Blog

Modern Romantic คอลเลกชั่นเรียบเท่กลิ่นอายโรเเมนติกของ Gucci Cruise 2025

ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางนิตยสาร L’OFFICIEL Thailand ได้มีโอกาสร่วมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟร่วมเดินทางพร้อมกับใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ นักแสดงสาวมากความสามารถและ Brand Ambassador ของ GUCCI ตลอดจนเหล่าสื่อมวลชนสายแฟชั่น เพื่อเข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ GUCCI Londra ณ กรุงลอนดอน ได้สัมผัสกับคอลเลกชั่น Cruise 2025 ที่สร้างสรรค์โดย Sabato De Sarno ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ ที่ถูกจัดขึ้น ณ มิวเซียม Tate Modern สถานที่ถิ่นกำเนิดของศิลปะสมัยใหม่อย่างใกล้ชิด

ความประทับใจแรกตั้งต้นตั้งแต่ที่ทางสื่อมวลชนมีโอกาสได้สัมผัสกับ โรงแรม The Savoy เก่าแก่และหรูหราที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน สถานที่แห่งประวัติศาสตร์และความทรงจำของ GUCCI กันแบบใกล้ชิด เราได้สัมผัสถึงความโอ่โถงยิ่งใหญ่และหรูหรา ควบคู่ไปกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาของหลากหลายชีวิตที่เดินทางมาที่นี่ และที่ประทับใจอีกประการหนึ่งก็คือ ลิฟต์สีแดงที่เป็นตำนานของ The Savoy ที่ยังคงเปิดใช้การอยู่ และถูกนำมาบอกเล่าอีกครั้งในแคมเปญ Gucci Gift Giving ล่าสุด สะท้อนความผูกพันแน่นแฟ้นระหว่าง GUCCI และกรุงลอนดอน คือตัวแทนการเดินทางอันล้ำค่าที่ไม่สิ้นสุด

ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย GUCCI (@gucci)

คอลเลกชั่น GUCCI Londra พาเราร่วมสำรวจความเชื่อมโยงที่เก่าแก่และต่อเนื่องยาวนาน โดยย้อนไปในปี 1897 ที่ Guccio Gucci ผู้ก่อตั้งแบรนด์มุ่งหน้าสู่ยังลอนดอนเพื่อเริ่มต้นอาชีพในตำแหน่งพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรม The Savoy ใจกลางกรุงลอนดอน ด้วยความช่างสังเกตุและการค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์ ตลอดจนพลังที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณอันสดใสของมหานครแห่งนี้ ทำให้เขากลับไปยังเมืองฟลอเรนซ์บ้านเกิด เพื่อเปิดบูติกสำหรับสินค้าเพื่อการเดินทางภายใต้ชื่อของตนเอง ด้วยปรารถนาอันแรงกล้าที่จะถ่ายทอดวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ที่บอกเล่าผ่านงานออกแบบกระเป๋าเดินทางของเขา ที่ยังคงส่งต่อจากผู้ก่อตั้งแบรนด์ สู่ทายาท และนักออกแบบจากรุ่นสู่รุ่นมาจวบจนถึงปัจจุบัน

ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย GUCCI (@gucci)

กว่าหนึ่งศตวรรษต่อมา ลอนดอนมหานครแห่งศิลปะสมัยใหม่ที่ยังคงเป็นสถานที่แห่งแรงบันดาลใจที่หลอมรวมความหลากหลายทางแฟชั่น ศิลปะ และวัฒนธรรมผ่านการเดินทาง และเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ Sabato De Sarno ซึ่งมีโอกาสเดินทางไปยังลอนดอนหลายคราตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พยายามเก็บรวบรวมแก่นแท้ของแบรนด์ผสานเข้ากับหัวใจของเมืองลอนดอน โดยมีมิวเซียม Tate Modern สถานที่ที่หลอมรวมศิลปะ ดีไซน์ และแฟชั่นได้อย่างลงตัว เป็นตัวเลือกเดียวที่ Sabato De Sarno เลือกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงแฟชั่นโชว์ GUCCI คอลเลกชั่น Cruise 2025 ในครั้งนี้

