ตัวตนของ โบว์-เมลดา เเละ กลัฟ-คณาวุฒิ – L’Officiel Thailand

อัพเดตลุคแฟชั่นโฉบเฉี่ยวท้าทายซัมเมอร์ของสองนักแสดงสุดฮอต โบว์-เมลดา และกลัฟ-คณาวุฒิ ในหลากลุคแฟชั่นเดนิมสุดคูลซีรีส์ Denivita จาก ONITSUKA TIGER
คอลเลกชั่น Spring/Summer 2025 ที่ได้แรงบันดาลใจจากความสดใสมีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยสีสัน ผสมผสานสไตล์แฟชั่นจากดนตรีร็อกและดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา นำเสนอผ่านโทนสีเหลืองสุดไอคอนิกของแบรนด์
ช่างภาพ: Intrachai Watmakawan
บรรณาธิการ: Watcharachai
นักเขียน: Pacharee Klinchoo
โบว์-เมลดา
ในวันที่เราสัมภาษณ์โบว์-เมลดา สุศรี ละครเรื่อง ‘คุณพี่เจ้าขา ดิฉันเป็นห่าน ไม่ใช่หงส์’ ที่เธอรับบทเป็น ‘จี๊ด-นิทรา’ ดาราสาวที่ต้องวาร์ปกลับไปอยู่ในร่างของ ‘บุญตา’ นางคณิกาในสมัยรัชกาลที่สามเพิ่งออนแอร์ไปได้แค่สองตอน แต่ก็เป็นสองตอนแรกที่เกือบจะทำให้เราเชื่อว่าเธอเล่นเป็นตัวเอง (ถ้าเธอไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการเอาตัวเองเข้าไปใส่ในคาแรกเตอร์นั้นผิดกฎการเป็นนักแสดง) เพราะผู้หญิงหน้าสวย แววตาสดใสที่นั่งอยู่ตรงหน้าเรานั้น พร้อมจะส่งความสบายใจให้กับทุกคนที่อยู่รอบตัวเธออย่างแท้จริง
ได้ถ่าย Onitsuka กับลอฟฟีเซียลวันนี้ เป็นอย่างไรบ้าง
“วันนี้ได้ถ่ายอะไรใหม่ๆ ซีซั่นใหม่ๆ รองเท้าแบบใหม่ๆ ด้วย ปกติ Onitsuka จะเป็นรองเท้าผ้าใบ รองเท้าแตะ แต่ครั้งนี้เป็นโลเฟอร์ด้วย รู้สึกสนุกดีค่ะ”
โบว์อยู่ในวงการมาตั้งแต่เด็ก อยากให้ reflect ตัวเองหน่อยว่าเติบโตเรียนรู้อะไรบ้างจากการได้อยู่ตรงนี้
“ก็ได้เรียนรู้ค่อนข้างเยอะ… เยอะมากๆ เลยค่ะ ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ประสบการณ์ทำให้เรารู้ว่าเราควรจะเก็บอะไรไว้กับตัวเองบ้าง เพราะบางทีเจอคนเยอะมากๆ เจอหลายเรื่องราวมากๆ ก็รู้สึกว่าไม่ต้องเก็บทุกเรื่องมาไว้กับตัวเองก็ได้ ทิ้งไปเลย ไม่ต้องไปสนใจ ไปใส่ใจอะไรมาก แต่ด้วยความที่เป็นคนคิดมากได้เร็วมาก รับเรื่องมาปั๊บ สมองบอกโอเค… คิดแล้ว ก็รู้สึกว่าต้องหาวิธีจัดการมันให้ได้ พอค่อยๆ จัดการตัวเองได้เรื่อยๆ ก็ดีขึ้น และเรื่องดีๆ มันก็มีเยอะแยะนะคะ ต้องขอบคุณสังคมรอบตัวที่ทำให้เราได้ไปเจอคนดีๆ ด้วยค่ะ”
เป็นคนคิดมากได้เร็วแบบนี้ ลากตัวเองออกมาจากความคิดแย่ๆ ตรงนั้นได้ยังไง
