Starbucks เปิดตัวร้าน Green Store ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ One Bangkok
Starbucks แฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ล่าสุดและร้านกาแฟภายใต้แนวคิดร้านกาแฟสีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
บทความ: ลภีพันธ์ โชติจินดา ภาพ: สตาร์บัคส์
จากวิสัยทัศน์ของ โฮวาร์ด ชูลท์ส (อดีตประธานกรรมการ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์) ที่ว่า “ร้านกาแฟคือสถานที่สำหรับการสนทนา ให้ความรู้สึกของความเป็นชุมชน เป็น “บ้านหลังที่สาม” นอกเหนือจากบ้านและที่ทำงาน” ทำให้ Starbucks เชนร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันไม่ได้เป็นเพียงร้านกาแฟธรรมดาๆ อีกต่อไป ด้วยวิสัยทัศน์นี้นำไปสู่การสร้างความแตกต่างให้กับ Starbucks ด้วยการเสิร์ฟกาแฟคุณภาพเยี่ยมและสร้างวัฒนธรรมการดื่มกาแฟให้กลมกลืนไปกับไลฟ์สไตล์ของผู้คน เป็นสถานที่ให้ผู้คนเข้ามาพบปะพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กัน ซึ่งนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ Starbucks นั้นกลายเป็นเชนร้านกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีสาขามากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
และเมื่อเร็วๆ นี้ Starbucks ประเทศไทยได้เปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ล่าสุดคือ Starbucks Reserve One Bangkok ซึ่งนอกจากเป็นแฟล็กชิปสโตร์ใจกลางเมืองที่อยู่ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทยแล้ว ยังเป็น Greener Store หรือร้านกาแฟภายใต้แนวคิดร้านกาแฟสีเขียวที่เป็นมิตรและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย โดยมีพื้นที่ให้บริการด้วยกันถึงสองชั้นและมีขนาดพื้นที่ถึง 850 ตารางเมตร และมีหลักการออกแบบที่นำเอาวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทยเราผสมผสานเข้ากับค่านิยมหลักของแบรนด์เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้จากแฟล็กชิปสโตร์ในหัวเมืองสำคัญๆ ในแต่ละประเทศทั่วโลก
งานติดตั้งผ้าทอบนเพดานจาก Ease Studio
รูปแบบของ Starbucks Reserve One Bangkok แห่งนี้ถูกออกแบบให้สะท้อนถึงแก่นแท้ของกาแฟ ชุมชน และการมอบประสบการณ์บ้านหลังที่สามให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ โดยนำเอาภูมิประเทศทางภาคเหนือของประเทศไทยซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกกาแฟคุณภาพและชุมชนชาวเขาที่ผูกพันกับการเพาะปลูกกาแฟมาเป็นแรงบันดาลใจ และมีเรือนยอดของต้นไม้ หรือ Tree Top Canopy ซึ่งเป็นลักษณะสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ปลูกกาแฟมาเป็นแนวคิดหลัก บริเวณชั้นล่างเป็นตัวแทนของต้นกาแฟและอุทิศให้กับการชงและเสิร์ฟกาแฟ ส่วนบริเวณชั้นบนสะท้อนถึงหลังคาเรือนต้นไม้ มอบพื้นที่นั่งสำหรับลูกค้าที่เงียบสงบเหมาะสำหรับการทำงาน พูดคุยและผ่อนคลาย ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้เมื่อนำมารวมกันจะช่วยบรรยากาศที่เอื้อต่อการมีปฏิสัมพันธ์กัน สร้างความเชื่อมโยงกับชุมชนในท้องถิ่น และยังมอบประสบการณ์การดื่มกาแฟที่เหนือระดับให้กับลูกค้าอีกด้วย
ผลงานภาพวาด 3 ชิ้นในห้องประชุมชุมชน โดย ภาวิษา มีศรีนนท์ (PABAJA)
อีกเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแฟล็กชิปสโตร์แห่งนี้ก็คือการจัดแสดงงานศิลปะที่สื่อถึงวัฒนธรรมกาแฟและชุมชนกาแฟที่อยู่ในประเทศไทย โดยมีผลงานจัดวางจากฝีมือศิลปินท้องถิ่นเป็นไฮไลท์ในจุดต่างๆ ของร้าน ได้แก่ งานติดตั้งผ้าทอบนเพดานอันโดดเด่นจาก Ease Studio และผลงานภาพวาด 3 ชิ้นในห้องประชุมชุมชน จากฝีมือของศิลปินหญิงผู้มากความสามารถ ภาวิษา มีศรีนนท์ (PABAJA) ที่ตอกย้ำถึงความหลากหลายทางชีวภาพของแหล่งปลูกกาแฟ นอกจากนี้การออกแบบร้านยังคำนึงถึงความยั่งยืนและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดร้านกาแฟสีเขียว อาทิ พื้นที่รีไซเคิลขยะที่ครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย ระบบประหยัดพลังงาน และวัสดุที่ยั่งยืนที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของโครงการ One Bangkok ด้วยเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง: Ferragamo Presents Tramezza as Finest Gentleman’s Footwear