ทำความรู้จักกับสองหนุ่มคลื่นลูกใหม่ ‘แอลม่อน-โปรเกรส’ กันให้มากขึ้น กับก้าวต่อไปที่น่าติดตามและตัวตนที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยสัมผัส
หลังจากมีการประกาศออกมาว่าซีรีส์วายระดับตำนานอย่าง ‘Lovesick The Series’ ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการบันเทิงของไทยจะกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งในปี 2024 ที่ผ่านมา หลายๆ คนก็ต่างคาดเดากันถึงนักแสดงที่จะมารับบทหลักอย่าง ‘ปุณณ์ – โน่’ และเราก็ได้พบกับนักแสดงใหม่แกะกล่องอย่าง ‘แอลม่อน – ภูมิสุวรรณ สุวรรณสถิตย์ ’ และ ‘โปรเกรส – ภาสวิชญ์ ธรรมสังคีต’ ผู้มารับบทตัวละครหลักนี้ในเวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งเรียกได้ว่าทั้งคู่ได้ฝากผลงานการแสดงไว้อย่างน่าชื่นชมในโปรเจ็กต์เเรกของพวกเขาอย่าง ‘Lovesick 2024’ พร้อมกับได้ใจแฟนๆ ไปอย่างเต็มที่
ถึงแม้ซีรีส์จะจบลงไปเเล้วเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางในวงการบันเทิงของพวกเขาเท่านั้น เปิดประเดิมเดือนแรกของปี 2025 เราเลยขอพาคุณไปรู้จักกับคลื่นลูกใหม่ทั้งสองคนนี้ให้มากขึ้น ผ่านมุมมองความคิดที่สดใหม่และอนาคตที่พวกเขาใฝ่ฝัน
กระแสตอบรับจากซีรีส์เรื่อง ‘Lovesick 2024’ เป็นอย่างไรบ้าง
แอลม่อน: “ดีกว่าที่คิดครับ มีพี่ๆ แฟนคลับหลายๆ คนชอบซีรีส์มาก กระแสตอบรับดีมากเกินกว่าที่เราเคยคิดกันเอาไว้เยอะเลยครับ”
โปรเกรส: “ค่อนข้างดีครับ รู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่เราทำกันไปเพราะเราก็ตั้งใจทำงานครั้งนี้มากๆ อยากให้มันออกมาดี”
ซีรีส์จบกันไปแล้ว มีโมเมนท์ไหนที่คิดถึงในการถ่ายทำ ‘Lovesick 2024’ บ้าง
แอลม่อน: “คิดถึงบรรยากาศกองถ่าย การที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักแสดง รวมถึงทีมงานครับ เพราะนี่เป็นซีรีส์เรื่องแรกของผมด้วย เลยยิ่งเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ”
โปรเกรส: “จะเป็นตอนที่อยู่ในกองถ่ายเลยครับ เหมือนเป็นการถ่ายซีรีส์ครั้งแรกของทั้งผม ทั้งแอลม่อน แล้วก็นักแสดงอีกหลายๆ คน ตอนแรกที่เข้าไปในกองเหมือนมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก แต่พอได้ถ่ายทำกันจริงๆ รู้จักและได้ทำงานกับพี่ๆ ในกองก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลายเป็นว่าเอ็นจอยกันสุดๆ”
จากซีรีส์เรื่องแรก ทั้งคู่คิดว่าตัวเองมีพัฒนาการด้านการแสดงมากขึ้นอย่างไรบ้าง ถ้าเทียบกับตอนที่เพิ่งได้รับบทบาทมาใหม่ๆ
โปรเกรส: “มากขึ้นเยอะเลยครับ เพราะเราเหมือนกับได้ลงสนามจริงมาแล้ว ตอนก่อนจะถ่ายทำ ‘Lovesick 2024’ ช่วงเวิร์กช็อป ถ้าให้ผมให้คะแนนการแสดงตอนนั้นก็คงจะเป็นประมาณ 4 หรือ 5 คะแนน พอมาตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 6 หรือ 7 คะแนนครับ ผมคิดว่าผมยังพัฒนาได้อีก”
แอลม่อน: “ผมให้คะแนนตัวเองเท่าๆ โปรเกรสเลยครับ เพราะนี่ก็เป็นเรื่องแรกของเราด้วยที่ได้ทำการแสดงแบบจริงจังและเราก็เข้าฉากด้วยกันตลอด เหมือนเราเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน รู้เทคนิคและวิธีการแสดงกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ถือว่ามีประสบการณ์มากขึ้น แต่ก็ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกเยอะเลยครับ”