“ก็พูดกับตัวเองในหัวเลยค่ะว่า พอแล้ว ไม่ต้องคิดแล้ว คนพวกนี้ไม่รู้ความจริงหรอก เพราะคนส่วนใหญ่ที่มาคอมเมนต์เขาก็ไม่ได้รู้เรื่องราวจริงๆ หรือเรื่องราวทั้งหมดเสียหน่อย เขาก็วิพากษ์วิจารณ์ แนะนำในมุมที่เขาเห็น เราก็แนะนำในสิ่งที่ดี เอามาปรับปรุงตัว ส่วนสิ่งที่ฟังแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ ก็ข้ามๆ ไป”
ในตอนนี้ โฟกัสในชีวิตของโบว์คืออะไร
“หลังๆ ไม่ค่อยโฟกัสอะไรเลยค่ะ ลอย (หัวเราะ) เพราะงานมันเยอะมาก เลยเริ่มโฟกัสไม่ค่อยถูก ช่วงนี้เลยเน้นนั่งสมาธิให้มากขึ้นค่ะ”
เป็นนักร้องมาตั้งแต่อายุ 13 อยู่ในวงการมาเกินสิบปี มีความฝันหรือเป้าหมายอยากจะทำอะไรอีกไหม
“อยากเปิดคาเฟ่ หรือร้านอาหาร เพราะเป็นคนชอบกิน ชอบรังสรรค์อาหารรสชาติใหม่ๆ ขึ้นมาจากอาหารหน้าตาเดิมๆ เคยคิดว่าอยากจะเปิดร้านอาหารฝรั่ง แต่มีของหวานเป็นขนมไทย แปลกใช่ไหม แต่ขนมไทยคือของอร่อย และเป็นคนชอบเนื้อกับเนยอยู่แล้ว เลยอยากทำอาหารฝรั่งพวกสเต็กค่ะ”
มีใครเป็นไอดอลในการใช้ชีวิตหรือการทำงานบ้างไหม
“(หัวเราะ) น่าจะเป็นแม่มั้งคะ แม่เป็นไอดอลเพราะทำได้ทุกอย่าง อดทนมาก และเข้าใจเราจริงๆ เข้าใจหลายๆ สถานการณ์จจริงๆ เหมือนแม่ทำนายอนาคตได้เลย เวลาแม่เตือนให้ระวังใครไว้ ส่วนมากก็จะเป็นตามที่แม่บอกเสมอ โอ้ว้าว…”
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้สิบปี จะบอกอะไรกับโบว์ – เมลดาเมื่อสิบปีที่แล้ว
“ดีมากแล้วที่ไม่ต้องเป็นคนอื่น แค่นั้นเลย เพราะหลายๆ คนก็ดูแฮ้ปปี้กับสิ่งที่เราเป็น”
คำแนะนำที่ดีที่สุดที่เคยได้รับมาคืออะไร
“น่าจะเป็น… (นิ่งคิด) แม่บอกว่าให้เป็นคนที่ง่ายที่สุด จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ให้ทำงานง่ายไว้ดีกว่า อย่าไปเรื่องเยอะ อะไรที่เขาขอมา ถ้าพอจะช่วยได้ก็ช่วยไปค่ะ”
ฝากอะไรถึงคนที่กำลังจะได้อ่านบทความนี้
“แฟนคลับเราน่าจะรู้จักเราดีประมาณหนึ่งเลย เพราะเราก็ไม่ได้คีพคาแรกเตอร์อยู่แล้ว ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ รู้จักความเป็นเราจริงๆ และรักในสิ่งที่เราเป็นได้อย่างดีมากๆ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็ตาม ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”
กลัฟ-คณาวุฒิ
เราได้ร่วมงานกับกลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์มาตั้งแต่เขาเพิ่งจะเข้าวงการ ต้องยอมรับว่าทั้งสีหน้า แววตา และน้ำเสียงของกลัฟเปลี่ยนแปลงและเติบโตในทุกขวบปีที่ได้เจอกัน และในครั้งนี้ การได้นั่งคุยกับเขาสั้นๆ ก็ทำให้เรารู้ว่า ชายหนุ่มตรงหน้าของเราเติบโตขึ้นไปอีกขั้นแล้วจริงๆ
รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับ Onitsuka และลอฟฟีเซียล
