Louis Vuitton จัดแสดงคอลเลกชั่น Objets Nomades ผลงานการออกแบบของ ในงาน Estúdio Campana ในงาน Design Miami.Paris 2024

สตูดิโอ Estúdio Campana คือหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ดีไซเนอร์แห่งยุคที่ก่อตั้งขึ้นที่เซาเปาโล ประเทศบราซิล เมื่อปี 1984 โดย เฟอร์นานโด และอุมแบร์โต สองพี่น้องตระกูลคัมปาน่า ทั้งสองค่อยๆ สั่งสมชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยความคิดสร้างสรรค์ล้ำสมัยและแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมของบราซิล แถมพวกเขายังเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังผลงานไอคอนิกหลายชิ้นในคอลเลกชั่น Louis Vuitton Objets Nomades มาตั้งแต่ปี 2012 ด้วย

อุมแบร์โตบอกว่า “หลังจากได้สำรวจทรังก์รุ่นแรกๆ ของ Louis Vuitton จากยุค 1850s ผมก็รู้สึกได้ถึงความเหมือนกันของเรา ทั้งนวัตกรรม คุณภาพ และความคิดสร้างสรรค์ หลุยส์ วิตตอง ไม่ได้เริ่มทำทรังก์ แต่พลิกโฉมมันเสียใหม่ ด้วยการทำโครงสร้างด้านบนและล่างให้แบนซึ่งทำให้ง่ายต่อการวางซ้อนและออกเดินทาง ผมรู้สึกเชื่อมโยงกับแนวทางอันหาญกล้าของเขา ความมุ่งมั่นที่จะออกจากคอมฟอร์ตโซนหรือเส้นทางที่ใครๆ ก็มุ่งไป”

การใช้สีอย่างเชี่ยวชาญ การใช้วัสดุชั้นดี และการสาธิตงานฝีมืออันยอดเยี่ยม ดึงเอาความงามทางศิลปะของ Objets Nomade แต่ละชิ้นที่ออกแบบโดย Estúdio Campana ออกมา ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างทั่วถึงจากมรดกของ Louis Vuitton “แม้กระทั่งผืนผ้าใบ Monogram ของปี 1896 ซึ่งเป็นดอกไม้สี่กลีบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการดีไซน์แบบตะวันออกในยุควิคตอเรียน สะท้อนให้เห็นถึงความดึงดูดใจของเราต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรมในการสร้างสรรค์ของเราเอง”

ในงาน Design Miami.Paris 2024 ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม Louis Vuitton ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของงานได้นำเสนอนิทรรศการผลงานออกแบบในคอลเลกชั่น Louis Vuitton Objets Nomade รวมถึงฉลองการร่วมงานกับสตูดิโอ Estúdio Campana ซึ่งครบรอบ 40 ปีในปีนี้พอดี ผ่านผลงานที่ทั้งสองสร้างสรรค์ร่วมกัน ทั้งผลงานชิ้นแรกที่สองพี่น้องคัมปาน่าออกแบบให้เมซงอย่างตู้ Maracatu (2012) โซฟา Bomboca ที่ได้แรงบันดาลใจจากปุยเมฆ (2017) เก้าอี้ Bulbo รูปทรงดอกไม้ (2019) และที่พิเศษก็คือ เก้าอี้ Cocoon ผลงานไอคอนิกจากปี 2015 ซึ่งนำกลับมาออกแบบใหม่ 6 แบบโดยนำแรงบันดาลใจมาจากนิทานพื้นบ้านของบราซิลและสร้างสรรค์โดยช่างฝีมือชั้นสูงของโอตกูตูร์

Cocoon Couture จัดแสดงอยู่ใน LV Dream เดสติเนชั่นสำหรับจัดนิทรรศการทางวัฒนธรรมของเมซง ไม่ไกลจากสะพานปงต์เนิฟ  รูปทรงของเก้าอี้ที่เหมือนรังไหมดูทันสมัยตัดกับความมลังเมลืองของสถานที่ แต่ถ้าลองมองดูใกล้ๆ จะเห็นความประณีตในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะเท็กซ์เจอร์ของเก้าอี้ อุมแบร์โตได้มีโอกาสร่วมงานกับเวิร์กช็อปช่างฝีมือที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแฟชั่น  ทำให้แต่ละชิ้นกลายเป็นงานศิลปะที่แขวนได้  อย่างรุ่น Jaci ที่ประดับด้วยเลื่อม 11,000 เม็ด รุ่น Matinta ซึ่งเล่าเรื่องราวของนกกลางคืน ตกแต่งด้วยขนนกในเฉดน้ำเงินและดำด้วยมือ หรือ Carupira ที่ว่าด้วยผู้พิทักษ์ป่าฝน ซึ่งช่างฝีมือหกคนต้องใช้เวลากว่าสี่สัปดาห์ในการประดับสโตนลงยาและเลื่อมกว่า 40,000 เม็ด

ช่างฝีมือชั้นยอดเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญในเทคนิคทั้งแบบโบราณและสมัยใหม่ พวกเขาทำงานเพื่อนำเสนอไอเดียของอุมแบร์โต “เก่้าอี้ Cocoon  รุ่นปี 2024 นี้เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ Cocoon ซึ่งสามารถพลิกแพลงใหม่ได้” อุมแบร์โตอธิบาย “ชิ้นงานออกแบบนี้สามารถกลายเป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ ต้นไม้ หรือเครื่องประดับ… สำหรับผมแล้ว มันคือผลงานที่เป็นตัวแทนของการครบรอบ 40 ปีของ Estúdio Campana ได้เป็นอย่างดี โดยถ่ายทอดสารของเราเกี่ยวกับการเริ่มต้นใหม่และการเฉลิมฉลองชีวิต”

บทความอื่นที่น่าสนใจ:

LVMH ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ Formula 1 เป็นระยะเวลา 10 ปี

Louis Vuitton คว้าสองนักเทนนิส Rafael Nadal และ Roger Federer ถ่ายทอดแคมเปญ Core Values

ทำความรู้จักกับมาสคอตอย่าง Vivienne เเห่ง Louis Vuitton