VAN CLEEF & ARPELS พาเราออกตามหาขุมทรัพย์ไฮจิวเวลรี่ Treasure Island
ออกเดินทางสู่ดินแดนอันไกลโพ้นโลดแล่นไปตามจินตนาการดังที่ปรากฏใน Treasure Island ไฮจิวเวลรี่คอลเลกชั่นล่าสุดของ Van Cleef & Arpels
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด แต่วรรณกรรมชั้นดีก็ยังคงคลาสสิกและโดนใจคนทุกยุคทุกสมัย เหมือนอย่างเรื่องจิม ฮอว์กินส์ที่ได้ค้นพบแผนที่ขุมทรัพย์ จนนำไปสู่การผจญภัยสุดขอบโลก จนได้พับกับเหล่าโจรสลัด และสิ่งที่ตามหาบนเกาะลึกลับอันไกลโพ้น ในเรื่อง Treasure Island ของนักเขียน Robert Louis Stevenson ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 1883 “นี่เป็นหนังสือที่เข้าถึงคนในวงกว้างและเปี่ยมด้วยพลังแห่งจินตนาการ” นิโกลาส์ บอส ประธานและซีอีโอของ Van Cleef & Arpels กล่าว “ทั้งยังได้สร้างความทรงจำประทับใจให้แก่ผู้อ่านนับล้านทั่วโลก อีกทั้งยังส่งอิทธิพลต่องานศิลปะหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นจิตรกรรม บทกวี หรือกระทั่งมัณฑนศิลป์”
เข็มกลัดเรือ Hispaniola
เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Van Cleef & Arpels ได้ปลุกเรื่องราวของเกาะมหาสมบัติให้กับมาโลดแล่นอีกครั้งในรูปแบบของไฮจิวเวลรี่คอลเลกชั่นที่ใช้ชื่อว่า Treasure Island ผ่านบริบทที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ผสมผสานกับการศึกษาค้นคว้าผลงานเก่าแก่ใน patrimonial collection ที่มีความเกี่ยวเนื่อง และระดมหัตถศิลป์หลากแขนงมาใช้ร้อยเรียงเรื่องราวการผจญภัยโพ้นทะเล
ในครั้งนี้ ทางเมซงจิวเวลรี่แห่งกรุงปารีสได้พาสื่อมวลชนจากทั่วโลกออกเดินทางไปยังไมอามี่ สหรัฐอเมริกาเพื่อสัมผัสกับคอลเลกชั่น Treasure Island ที่นำมาจัดแสดงให้ชมอย่างใกล้ชิด ผลงานมากมายที่เห็นนี้เป็นเพียงแค่ปฐมบทของคอลเลกชั่นนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็นสามธีม 3 หลักด้วยกัน นั่นคือ การผจญภัยกลางทะเล The Adventure at Sea การออกสำรวจเกาะ Exploring the Island และ การตามล่าหาขุมทรัพย์ The Treasure Hunt
ดูโพสต์นี้บน Instagram
ผลงานทุกชิ้นที่ล้วนเกิดจากจินตนาการมีทั้งแบบที่ถอดออกมาจากวรรณกรรม ไปจนถึงการตีความแบบนามธรรมผสานเส้นสายกราฟิก ทั้งยังระดมทุกความเชี่ยวชาญจากนักออกแบบ ช่างเครื่องประดับ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณี ช่างฝีมือหลากแขนง และอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน อย่างเช่น เข็มกลัดเรือ Hispaniola ซึ่งจุดเริ่มต้นของการออกเดินทาง ทั้งยังทำให้นึกถึงดีไซน์รูปเรือซึ่งปรากฏอยู่ในผลงานอาร์ไคฟ์ของ Van Cleef & Arpels อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงเครื่องประดับรูปลักษณ์สัตว์ทะเลหลากสายพันธุ์ และพรรณไม้ดอก และไม้ใบจากหมู่เกาะเมืองร้อนพากันผลิบาน
ในจำนวนผลงานกว่าร้อยชิ้น มีผลงานเด่นๆ นั้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เข็มกลัดเปลือกหอยซึ่งมีลูกเล่นน่ารักอย่างไข่มุกซ่อนไว้ด้านใน สร้อยคอและแหวนที่ได้แรงบันดาลใจจากเชือกสำหรับการเดินเรือ รวมถึงสร้อยเส้นที่ประดับแซฟไฟร์ทรงเหลี่ยมมรกตขนาด 55.34 กะรัต ซึ่งสามารถถอดออกมาประดับเป็นหัวแหวนได้ สร้อยเส้นยาวประดับเทอร์ควอยซ์เม็ดใหญ่เนื้อสวยบริสุทธิ์หายาก นาฬิกาตั้งโต๊ะฐานเป็นบลูควอตซ์ ลงยาแบบใสหรือ paillonné ทั้งยังมีคลิปที่ถอดออกได้และทำหน้าที่เป็นฝาครอบหน้าปัดนาฬิกา
งาน MARCADE
งาน MARCADE