“ได้มีโอกาสร่วมงานกับทั้ง Onitsuka และลอฟฟีเซียลมาหลายครั้งแล้ว รู้สึกว่าทั้งสองทีมน่ารักมาก ทำให้ผมแฮ้ปปี้ที่ได้ร่วมงานกับทั้งสองแบรนด์นี้ครับ และคอลเลกชั่นนี้รู้สึกว่าแปลกตาไปเยอะเลยครับ ก่อนหน้านี้ แฟชั่นของ Onitsuka จะเป็นแนวสตรีท เน้นรองเท้าผ้าใบ และเสื้อผ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นหลัก แต่พอมีการปรับแบรนด์ให้เป็นแฟชั่นมากขึ้น ก็สามารถใส่ได้หลายโอกาสมากขึ้นด้วยครับ คนในวงการแฟชั่นก็จะเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น”
เข้าวงการมาหกปีแล้ว reflect ตัวเองหน่อยว่ากลัฟเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน
“ต้องบอกว่าก่อนเข้าวงการผมเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่อาจจะไม่ได้สนใจโลกภายนอกสักเท่าไหร่ แต่พอได้มาทำงานในวงการ ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างทั้งเรื่องการทำงาน และการใช้ชีวิต ได้เรียนรู้ที่จะช่างมันในเรื่องที่ช่างมันได้ เพราะการทำงานในวงการนี้จะเจอเรื่องเครียดค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว ต้องคิดวิเคราะห์ให้ได้ว่าควรเก็บหรือควรปล่อยเรื่องไหน และอีกเรื่องที่เรียนรู้คือการเข้าสังคมครับ จากที่ไม่เคยสนใจโลกภายนอก ก็เรียนรู้ที่จะนึกถึงใจคนอื่นมากขึ้นเวลาทำงานครับ”
เวลาเจอคอมเมนต์แง่ลบ กลัฟจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไง
“ผมจะดูก่อนว่าข้อความนั้นเขาด่าเพื่อติ หรือด่าเอาสะใจ ถ้าด่าเพื่อติ และผมวิเคราะห์ตัวเองว่ายังขาดจุดนั้นจริงๆ ก็เก็บข้อมูลมาพัฒนาตัวเองในงานต่อไป แต่ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่าเขาด่าเอาสะใจ ก็จะทำความเข้าใจว่า ณ ตอนนั้นเขาอาจจะเครียดอยู่ หาที่ระบาย ถ้าเกิดว่าผมจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามีความสุขมากขึ้น ผมก็โอเคครับ ด่าไปเลย ไม่เป็นไร”
เรื่องสำคัญที่สุดที่กลัฟโฟกัสอยู่ตอนนี้
“ก็คงเป็นงานในวงการบันเทิงครับ เพราะมันเป็นอาชีพหลัก และผมรู้สึกว่าผมยังสนุกกับการทำงานทุกเรื่อง รู้สึกว่ามันเริ่มเข้าที่เข้าทาง มันทำให้เราแฮ้ปปี้ และสนุกกับตรงนี้อยู่”
มีเป้าหมายอะไรในการใช้ชีวิตบ้างไหม
“เอาจริงๆ ผมแค่อยากจะเลี้ยงดูพ่อแม่ให้ได้ แค่นั้นเลยครับ ก็รู้สึกว่ามันสำเร็จแล้ว ตอนนี้เป้าหมายก็อาจจะเป็นแค่ ทำบ้านให้เสร็จ และแฮ้ปปี้ในทุกๆ วันกับการทำงาน และกับคนรอบตัว เท่านั้นเลยครับ”
ฟังดูสุขภาพจิตดีมากเลยนะ
“ใช่ๆ ครับ อย่างที่ผมเคยบอกว่างานในวงการมันเครียดเยอะแล้ว แค่ขยับตัวผิดที่ผิดทางนิดเดียว ก็โดนบ่นแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าพยายามใช้ชีวิตในวงการนี้ให้แฮ้ปปี้ที่สุดก็พอแล้วครับ”
