‘Écalts de Rose’ ทุกมุมมองของดอกกุหลาบผ่านการตีความของแบรนด์น้ำหอมชื่อดัง Maison Francis Kurkdjian สู่งาศิลป์ที่ผสานวัฒนธรรมของสองซีกโลกไว้อย่างลงตัว
การปรุงน้ำหอมหรือกลิ่นหอมนั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ละเอียดอ่อน แต่เป็นอีกหนึ่งศาสตร์และศิลป์ที่มีให้เห็นอย่างแพร่หลายทั่วทุกมุมโลกมาอย่างช้านาน ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งทำให้เราสามารถพูดได้ว่าโลกของกลิ่นหอมนั้นเป็นสากลอย่างน่าเหลือเชื่อ และเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งครั้งที่เราได้มีโอกาสไปดื่มด่ำความละเอียดอ่อนและน่าค้นหาของโลกแห่งกลิ่นหอม ในทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟไปกับ Maison Francis Kurkdjian หนึ่งในแบรนด์น้ำหอมนิชสุดหรู ณ เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ที่ซึ่งเราได้เข้าสู่โลกของกลิ่นหอมอันน่าหลงใหลของแบรนด์ ผ่านมุมมองทางด้านวัฒนธรรมและศิลป์แห่งกลิ่นหอมที่สอดประสานกันอย่างน่าประหลาดใจของตะวันตกและตะวันออก โดยมีดอกกุหลาบเป็นสื่อกลาง
เริ่มต้นกันด้วยเรื่องราวของความละเอียดอ่อนในการปรุงกลิ่นหอม เราได้เห็นการจับคู่งานฝีมือของฝั่งตะวันตกและตะวันออกในงาน Jeux de Mains ที่สมาคม Comité Colbert สมาคมสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งตั้งขึ้นมาอย่างยาวนานเพื่อสนับสนุนงานฝีมือทุกแขนง ซึ่ง Maison Francis Kurkdjian เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้ร่วมเผยงานฝีมือในการสร้างกลิ่นหอมในครั้งนี้ โดยทางแบรนด์ได้นำ Malle du Parfumeur หรือ ‘Perfumer’s Trunk’ กระเป๋าที่เต็มไปด้วยส่วนผสมบริสุทธิ์ที่คุณ Francis Kurkdjian ใช้สร้างสรรค์กลิ่นหอมในสไตล์ฝรั่งเศส จับคู่กับ Chinese Perfumery ศาสตร์แห่งการสร้างกลิ่นหอมแบบจีนที่ออกมาในรูปแบบธูปและกำยาน ให้ได้เห็นตัวแทนแห่งความละเอียดอ่อนในการสร้างกลิ่นหอมของทั้งโลกตะวันตกและตะวันออก ที่มีทั้งความคล้ายคลึงและความแตกต่าง เพื่อสร้างกลิ่นหอมที่นำไปใช้สร้างความรื่นรมย์ในรูปแบบต่างๆ และโทนกลิ่นที่เปลี่ยนแปลงไปตามภูมิภาค
ในวันเดียวกัน เราได้พบกับไฮไลท์ในครั้งนี้ อย่างนิทรรศการ ‘Écalts de Rose’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงาน West Bund Art & Design งานแสดงศิลปะร่วมสมัยประจำปีของ West Bund Art Center ถือเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ Maison Francis Kurkdjian จัดแสดงงานศิลป์ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมนอกยุโรป โดยใช้ ‘ดอกกุหลาบ’ ดอกไม้ที่เป็นที่รักของคนทั่วโลก มารังสรรค์สวนกุหลาบโดยได้ Cyril Teste และ Nina Chalot สองศิลปินและนักออกแบบชาวฝรั่งเศสมาออกแบบการจัดวางของสวนกุหลาบอันสวยงาม เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวซึ่งนำเสนอด้วยดอกกุหลาบเครื่องลายคราม เส้นทางนี้เป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางของดอกกุหลาบจากจีนสู่ฝรั่งเศส และแสดงถึงวิวัฒนาการของกุหลาบในแง่ของสายพันธุ์ กลิ่น และสี แสงที่ผสมผสานในผนังของการติดตั้งจะพาผู้เยี่ยมชมเข้าสู่การเคลื่อนไหวต่อเนื่องของกลีบดอกที่ราวกับกำลังโบยบิน ส่งชีวิตให้กับเงาดอกกุหลาบเครื่องลายคราม เสียงประกอบที่น่ารื่นรมย์
‘Écalts de Rose’ โดดเด่นด้วยกลีบกุหลาบซึ่งทำจากกระเบื้องเคลือบงานฝีมือโดย Manufacture de Sèvres โรงงานเครื่องลายครามที่มีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศสและมีช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ยาวนาน ปั้นกลีบกุหลาบผ่านกรรมวิธีพิเศษ ใช้ดินนิ่มสร้างเป็นเครื่องลายครามประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความขาวและยังคงผลิตในสถานที่นั้น จากนั้นทีมเวิร์กช็อปปั้นปูนปลาสเตอร์ได้สร้างแม่พิมพ์ชุดหนึ่งที่ใช้ประทับกลีบดอกทีละกลีบ แต่ละชิ้นถูกนำออกจากแม่พิมพ์และแกะสลักอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้ผิวที่เป็นเอกลักษณ์ สุดท้ายกลีบเหล่านี้ถูกเผาที่อุณหภูมิ 1050°C นาน 10.5 ชั่วโมง เมื่อออกจากเตาเผา กลีบเหล่านี้จะถูกขัดเบาๆ และชุบด้วยน้ำหอมเป็นขั้นตอนสุดท้าย สร้างเอกลักษณ์ที่พิเศษกว่าที่ไหนให้กับดอกกุหลาบที่วางอยู่บนก้านทองเหลืองนี้ได้อย่างน่าประทับใจ กับการทำให้เครื่องกระเบื้องเคลือบมีกลิ่นหอมได้ โดยใช้ความชำนาญจากหกเวิร์กช็อปเป็นเวลาสามเดือน เป็นอีกหนึ่งการผสานความเป็นฝรั่งเศสที่ใช้ตัวดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ และศิลปะเครื่องกระเบื้องเคลือบมาเป็นลักษณ์ของประเทศจีน
ปิดท้ายทริปที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันสวยงามนี้ ด้วยการที่เราได้ร่วมฟัง West Bund VOICE ของคุณ Francis Kurkdjian ที่กล่าวถึงเรื่องศาสตร์แห่งกานปรุงน้ำหอมอย่างเจาะลึก ซึ่งเขาได้พูดถึงการผสมผสานกลิ่นหอมของดอกไม้ในฝั่งเอเชียเพื่อความเชื่อมโยงและเข้าถึงง่ายมายิ่งขึ้น ถือเป็นการปิดฉากทริปที่ทำให้เราได้รับรู้ถึงแง่มุมแห่งศาสตร์และศิลป์ของกลิ่นหอมที่ Maison Francis Kurkdjian ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิ่งใด
ภาพถ่ายโดย Maison Francis Kurkdjian
The post ‘Écalts de Rose’ ทุกมุมมองของดอกกุหลาบผ่านการตีความของแบรนด์น้ำหอมชื่อดัง Maison Francis Kurkdjian สู่งาศิลป์ที่ผสานวัฒนธรรมของสองซีกโลกไว้อย่างลงตัว appeared first on L’Officiel Thailand.