกที่จะยกย่องคอลเลกชั่น Haute Couture นี้อันเป็นผลงานลักษณะเด่นของ Gabrielle Chanel แน่นอนว่าคอลเลกชั่นนี้จะเห็นสีสันหลากหลายในการออกแบบ ที่เมื่อย้อนกลับไปเริ่มมีการใช้สีดำอย่างโดดเด่น ถือว่าเป็นการปฏิวัติในต่างความคิดสร้างสรรค์ครั้งยิ่งใหญ่ของวงการกูตูรีเย่ นอกจากนั้นเธอก็ยังนำเสนอสีสันมากมายและนำมาใช้ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย โดยใช้สีทุกสีในทุกสเปกตรัม ตั้งแต่สีดำไปจนถึงสีขาว ตั้งแต่สีพาสเทลอ่อนๆ ไปจนถึงโทนสีที่สดใสที่สุด
เมื่อพูดถึงจุดเด่นเรื่องการใช้สี คอลเลกชั่นนี้ดำเนินไปอย่างครบวงจร และทำให้งานอาภรณ์ชั้นสูงผสานเข้ากับการใช้งานได้ตั้งแต่กลางวันถึงกลางคืน โดยประกอบไปด้วยชุดสไตล์ชุดนอนในผ้าเครปไหมในสีของเวลารุ่งสาง ชุดสูททวีดสีเหลืองสดใส เดรสทวีดสีม่วงพร้อมจีบ ชุดสูททวีดสีขาวและสีดำที่วาดและปักลายอย่างประณีต จากนั้นจึงมาสวมเสื้อโค้ทสีชมพูส้มทับเดรสผ้าแจ็คการ์ดสีม่วง และชุดสูทสีชมพูมิโมซ่าพร้อมระบายสีชมพูอ่อน นอกจากนี้สีสันของรองเท้าจะแตกต่างกันแต่ละลุค ไล่ไปตั้งแต่สีฟ้าอ่อนและสีม่วงไปจนถึงสีขาวและสีครีม
ในคอลเลกชั่นจะเห็นได้ถึงความหลากหลายของซิลูเอตทั้งชุดเดรสสั้นและยาวสลับกัน แต่ความละเอียดอ่อนของเนื้อผ้าช่วยให้สามารถเล่นกับสัดส่วนได้อย่างยอดเยี่ยม เดรสเหล่านี้ดูอ่อนช้อยและปักลาย ระบายและจับจีบ ซึ่งแสดงถึงความซับซ้อนทางเทคนิคและมรดกทางงานฝีมือของเมซง เดรสลายดาว เดรสสีแดงผ้าชีฟองปักลาย เดรสเชิ้ตพร้อมผ้าคาดเอวจับจีบผ้าซาตินสีเหลืองอ่อน เสื้อคลุมยาวสีฟ้าอ่อน เดรสปักเลื่อมสีขาวที่สวมคู่กับเสื้อโค้ทผ้าทวีดสีแชมเปญ
นอกจากเรื่องของสีสันและความประณีตแล้ว คอลเลกชั่นนี้ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเทพนิยาย ความเบาหวิวของวัสดุและภาพลวงตาที่ละเอียดอ่อนสะท้อนผ่านผ้าลูกไม้เพ้นสีและผ้าชีฟองปักลายที่เสริมด้วยเทคนิคการไล่เฉดสีที่ช่วยให้เกิดเทคนิค trompe l’oeil ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบผ้าทวีด
การแสดงสถานที่
ตรงกลางของโถงของ Grand Palais ถูกจัดให้เป็นโครงส้รางรันเวย์รูปตัวอักษร C สองตัวที่วาดเป็นสัญลักษณ์อินฟินิตี้ สะท้อนถึงความยอดเยี่ยมของมรดกทางงานหัตถศิลป์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของคอลเลกชั่น Haute Couture และ ตอกย้ำจุดยืนที่ว่า CHANEL เป็นแบรนด์กูตูริเย่ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่
โครงสร้างนี้ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบฉากอย่าง Willo Perron ซึ่งพื้นที่ชวนให้นึกถึงวงกลมสีที่ทีมงานของชาเนลเลือกตีความใหม่ โดยร่วมมือกับ Michel Gaubert นักแต่งเพลงและ Gustave Rudman ผู้เรียบเรียงได้แต่งเพลงประกอบการแสดงนี้ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ
ผ้าทวีด กระเป๋า ถักเปีย ซับในที่เข้ากันกับเสื้อเบลาส์ ซึ่งบางครั้งก็ติดกับกระโปรง
เพื่อให้ดูโดดเด่น และกระดุมอันล้ำค่า: เสน่ห์อันเย้ายวนของ CHANEL ทั้งหมดถูกถ่ายทอดออกมาอย่างงดงาม
ที่นี่ เล่นกับสีสันที่สดใสและความแตกต่างที่สดใส ซับในมีให้เลือกในสีบรอนซ์ ชมพู เขียว เหลือง น้ำเงินรอยัล หรือม่วงซาติน ในขณะที่เปียเป็นแบบกราฟิก หลากสี หรือปักดอกไม้เล็กๆ
Grand Palais และ Chanel สิ่งที่คนแฟชั่นควรรู้ก่อนไปเยือน
กระดุมคริสตัลหิน โลหะ และเพชรเทียมเปลี่ยนรูปร่างเป็นดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และดอกคามิลเลีย
ดวงดาวแห่งดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ปรากฏบนเข็มขัดกำมะหยี่สีดำ ซึ่งเตือนถึงความสำคัญของสีดำต่อแบรนด์
The post Chanel Haute Couture Spring/Summer 2025 : สีสันอันหลากหลายบนเสื้อผ้าชั้นสูง appeared first on L’Officiel Thailand.
