ผลงานการออกแบบของ Issey Miyake นั้นไม่เคยมีคำว่าธรรมดา ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูเหมือนงานศิลป์ กลับเต็มไปด้วยการค้นคว้าวิจัยและเทคนิคสุดท้าทาย ดีไซน์ผ้าชิ้นเดียวที่ดูใส่ง่าย แต่กลับสร้างขึ้นจากโครงสร้างซับซ้อนจากแนวคิด A Piece of Cloth ด้วยเป้าหมายของเขาคือการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่มีความเป็นสากล เข้าถึงทุกคนและข้ามกาลเวลาไม่ต่างจากยีนส์หรือทีเชิ้ต
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 Issey Miyake และทีมงานจาก Reality Lab ได้ร่วมกันสร้างไลน์เสื้อผ้าใหม่ในชื่อ 132 5. ISSEY MIYAKE จากไอเดียที่ว่า ความงามจากการพับผสานกับเทคนิคการตัดเย็บและผ้ารีไซเคิล ซึ่งถ้าคุณได้เห็นผ้าที่พับอยู่นั้น คุณแทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าเป็นเสื้อผ้าแบบใดจนกระทั่งคลี่ออกมา
ชื่อที่เหมือนกับรหัสลับนี้มีความหมายและสะท้อนตัวตนและแนวคิดที่ลึกซึ้ง โดยเลข 1 เป็นตัวแทนของระนาบหนึ่งมิติซึ่งเกิดจากด้านกว้างยาวของ ‘ผ้าหนึ่งชิ้นที่ถูกนำมาทำเป็นเสื้อผ้า’ เลข 3 สื่อรูปทรงสามมิติ ความกว้างยาวของชิ้นผ้าที่แบนราบถูกสร้างสรรค์ออกเป็นเครื่องแต่งกายประหนึ่งงานประติมากรรมหรือออริกามิ เลข 2 เป็นตัวแทนของการพับทบแบบสองมิติ ซึ่งการพับสอดแทรกในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ และเลข 5 เปรียบเสมือนการรวมกันของเวลาและมิติต่างๆ เข้าด้วยกัน สื่อถึงเสื้อผ้าของแบรนด์ที่เปลี่ยนผ่านจากระนาบแบนๆ ไปสู่รูปทรงแบบสามมิติ แล้วก็กลับมาพับทบกันเพื่อเก็บรักษา
คอนเซ็ปต์ของแบรนด์ชวนให้คิดมาก 132 5. ISSEY MIYAKE ‘ปฏิวัติ’ มุมมองที่เรามีต่อเสื้อผ้า
“เสื้อผ้าของ 132 5. ISSEY MIYAKE แตกต่างจากเสื้อผ้าทั่วไปทั้งในแง่กระบวนการผลิตและพัฒนาผ้า แม้ว่าแพทเทิร์นของเสื้อผ้ามักจะขึ้นอยู่กับรูปร่าง แต่แพทเทิร์นของ 132 5. ISSEY MIYAKE แต่ละชิ้นประกอบด้วยดีไซน์รอยพับทรงเรขาคณิตชิ้น โดยมีเส้นที่ทำให้พับโครงสร้างนี้ให้แบนราบ และเป็นตัวกำหนดรูปทรงของเสื้อผ้า แบรนด์ยึดมั่นในแนวคิด ‘สวยงามเมื่อพับ’ ซึ่งไม่ใช่แค่แนวคิด ‘สวยเมื่อสวมใส่’ และในปัจจุบันก็ยังคงค้นคว้าและพัฒนาดีไซน์ใหม่ๆ อยู่เสมอ”
คุณช่วยอธิบายบทบาทของ Reality Lab ได้ไหม แล้วมีใครบ้าง
“นอกจากนักออกแบบแล้ว ทีมงานยังรวมถึงนักออกแบบสิ่งทอและวิศวกรแพทเทิร์นที่ต่างก็มีความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการผลิต ตอนที่ก่อตั้งแบรนด์ เรายังร่วมมือกับอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ทำวิจัยเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า ‘การพับกระดาษสามมิติ’ หรือ 3D Origami เป้าหมายของการตั้ง Reality Lab ก็คือเพื่อสำรวจอนาคตของการผลิตและช่วยสังคมโดยคำนึงถึงอนาคตของโลก”
ผลงานออกแบบของ 132 5. ISSEY MIYAKE ดูซับซ้อนมากในการผลิตมากๆ คุณบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมและงานฝีมืออย่างไร
“132 5. ISSEY MIYAKE ได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญทักษะทางเทคนิคระดับสูงในภูมิภาคต่างๆ ของญี่ปุ่น เราเชื่อว่ากระบวนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา ซึ่งแตกต่างจากการผลิตเสื้อผ้าทั่วไป สามารถทำได้ด้วยความสามารถทางเทคนิคขั้นสูงเหล่านี้เท่านั้น การผลิตโดยใช้หลักวิศวกรรมโอริกามิเกิดขึ้นได้ผ่านความร่วมมือกับนักวิจัย การพัฒนาผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การทอและการย้อมสีผ้า การตัดเย็บและขั้นตอนการเคลือบฟอยล์ในระหว่างกระบวนการผลิต และการผสมผสานความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือจากทั่วประเทศญี่ปุ่น เราเชื่อว่าบทบาทหนึ่งของเราคือการให้ความสำคัญกับงานฝีมือและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่อยู่เบื้องหลังการผลิตของญี่ปุ่นผ่านทาง 132 5. ISSEY MIYAKE”