คอลเลกชั่น GUCCI Londra โดย Sabato De Sarno นับเป็นคอลเลกชั่น Cruise ครั้งแรกของเขา ให้ความรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างความคิดและอัตลักษณ์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความทรงจำ อารมณ์ และประสบการณ์ของเขาที่ผสมผสานกับมรดกดั้งเดิมภายใต้แนวคิด ‘Bring you back to Gucci’ ที่สร้างให้ GUCCI เป็นตำนานโลกแห่งแฟชั่น กรุงลอนดอนและ Tate Modern กลายเป็นสถานที่ชั้นเลิศในการแสดงวิสัยทัศน์ของ Sabato De Sarno เผยให้เห็นการเดินทางมาพบกันระหว่างความเป็นอังกฤษและความเป็นอิตาเลียน ที่สะท้อนถึงเรื่องราวการก่อตั้งของแบรนด์และความสัมพันธ์แนบแน่นกับลอนดอน

เมื่อเราเดินทางถึง Tate Modern สถานที่จัดแสดงโชว์ เราถูกพาไปยังโถง Turbine Hall ที่ใช้จัดแสดงโชว์ สัมผัสได้บรรยากาศดิบเท่ของวัสดุปูนเปลือยของสถาปัตยกรรมพร้อมที่นั่งสีเงินวาวสไตล์โมเดิร์น ที่ถูกสอดแทรกไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ประดุจป่ารกร้างในเมืองใหญ่ ความสดชื่นเขียวขจีเปรียบเสมือนดั่งตัวแทนโลกแห่งความโรแมนติกงดงามที่หล่อเลี้ยงชีวิตทุกสรรพสิ่ง ที่ถูกบรรจงจัดวางแทรกสอดลงไปในอาคารสถาปัตย์ที่มีความดิบเท่และเรียบง่ายแบบมินิมัล

คอลเลกชั่น GUCCI Londra คืองานออกแบบที่ผสมผสานระหว่างดีไซน์มินิมัลเรียบเท่โมเดิร์นแบบมัสคิวลีนที่เป็นเอกลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ เข้ากับเสน่ห์อ่อนหวานเย้ายวนแบบโรแมนติกที่สุดแสนจะเฟมีนีนได้อย่างกลมกล่อม ดีไซน์ที่ตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานแบบ Utilitarian ผสานเข้ากับความเย้ายวน ไล่ตั้งแต่ลุคเปิดรันเวย์ที่นางแบบสาวค่อยๆ เดินลงมาจากบันไดวนสู่โถงที่จัดแสดง เธอมาในลุคแจ๊กเก็ตสูทหนังกลับสีน้ำตาลปั๊มลายโมโนแกรม GG จับคู่เสื้อเชิ้ตผ้าซิลค์โปร่งบางและกางเกงยีนส์ขายาวทรงหลวมที่ดูลำลองในสไตล์โบฮีเมียน เราได้เห็นหลากลุคในสไตล์ที่ดูผ่อนคลายมาในเฉดสีน้ำตาลแบบเอิร์ธโทนที่สอดแทรกสีสันโทนพาสเทลและลวดลายพริ้นต์ดอกไม้คาร์โมมายล์

กลิ่นอายความโรแมนติกถูกนำเสนออย่างเรียบง่ายลำลองผ่านกลุ่มลุคผ้าลูกไม้แฝงกลิ่นอายช่วงยุค 60s และ70s ที่ถักเป็นลวดลายดอกไม้สุดเฟมีนีน บางลุคจับกระโปรงปักประดับดีเทลรูปดอกไม้ด้วยเลื่อมและลูกปัดจับคู่สวมกับเสื้อเชิ้ตสีขาวหรือเดนิมหลวมโคล่งสบายๆ ตลอดจนเสื้อแจ๊กเก็ตและพีโค้ตที่แม็ตช์กับบราผ้าลูกไม้และผ้าเดนิมในลวดลายดอก… และถูกทำให้พีคสุดในหลายๆ ลุคช่วงสุดท้ายที่เป็นลุคแจ๊กเก็ตหนังแบบสปอร์ตสวมกับกระโปรงผ้าซิลค์ชีฟองโปร่งบาง ไปจนถึงชุดเดรสยาวจับพลีต ที่มาในสีสันและลายพริ้นต์ดอกไม้ที่ดูสดใส

เอกลักษณ์ความเป็นอังกฤษอย่างแพ๊ตเทิร์นลายตาราง Check Pattern ถูกคลี่คลายและตีความใหม่แบบหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นลุคเสื้อพีโค้ต แจ๊กเก็ตและกระโปรง ตลอดจนชุดเดรสแบบเข้ารูป ที่มาพร้อมงานปักเลื่อมและลูกปัดแวววาวเป็นลายตารางในเฉดพาสเทลที่ดูวิจิตรตระการตาแบบงานฝีมือชั้นสูง ขณะที่ความเท่มินิมัลแบบขบถถูกนำเสนอผ่านลุคชุดสั้นสไตล์ MOD แบบยุค 60s ขณะที่ในหลากหลายลุคถูกสไตลิ่งด้วยสร้อยคอมุกที่ตีความอย่างร่วมสมัยสะท้อนความเป็นสุภาพสตรีอังกฤษ

