คอลเล็กชั่นล่าสุดจาก Paul Smith สำหรับฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2026 เปรียบได้กับบันทึกการเดินทางที่ถ่ายทอดผ่านเลนส์ของแฟชั่น บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของดีไซเนอร์ผู้เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ ที่แปรความทรงจำและแรงบันดาลใจจากทั่วทุกมุมโลกให้กลายเป็นเสื้อผ้าอันเปี่ยมชีวิตชีวา
เสน่ห์ของคอลเล็กชั่นนี้อยู่ที่ความละเอียดอ่อนในการเลือกใช้สีสัน ลวดลาย และเนื้อผ้าที่หลอมรวมทั้งประสบการณ์ส่วนตัวและวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะการเดินตามท้องตลาดเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจผ่านสิ่งทอและเสื้อผ้าวินเทจ ซึ่งถูกนำมาหล่อหลอมเข้าไว้ในคอลเล็กชัน Spring/Summer 2026 ที่เผยโฉมครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โทนสีในคอลเล็กชั่นนี้เลือกหยิบเฉดสีอบอุ่นและสดใสมาใช้ เช่น สีเขียวมะนาว สีชมพูฟูเชีย และส้มคอรัล ชวนให้นึกถึงการเดินทางในฤดูร้อนอันแสนหวาน อีกทั้งยังชวนสะท้อนถึงศิลปะการย้อมผ้าด้วยมือซึ่งมอบมิติสีอย่างเหนือระดับ นอกจากโทนสีที่สดใสสะดุดตาแล้วคอลเล็กชันนี้ยังชวนให้นึกถึงเฉดสีที่ซีดจางดั่งต้องแสงแดด ซึ่งพอลได้แรงบันดาลใจจากหนังสือภาพถ่ายริมถนนในกรุงไคโร
อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่สะท้อนตัวตนของ Paul Smith ได้อย่างชัดเจนในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2026 คือ “ลวดลาย” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพพิมพ์ธรรมดา หากแต่เป็นผลงานคอลลาจ (collage) ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยมือของเขาเอง เทคนิคคอลลาจอันเป็นเอกลักษณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในลายเซ็นที่พอลใช้ตั้งแต่ยุคบุกเบิกแบรนด์ เขานำภาพถ่าย ภาพสเก็ตช์ และองค์ประกอบกราฟิกต่างๆ มาจัดวางอย่างมีชั้นเชิง ก่อนจะนำไปพิมพ์ลงบนเสื้อเชิ้ต เสื้อคลุม และเนคไท กลายเป็นลวดลายกราฟิกที่ทั้งร่วมสมัยและเต็มไปด้วยเรื่องราว
สำหรับโชว์ครั้งนี้ถูกออกแบบเชื้อเชิญผู้ชมให้กลายเป็นนักเดินทางผู้ใฝ่รู้ ผ่านบรรยากาศการนำเสนอที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของโลกกว้าง ไม่ว่าจะเป็นตลาดท้องถิ่นหรือเมืองเล็กน่าหลงใหลที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก ทุกองค์ประกอบล้วนได้รับการกลั่นกรองเป็นแรงบันดาลใจในแต่ละลุค เปรียบเสมือนการค้นพบแฟชั่นใหม่ๆ ระหว่างการเดินทางอันไม่คาดฝัน
ซิลูเอตของคอลเล็กชั่นพาผู้ชมย้อนกลับสู่กลิ่นอายแห่งยุค 1950 ด้วยเส้นสายสุดคลาสสิกอย่างแจ็กเก็ตครอปที่จับคู่กับกางเกงเอวสูง ขณะเดียวกันก็มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดให้เข้ากับปัจจุบัน โดยแทนที่กางเกงทรงจีบคู่ ซึ่งเคยเป็นไฮไลต์ในสองคอลเล็กชั่นที่ผ่านมาด้วยกางเกงหน้าเรียบ เสริมลุคให้ดูเบาสบาย เรียบง่าย และคล่องตัวยิ่งขึ้น
ในส่วนของเครื่องประดับคอลเล็กชั่นนี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวของการเดินทางและการตามหาของที่ระลึก เช่น พวงกุญแจโรงแรมวินเทจที่ผลิตจากอะซิเตทเช่นเดียวกับแว่นตา Made in Italy ของแบรนด์ นอกจากนี้ยังมีชาร์มโลหะชิ้นเล็กที่ถูกนำไปตกแต่งอย่างมีชั้นเชิงบนเข็มขัดหนัง หมวกเบเรต์ เครื่องประดับ และแม้กระทั่งเสื้อผ้า เติมลูกเล่นให้ทุกลุคดูสนุกขึ้น
กระเป๋าในคอลเล็กชั่นนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยดีไซน์ที่ชวนให้นึกถึงการขับรถเที่ยวแบบ road trip หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยความคล่องตัว ใช้งานได้หลากหลายโอกาส ทั้งยังแฝงกลิ่นอายวินเทจอย่างน่าประทับใจ หนึ่งในดีเทลที่น่าจดจำที่สุดคือ “ถุงตาข่ายใส่ผลไม้” ที่โผล่มาในลุคของนายแบบเหมือนเขาเพิ่งกลับมาจากการเดินช้อปปิ้งในตลาดท้องถิ่น เป็นความเรียบง่ายที่ถูกแปรรูปเป็นงานแฟชั่นอย่างมีชั้นเชิง
ด้านรองเท้าในคอลเล็กชันเน้นที่น้ำหนักเบาและเรียบแบบมีสไตล์ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้านักแข่งรถ โดยผสมผสานวัสดุหลากชนิด อย่าง หนัง ตาข่าย และหนังกลับ โดยยังใช้เทคนิคของคอลลาจสุดประณีต
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
Prada Spring/Summer 2026 สุนทรียะใหม่แห่งความเรียบง่าย
Dolce & Gabbana เปิดตัวคอลเลกชั่นสุภาพบุรุษ Spring/Summer 2026 ย้ำภาพลักษณ์ของ “Pyjama Boys”
SAINT LAURENT เผยแคมเปญคอลเล็กชั่น Men Winter 25