อะไรคือเสน่ห์ของเทคนิคการพับที่โดนใจคนทั่วโลก
“เสื้อผ้าที่มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมการพับแบบญี่ปุ่นสามารถพับให้บางและแบนได้ ทำให้สามารถใช้งานได้โดยจัดเก็บง่ายไม่กินที่ 132 5. ISSEY MIYAKE ได้พัฒนาแนวคิด ‘สวยงามเมื่อพับ’ แต่รูปทรงขณะสวมใส่หรือพับอยู่ ต่างก็มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์ และน่าประหลาดใจในตัวเอง โดยมีเส้นโครงสร้างแบบพับทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างทั้งสอง ความประหลาดใจที่เปิดเผยเมื่อคลี่ออก ซึ่งเผยให้เห็นรูปร่างที่ไม่อาจจินตนาการได้เมื่อพับไว้ นั่นคือเสน่ห์ของ 132 5. ISSEY MIYAKE ซึ่งนำเทคโนโลยีการพับมาใช้ในผลิตภัณฑ์ที่สวมใส่ได้”
132 5. ISSEY MIYAKE มุ่งเน้นการใช้วัสดุรีไซเคิล สำหรับคุณ อะไรทำให้วัสดุเหล่านี้มีความพิเศษ
“ผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลซึ่งเป็นวัสดุพื้นฐานของ เราได้รับการพัฒนาครั้งแรกเมื่อสร้างแบรนด์ ในระหว่างการพัฒนา เราได้ศึกษาพื้นที่การผลิตและโรงงานทั่วประเทศญี่ปุ่น และพบกับเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่พัฒนาโดย Teijin Fiber ด้วยความประทับใจในเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งยังหาได้ยากในขณะนั้น (และมีความยั่งยืน ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในสมัยนั้น) เราจึงตัดสินใจนำวัสดุรีไซเคิลนี้มาใช้ในอนาคต หลังจากลองผิดลองถูกเป็นเวลาหลายปี ผ้าที่กลายมาเป็นมาตรฐานของ 132 5. ISSEY MIYAKE ได้ถือกำเนิดขึ้น ผ้านี้ไม่เพียงแต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรเท่านั้น แต่ยังมีพื้นผิวที่แข็งแรงและสีสันสดใส รูปทรง และเส้นรอยพับที่แตกต่างกัน กระบวนการรีดให้เรียบและกดทับจะรักษารอยนูน ทำให้ดูแลผ้าได้ง่าย เนื่องจากเส้นเหล่านี้ไม่ซีดจางง่ายหลังซัก ผ้านี้ออกแบบมาเพื่อก้าวข้ามฤดูกาลและยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของแบรนด์“
หากมีคำที่เหมาะจะใช้บรรยายงานออกแบบของ 132 5. ISSEY MIYAKE คิดว่าคำนั้นคือ…
“เราสร้างผลิตภัณฑ์ของเราโดยคำนึงถึง ‘ความชัดเจน’ เราสังเกตและเข้าใจวัสดุอย่างรอบคอบและปรับแต่งการออกแบบของเรา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรูปแบบที่ปรากฏผ่านกระบวนการ”
คุณหวังว่าการออกแบบของ 132 5. ISSEY MIYAKE จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คน หรือแม้แต่อุตสาหกรรมในแง่ไหน
“กระบวนการการผลิตของเราแตกต่างจากการผลิตเสื้อผ้าทั่วไป และเรายังจะร่วมมือกับโรงงานต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นต่อไป ด้วยการนำเสนอค่านิยมใหม่ๆ ที่ท้าทายทัศนคติแบบเหมารวมอย่างต่อเนื่อง เราหวังว่าจะสร้างแรงบันดาลใจไม่เพียงแต่ตัวเราเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนอื่นๆ ให้คิดเกี่ยวกับอนาคตของการผลิตด้วย”
คุณคิดอย่างไรถ้ามีคนเก็บเสื้อผ้าของคุณเหมือนงานศิลปะ
“ตัวเลขแต่ละตัวของ 132 5. ISSEY MIYAKE มีความหมายในตัวเอง โดยเลข ‘5’ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดที่เสื้อผ้าจะหยิบจับได้เมื่อถึงมือของผู้สวมใส่ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผู้คนชื่นชมผลงานสร้างสรรค์ของเราในฐานะงานศิลปะ แต่ไม่มีอะไรน่ายินดีไปกว่าการได้เห็นพวกเขาสวมใส่และสัมผัสประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งของตู้เสื้อผ้าของพวกเขา”
บทความอื่นที่น่าสนใจ:
ย้อนรอย! มรดกที่ Issey Miyake ได้ทิ้งไว้ให้แก่วงการแฟชั่นของพวกเรา
ลวดลายที่พลิ้วไหวเเละมีชีวิตในคอลเลกชั่น PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE SS24
อิสระแห่งการเคลื่อนไหวของเสื้อผ้าจาก PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE Spring/Summer 2024