ขณะที่ดีไซน์เรียบโก้แบบมินิมัลสะท้อนกลิ่นอายสูทสไตล์เทเลอร์แบบ Savile Row ที่เพิ่มกลิ่นอายโรแมนติกด้วยเสื้อเชิ้ตผ้าโปร่งบางแบบผูกโบที่คอ และหลากลุคกลางคืนที่มาในดีไซน์เรียบง่ายโก้หรูมาพร้อมดีเทลคัตเอาต์และเปิดเผยผิวแม็ตช์กับสร้อยคอมุกสไตล์ร่วมสมัย

เสน่ห์เย้ายวนของผู้หญิงถูกบอกเล่าผ่านแมทีเรียลอย่างผ้าลูกไม้สุดเย้ายวนสวมใส่กับชุดแจ๊กเก็ตหรือเดรสที่ดูมินิมัล วัสดุผ้าซีทรูโปร่งบางที่มาพร้อมดีเทลงานปักประดับดีเทลดอกไม้ จับคู่สวมกับแจ๊กเก็ตที่ดูเท่ทะมัดทะแมงในวัสดุหนังชั้นเลิศ ขณะที่แจ๊กเก็ตแบบสปอร์ตมาดเท่แบบมัสคิวลีนในหลายลุคถูกตีความสดใหม่และหรูหราขึ้นด้วยวัสดุและโทนสีที่ดูเฟมีนีน

ในส่วนของแอ๊กเซสเซอรี่ กระเป๋าเด่นในซีซั่นนี้ บอกได้เลยว่าเป็นการกลับมาของกระเป๋ารุ่นไอคอนิกอย่างรุ่น Blondie ที่ตั้งชื่อตามวงดนตรี Blondie และได้ Debbie Harry นำแสดงในแคมเปญล่าสุด ซึ่งในคอลเลกชั่นนี้ที่มาในวัสดุที่ดูอ่อนนุ่มและหลากหลายที่สำคัญมาในหลากสไตล์และหลายขนาด โดยเฉพาะในขนาดโอเวอร์ไซส์ที่สะดุดตาและที่น่าจะถูกใจสาวแฟชั่นที่สัมภาระเยอะ หรือจะสไตลิ่งจับคู่ถือแบบดูโอ้กับกระเป๋าช้อปปิ้งโท้ตใบใหญ่ก็เก๋ไปอีกแบบ ขณะที่รองเท้าที่เป็นดาวเด่นของโชว์ต้องยกให้รองเท้า Gucci Horsebit มาในหลากสไตล์ทั้งแบบรองเท้าโลเฟอร์ รองเท้าแฟล็ตสไตล์แมรี่เจน และในรูปทรงบัลเรรีน่า ที่มีให้เลือกในหลากสีสัน แมทีเรียล และสไตล์ ทั้งแบบอ่อนหวานงดงามและเท่ทะมัดทะแมงคล่องตัว

ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย GUCCI (@gucci)

จบท้ายทริปเดินทางครั้งนี้ สิ่งที่เราได้รับเป็นมากกว่าแค่ประสบการณ์การได้ชมคอลเลกชั่นแฟชั่นที่แสนสวยงาม แต่เป็นการเดินทางสู่ดินแดนที่เป็นจุดกำเนิดและแรงบันดาลใจของแฟชั่นเฮ้าส์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นตำนานโลกแฟชั่นอย่าง GUCCI ด้วยเช่นกัน

“ เราเลือกลอนดอนสำหรับการแสดงล่องเรือ โดยรู้ว่านั่นเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ฉันเป็นหนี้เมืองนี้มาก เมืองนี้ยินดีต้อนรับและรับฟังฉัน เช่นเดียวกับ Gucci ซึ่งผู้ก่อตั้งได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของเขาที่นั่น”

– วันเสาร์ เด ซาร์โน

อ่านบทความเพิ่มเติม:

Gucci ประกาศจัดโชว์ Cruise 2026 ในชื่อ Gucci Firenze ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี

GG Milano กระเป๋าใบโปรดล่าสุดจาก Gucci

เฉดสีของพระอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้า Gucci คอลเลกชั่น Spring/Summer 2025

ส่องดีเทลที่ซ่อนอยู่ใน Gucci Fall/Winter 2024

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button