งาน MARCADE
และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คือ เข็มกลัดต้นปาล์ม หรือ Palmier Mystérieux ซึ่งได้รับการยกให้เป็นตัวแทนของคอลเลกชั่นนี้ เนื่องจากโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สะท้อนถึงหัวใจของความเป็น Treasure Island ตกแต่งด้วยโมทีฟรูปเรือ ดวงอาทิตย์ และหีบสมบัติที่ถอดออกได้ซึ่งสื่อถึงคุณสมบัติ transformability ประดับด้วยอัญมณีน้ำงามและยังใช้เทคนิคประดับอัญมณีแบบซ่อนหนามเตย หรือ Traditional Mystery Set ซึ่งเป็นเทคนิคที่ Van Cleef & Arpels เป็นผู้คิดค้นขึ้นเมื่อปี 1933
10 ชิ้นที่เรารัก
ผลงานเด่นสะดุดจากจากไฮจิวเวลรี่คอลเลกชั่น Treasure Island จาก Van Cleef & Arpels
1 สร้อยคอ Écume Mystérieuse Necklace จำลองภาพเกลียวคลื่น พรายฟอง และละอองน้ำสาดกระเซ็น โดดเด่นด้วยฝังเพชรไล่ลำดับขนาดตัดกับสายน้ำสีน้ำเงินเข้มของงานฝังไพลินซ่อนหนามเตย
2 เข็มกลัด Poissons Mystérieux clip นำเสนอภาพฝูงปลากลางเวิ้งน้ำมหาสมุทร เพื่อจำลองสีสันระลอกคลื่น จึงใช้เทคนิคงานฝังกระจกสีซ่อนหนามเตยหรือ Vitrail Mystery Set ไล่เฉดโทนจากฟ้าอ่อนถึงน้ำเงินสด สู่ม่วงอ่อนอมชมพู และม่วงเข้มของแซฟไฟร์
3 สร้อยคอ En haute mer ได้แรงบันดาลใจจากปมเชือกเกลียวขึงตาข่าย โดยใช้เทคนิคเกลียวทองคำของ Van Cleef & Arpels อันเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายระหว่างทศวรรษ 1940 มาสร้างสรรค์ตัวเรือน ทั้งยังประดับแซฟไฟร์เจียระไนทรงเหลี่ยมมรกตขนาด 55.34 กะรัต ซึ่งสามารถปลดแยกชิ้นมาใช้เป็นหัวแหวนได้
4 สร้อยคอ Moussaillon Necklace อาศัยเอกลักษณ์ทางงานออกแบบเครื่องประดับแฟชัน หนึ่งในแรงบันดาลใจที่เมซงชมชอบด้วยการจำลองแบบรูปลักษณ์ของโบว์ไทที่เรียกว่า lavallière ทั้งยังประดับสเปlซาไทต์เม็ดเดี่ยวขนาด 23.47 ต่างปมโบว์
5 เข็มกลัด คลิปเปลือกหอยลึกลับ ดีไซน์เป็นฝาเปลือกหอย ฝังทับทิมด้วยเทคนิคแบบซ่อนหนามเตย ร่วมกับงานฝังเพชรเหลี่ยมเกสร ด้วยเทคนิคหลากหลาย และเมื่อพลิกด้านหลัง จะพบกับประติมากรรมนางอัปสร ยืนกายอยู่บนไข่มุกเลี้ยงขาวกระจ่าง
6 เข็มกลัด คลิปเต่าบลูโคโคส โค้งกระดองเต่ามาอย่างครบถ้วนสามมิติด้วยงานฝังไพลินสีน้ำเงินครามเจียระไนทรงวงรีไล่เรียงราวกับงานต่อลายโมเสก
7 เข็มกลัด Palmier Mystérieux ดีไซน์ปาล์มคู่ตระหง่านลำต้นอ่อนช้อยแผ่ใบเป็นวงกว้างฝังมรกตซ่อนหนามเตยหรือ Mystery Set ทั้งยังประกอบด้วยโมทีฟเรือใบฝังเพชร พระอาทิตย์ทองคำ และหีบสมบัติล้ำค่า ที่สามารถสลับสับเปลี่ยนได้ตามต้องการ
8 เข็มกลัด Dieu du vent และ Dieu du ciel อ้างอิงถึงสองเทพศักดิ์สิทธิ์ตามตำนานชนเผ่ามายัน นั่นก็คือ “ฮูราแคน” เทพแห่งสายลม และ “อิตแซมนา” เทพแห่งผืนฟ้า ตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยรัตนชาติหลากสี
9 เข็มกลัด Carte au trésor clip ดีไซน์เป็นแผนที่อันนำไปสู่ขุมทรัพย์ปริศนา โดยใช้ศิลปะเครื่องทองจำลองม้วนแผนที่รัดเชือกเกลียวทอง และสลักเนื้อทองเป็นชื่อสถานที่
10 สร้อยคอโซตัวร์ Voguer en mer ได้แรงบันดาลใจจากเกลีรยวเชือกที่ใช้ในการเดินเรือ ทั้งยังประดับด้วยเทอร์ควอยซ์เม็ดเขื่องหายาก
บทความอื่นที่น่าสนใจ:
ร่วมเดินทางไปสัมผัสเรื่องราวของทับทิมในนิทรรศการ Ruby: Discover Gemstones
Pâquerette แหวนดอกเดซี่ผสานเสน่ห์สีสัญอัญมณีจาก Van Cleef & Arpels
Van Cleef & Arpels เชิดชูหัตถศิลป์ชั้นสูงในนาฬิกาใหม่ในคอลเลกชั่น Extraordinary Dials