Jannik Sinner มือหนึ่งของโลกและ Rolex Testimonee กับการคว้าแชมป์รายการแกรนด์แสลมแรกของฤดูกาล
ในการแข่งขันเทนนิส Australian Open ที่เพิ่งผ่านพ้นไป Jannik Sinner นักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่งของโลกชาวอิตาเลียนและ Rolex Testimonee สามารถคว้าแชมป์ชายเดี่ยวมาครองได้สำเร็จ นับเป็นแชมป์แกรนด์แสลมเดี่ยวครั้งแรกของเขาในฤดูกาลนี้ และเป็นครั้งที่สามในเส้นทางอาชีพของเขา
Jannik Sinner คว้าถ้วยรางวัลการแข่งขันเทนนิสชายเดี่ยว Australian Open
ณ สนามแข่งขัน Rod Laver Arena ในเมลเบิร์น พาร์ค ผู้ชมกว่า 15,000 คนได้มีโอกาสสมผัสความเก่งกาจของซินเนอร์ด้วยตา โดยเขาสามารถเอาชนะ Alexander Zverev คู่แข่งไปได้ด้วยสกอร์ 6-3, 7-6 และ 6-3 ภายในเวลา 2 ชั่วโมง 42 นาที เพื่อคว้าถ้วยรางวัล Norman Brookes Challenge Cup เป็นปีที่สองติดต่อกัน
ซินเนอร์ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น Rolex Testimonee มาตั้งแต่ปี 2020 กล่าวถึงการคว้าแชมป์แกรนด์แสลมครั้งนี้ว่า “มันน่าทึ่งมากที่ได้ร่วมแบ่งปันช่วงเวลานี้กับทีม สำหรับผม นี่เป็นแกรนด์สแลมที่พิเศษที่สุด นี่คือช่วงเวลาที่ผมตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อมัน เพื่อได้มายืนอยู่บนสนามอันยิ่งใหญ่ในช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพของตัวเอง ครั้งแรกที่ผมใส่นาฬิกา Rolex ก็คือตอนอยู่ที่ออสเตรเลีย และผมก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาอยู่ในจุดนี้อีกครั้ง”
สำหรับ Rolex ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับการแข่งขันเทนนิสมาอย่างยาวนาน ได้เริ่มตั้งแต่การสนับสนุนการแข่งขัน Winbledon มาตั้งแต่ปี 1978 และเดินหน้าสนับสนุนการแข่งขันและผู้เล่นมากฝีมือมาโดยตลอด จนกลายเป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของ Australian Open นับตั้งแต่ปี 2008
ตลอดระยะเวลา15 วันของการแข่งขันที่ผ่านมา เราได้เห็นนักเทนนิสทั้งชายและหญิงลงสนามขับเคี่ยวกันอย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะเหล่า Rolex Testimonee ทั้งคนที่ได้แชมป์ในรายการต่างๆ มากมายและดาวรุ่งดวงใหม่ เช่น Mirra Andreeva วัย 17 ที่ผ่านเข้าไปถึงรอบที่ 4 หรือการลงแข่งกันระหว่าง Belinda Bencic และ Coco Gauff และการลงแข่งจนถึงรอบควอเตอร์ไฟนอลของ Carlos Alcaraz
Rod Laver ขณะเฝ้ามองการแข่งขันในสนามที่ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา
นอกจากนี้ ในปีนี้ยังถึงเป็นปีที่ 25 ที่สนาม Rod Laver Arena ได้รับการตั้งชื่อตาม ร็อด เลเวอร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่นักเทนนิสชาวออสเตรเลียระดับตำนานที่เคยสามแชมป์แกรนด์แสลมในปีเดียวกันได้( ปี 1962 และ 1969) ด้วย ร็อด เลเวอร์ ซึ่งมักมาเฝ้ามองการแข่งขันจากข้างสนามในทุกปีกล่าวว่า “ผมสนุกกับการลงแข่งรายการแกรนด์แสลมทั้งสี่ในตลอดเส้นทางอาชีพ ทุกรายการต่างกันและเป็นการแข่งขันที่นักเทนนิสทุกคนต้องการชนะ มันน่าทึ่งมากที่ได้นึกย้อนถึงแมตช์ต่างๆ ที่น่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นในรายการ Australian Open และโดยเฉพาะในสนาม Rod Laver Arena ทุกคนนำเกมเทนนิสที่ดีที่สุดมาสู่แกรนด์สแลม”
เขายังกล่าวด้วยว่า “การที่ Rolex เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน Austrlian Open นั้นมีความสำคัญยิ่งต่อวงการเทนนิสและประเทศของเราในเวทีระดับโลก เป็นการจับมือเป็นพันธมิตรที่น่าทึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
และเนื่องจากซินเนอร์เป็นผู้คว้าแชมป์ชายเดียวใน Australian Open อีกครั้งในปีนี้ นักเทนนิสหนุ่มวัย 23 กำลังเจริญรอยตามเลเวอร์ และเหล่า Rolex Testimonee รุ่นพี่ที่เคยชนะการแข่งขันนี้ ทั้ง Chris Evert, Stefan Edberg, Jim Courier, Roger Federer, Justine Henin, Li Na, Angelique Kerber และ Caroline Wozniacki
ซินเนอร์บอกว่า “ทุกฤดูกาลมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง และคุณไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่สำหรับเรา ทุกอย่างเริ่มต้นที่ออสเตรเลียเสมอ ซึ่งผมดีใจมาก ผมรู้สึกดีเสมอที่ได้เล่นที่เมลเบิร์น พาร์ค ผมรักผู้คนและแฟนๆ จริงๆ มันมีพลังที่ยิ่งใหญ่”
Jannik Sinner โชว์ฟอร์มเด่นในการแข่งขัน Austrlian Open ซึ่งเขาสามารถคว้าแชมป์เป็นครั้งที่สอง
บทความอื่นที่น่าสนใจ:
หนทางสู่ความเป็นเลิศ… ย้อนชมสายสัมพันธ์ระหว่าง US Open และ Rolex
Rolex สนับสนุนโครงการ Mission Blue เพื่อความสมบูรณ์และอนาคตของมหาสมุทร