มีใครเป็นไอดอลในการทำงานและการใช้ชีวิตไหม
“ในเรื่องการใช้ชีวิต ยกให้เป็นคุณพ่อครับ ผมอยู่กับคุณพ่อคุณแม่มาตั้งแต่เด็ก ได้เห็นวิธีคิด วิธีการทำงาน เห็นอะไรหลายๆ อย่าง รู้สึกว่าทั้งคุณพ่อและคุณแม่คือไอดอลที่ทำให้ผมกลายเป็นผมในทุกวันนี้ ส่วนไอดอลในการแสดง ผมชอบ Heath Ledger ครับ
“คือผมชอบตัวละครโจ๊กเกอร์อยู่แล้ว รู้สึกว่าตัวละครนี้มันมีหลายมิติ น่าค้นหา และพอได้ดูการแสดงเป็นโจ๊กเกอร์ใน The Dark Knight ของฮีธ ก็ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างของเขา ตั้งแต่วิธีคิด ขั้นตอนการทำเตรียมตัวของเขาก่อนจะกลายเป็นโจ๊กเกอร์ มันทำให้ผมรู้สึกว่า ถ้าเกิดว่ามีตัวละครไหนที่จะทำให้ผมทำงานหนักได้มากขนาดนี้ มันก็คงจะเติมเต็มผมได้เหมือนกันครับ และผมรู้สึกว่าวิธีการทำงานของเขาไม่ซับซ้อน แต่ได้ผลมาก ผมเลยชอบเขาครับ”
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้วได้ อยากจะบอกอะไรกับตัวเองในตอนนั้นบ้าง
“อยากจะบอกว่าให้ใช้ชีวิตในทุกๆ วันของตัวเองให้ดี แค่นั้นเลยครับ ทำตัวเองให้มีความสุขในทุกวันพอ”
คำแนะนำที่ดีที่สุดที่กลัฟเคยได้รับคืออะไร
“เอาเป็นสิ่งที่ผมเคยอ่านเจอละกันครับ พี่นนท์-ธนนท์เคยพูดไว้ตอนที่มีแฟนคลับเขามาบอกให้เขาให้กำลังใจหน่อย เขาตอบไปว่า ‘ทำตัวให้ดี ให้มีความสุข ตัวเราในวันข้างหน้ารออยู่’ อะไรอย่างนี้ครับ มันเป็นประโยคที่ดูเหมือนไม่จริงจัง เหมือนไม่มีอะไร แต่มันเป็นการให้กำลังใจคนที่ทุกวันนี้อาจจะไม่มีทางออก หรือไม่มีแพลนจะใช้ชีวิตต่อไป แต่สุดท้ายแล้ว ในอนาคตมันยังมีตัวเราที่รอเราอยู่จริงๆ ครับ ผมว่ามันดีมากจริงๆ”
มีอะไรอยากจะบอกคนที่จะได้อ่านบทความนี้บ้าง
“อยากจะขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนกับมาตลอด ไม่ว่าผมจะไปไหน ทุกคนที่มาสนับสนุนกันจนถึงตอนนี้นี่ผมต้องขอบคุณจริงๆ หลายคนที่ยังเหลืออยู่กับผมจนถึงตอนนี้ก็เป็นคนที่ติดตามผมมาจริงๆ สนับสนุนผมจริงๆ ดีใจจริงๆ นะครับที่ยังอยู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้”
อ่านบทความเพิ่มเติม:
ความรัก..ความสัมพันธ์..สมบัติล้ำค่า และคอมฟอร์ตโซนของโบว์-เมลดา
โบว์ เมลดา: “โบว์คิดว่าโบว์โชคดีอย่างหนึ่งตรงที่ได้เป็นตัวเอง”
กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒน์พงษ์ และจีน่า-ญีนา ซาลาส คู่พระนางที่น่าจับตากับโปรเจ็กต์ละครแห่งปี
Onitsuka Tiger จัดงานเปิดตัวคอลเลกชั่น ‘DENIVITA’