FENDI ประกาศการย้ายโลเคชั่นของบูติก ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม โดยมีพื้นที่กว่า 180 ตารางเมตร ครอบคลุมสินค้าเครื่องหนัง แอ็กเซสเซอรี่ เสื้อผ้า ready-to-wear และรองเท้าสำหรับทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ
บูติกแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้งที่หรูหราและทันสมัย ซึ่งนำเสนอแก่นแท้ของคอลเลกชั่นเสื้อผ้าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ได้อย่างเต็มรูปแบบ ผสมผสานเอกลักษณ์ของเมซงเข้ากับความงดงามของไอคอนสยาม ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันโดดเด่นของกรุงเทพฯ ได้อย่างลงตัว เนื่องในโอกาศครบรอบ 100 ปีของ FENDI พื้นที่นี้จึงเปรียบเสมือนการผสานอย่างกลมกลืนระหว่างศิลปะและการออกแบบ เพื่อเฉลิมฉลองมรดก งานฝีมือ และจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์ตลอดหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
เพื่อเป็นการยกย่องมรดกของเมซง ด้านหน้าของบูติกมีโครงสร้างทรงโค้งที่ทำจากหินอ่อน Travertino ซึ่งชวนให้นึกถึงซุ้มประตูของสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ สลับกับหน้าต่างกระจกโปร่งใส การตีความใหม่ในรูปแบบร่วมสมัยนี้สร้างบทสนทนาระหว่างพื้นที่ภายนอกและภายใน เผยให้เห็นบรรยากาศการตกแต่งภายในร้านที่หรูหรา องค์ประกอบทรงโค้งยังคงสะท้อนอยู่ภายในร้าน ผสานเข้ากับหินอ่อน Travertino และหินอ่อน Patagonia พร้อมตกแต่งด้วยรายละเอียดในโทนสีแชมเปญ สร้างภาษาภาพที่โดดเด่น
การผสมผสานอย่างพิถีพิถันของพื้นผิว ลวดลาย และวัสดุชั้นเลิศ แสดงออกถึงความเป็นคู่และความเหนือกาลเวลาที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ บริเวณจัดแสดงเสื้อผ้า ready-to-wear ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคนิคทางสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า anastilosis ซึ่งเป็นการบูรณะซากโบราณสถานของโรมันโดยใช้ชิ้นส่วนดั้งเดิมร่วมกับวัสดุใหม่ ถ่ายทอดการเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบันผ่านการผสมผสานของหินอ่อน Travertino โลหะ และกระจกทำมือที่มีพื้นผิวเฉพาะตัว
นอกเหนือจากคอลเลกชั่นเสื้อผ้า ready-to-wear สำหรับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษแล้ว บูติกแห่งนี้ยังมีพื้นที่เฉพาะสำหรับกระเป๋า แอ็กเซสเซอรี่ และรองเท้า เพื่อประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ครบครันและหรูหรา การออกแบบพื้นและผนังภายในร้านเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันอย่างมีศิลปะ อาทิ หินอ่อนและไม้ พร้อมการตกแต่งอย่างวิจิตรที่สะท้อนรากฐานแบบโรมันของแบรนด์
ห้องแสดงสินค้าเครื่องหนังและแอ็กเซสเซอรี่สำหรับสุภาพสตรีโดดเด่นด้วยงานศิลปะที่มีชีวิตชีวา โดยคุณมิตร ใจอินทร์ (Mit Jai Inn) ซึ่งเป็นผลงานผ้าทอสีสันสดใสสะท้อนถึงแก่นแท้ของงานหัตถศิลป์ไทยที่หยั่งรากลึกในวัฒนธรรมท้องถิ่น ผลงานชิ้นนี้ใช้ริบบิ้นผ้าใบที่ผ่านการแต้มสีซึ่งถูกสอดประสานด้วยมือ กลายเป็นพื้นผิวที่เต็มไปด้วยสีสัน ผิวสัมผัส และมิติไว้ในกระบวนการทออย่างพิถีพิถัน ผลงานชิ้นนี้ไม่มุ่งเน้นการเล่าเรื่องหรือการสร้างภาพลวงตา แต่เผยให้เห็นความหนาแน่นอันเงียบสงบ ทั้งในแง่ของแรงงาน การสัมผัส และระบบการคิดที่ค่อยๆ ก่อรูปขึ้นตามกาลเวลา ซึ่งไม่ใช่เพียงการแสดงถึงการเชื่อมโยง แต่เป็นรูปทรงของการเชื่อมโยง ผลงานจิตรกรรมชิ้นนี้เกิดจากกระบวนการทบซ้อน ประกอบ และถักทออย่างค่อยเป็นค่อยไป สอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์ที่ยกย่องนวัตกรรมและศิลปะที่ประณีต
เพื่อยกระดับประสบการณ์ภายในบูติก ห้อง VIP ได้รับการตกแต่งด้วยผลงานที่รังสรรค์ขึ้นเฉพาะ โดยคุณปอม ธัชมาพรรณ (Pomme Chan) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากหนึ่งในโลโก้ยุคแรกของแบรนด์อย่างกระรอก สัญลักษณ์แห่งพลังงานและงานฝีมือ โดยงานศิลป์ชิ้นนี้ถ่ายทอดการเคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลง และการเชื่อมโยง ลวดลายหมุนวนอันเป็นเอกลักษณ์สื่อถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่ลื่นไหล ขณะที่ลวดลายสลับซับซ้อนซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกระเบื้องของวัดโพธิ์เป็นการยกย่องต่อศิลปะไทย ภาพประกอบลายเส้นอันโดดเด่นของศิลปินถูกถ่ายทอดลงบนแผ่นไม้วีเนียร์อย่างประณีต มอบความรู้สึกพิเศษและอบอุ่นสำหรับลูกค้าคนสำคัญของ FENDI อีกทั้งบูติกยังมีโต๊ะจัดแสดงสินค้าที่ออกแบบโดย OEUOFFICE ซึ่งผลิตขึ้นเฉพาะด้วยพื้นผิวหินอ่อน จับคู่กับพรมสีสันสดใสและการเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบ
บูติกแห่งใหม่ของ FENDI ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม สะท้อนถึงจิตวิญญาณอันแท้จริงของเมซง ที่ถ่ายทอดความสมดุลระหว่างประเพณีและวิวัฒนาการ เชื่อมโยงมรดกทางวัฒนธรรมของโรมันเข้ากับการออกแบบร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ในขณะเดียวกันก็ผสมผสานเสน่ห์แบบอิตาเลียนที่โดดเด่นลงในฉากวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของประเทศไทย สอดคล้องกับตัวตนของไอคอนสยามในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำที่หลอมรวมความหรูหราและนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ
อ่านบทความที่น่าสนใจ
Hermès Men’s Summer 2026 สัมผัสใหม่แห่งความเบา สงบ และมีสไตล์
Jonathan Anderson เปิดบทใหม่ให้ Dior ด้วยแฟชั่นผู้ชายที่กล้าท้าทายอดีต
Balenciaga by Demna นำเสนอผลงานตลอด 10 ปีของเมซง