บทบาทที่อยากเล่นในอนาคตของแอลม่อนและโปรเกรสคือบทบาทแบบใด
แอลม่อน: “ผมอยากลองเล่นแนวแบบแบดบอยดูบ้าง เป็นอารมณ์มีความแพรวพราว เป็นเพลย์บอย อะไรประมาณนี้ครับ”
โปรเกรส: “คาแรคเตอร์ที่ผมอยากเล่นในอนาคต คงจะเป็นบทตัวร้ายครับ เป็นตัวร้ายแบบนักฆ่า มีความโรคจิตอยู่หน่อย มันคงจะท้าทายดี”
นอกจากการแสดงแล้ว มีอะไรอีกไหมในวงการบันเทิงที่แอลม่อนและโปรเกรสอยากทำ เพราะอะไร
แอลม่อน: “ส่วนตัวผมอยากฝึกสกิลเรื่องการเดินแบบ ร้องเพลง และการแสดงบนเวทีให้ดีขึ้นครับ ยังรู้สึกว่าผมยังทำทั้งสองสิ่งนี้ให้ได้ดีกว่านี้ ก็อยากจะพัฒนาสองด้านนี้ให้ดีขึ้นครับ”
โปรเกรส: “จริงๆ อยากทำอีกหลายอย่างเลยครับ แต่หลักๆ แล้วตัวผมเอง แล้วก็ตัวแอลม่อนด้วยก็อยากตั้งใจทำงานแต่ละงานให้ดีที่สุด เพราะพี่ๆ แฟนคลับเขาซัพพอร์ตเราดีมาก ในมุมเราก็รู้สึกอยากตอบแทนเขาด้วยผลงานดีๆ ครับ”
คำจำกัดความของตัว ‘แอลม่อน’ และ ‘โปรเกรส’
แอลม่อน: “คงจะเป็นคำว่าอินโทรเวิร์ดแหละมั้งครับ จริงๆ แล้วแต่ช่วงเวลาด้วย ผมจะมีเวลาที่อยากอยู่คนเดียวนั่งคิดเรื่องต่างๆ แล้วก็มีช่วงเวลาที่ผมอยู่กับคนเยอะๆ ได้ด้วย เป็นคนเงียบๆ พูดน้อย แต่จริงๆ ก็คิดเรื่องที่จะพูดอยู่ตลอดนะครับ แต่ผมจะชอบเป็นผู้ฟังมากกว่า”
โปรเกรส: “เรียกว่าเป็นคนเฟรนด์ลี่ เข้ากับคนง่าย สดใส ร่าเริง พลังงานล้นๆ ครับ บางทีจะเรียกว่า บ้าๆ บอๆ ก็ได้ (หัวเราะ) ”
ความฝันในวัยเด็กของแต่ละคนเป็นอย่างไร แตกต่างจากสิ่งที่ทำตอนนี้มากไหม
แอลม่อน: “ตอนเด็กๆ ทุกๆ ปี ความฝันของผมจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ เคยอยากเป็นทั้งนักแข่งรถ ขับรถแข่งฟอร์มูล่าวัน รู้สึกว่าชอบความเร็ว มันดูเท่ดี แต่ก็มารู้สึกว่าฝันนั้นมันไกลไปนิดนึง ถ้ามีโอกาสก็อยากลองขับรถแข่งซักครั้ง แต่พอได้ลองมาเป็นนักแสดงแล้วก็ชอบนะครับ เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ผมก็เอ็นจอยไปกับมันดีครับ”
โปรเกรส: “ผมไม่เคยฝันจะเป็นนักแสดงเลยครับตอนเด็ก เพราะว่าเราไม่กล้า เคยอยากเป็นหมอ อยากเป็นนักดนตรี แต่ที่ได้มาเป็นนักแสดงเพราะว่าผมอยากลอง พอได้ลองแล้วก็กลายเป็นชอบเลย”
ทุกวันนี้มีแฟนคลับเข้ามาตามทั้งคู่มากยิ่งขึ้น มีมุมมองเกี่ยวกับตัวแอลม่อนโปรเกรสที่คิดว่ายังไม่มีใครรู้และอยากเล่าให้ฟังบ้างไหม
แอลม่อน: “ถึงภายนอกผมจะดูเป็นคนหยิ่งๆ อาจจะพูดน้อยไปบ้าง แต่จริงๆ ชวนผมคุยได้นะครับ ผมอาจจะไม่ได้เข้าหาคนเก่งขนาดนั้น บางทีรู้จักใครแรกๆ ก็ยังไม่แน่ใจว่าต้องทำตัวยังไง แต่จริงๆ แล้วถ้ามาชวนผมคุย ผมคุยเก่งนะครับ พร้อมที่จะคุยด้วย เป็นคนเฟรนด์ลี่คนหนึ่งเลย”
โปรเกรส: “ผมเป็นคนชอบน้ำหอมแล้วก็ชอบฟังเพลงมากๆ ครับ เรื่องน้ำหอมผมชอบมาซักพักแล้ว โทนกลิ่นที่ชอบจะเป็นกลิ่นที่มีวานิลลาอยู่ด้วย แต่จะชอบที่มวลกลิ่นสบายๆ หน่อย หรืออีกแนวก็จะเป็นโทนกลิ่นที่ดาร์กไปเลย เป็นกลิ่นที่เราเห็นภาพว่าเราใส่สูทสีดำเท่ๆ อะไรประมาณนั้นครับ ส่วนเรื่องเพลง จริงๆ ผมฟังได้ทุกแนวนะครับ แต่ก่อนจะฟังเพลงร็อคเยอะ แต่ตอนนี้จะชอบฟังเพลงป็อปครับ”
ตอนนี้ทั้งคู่ก็อยู่ในช่วงชีวิตที่ใกล้จะถึงวัยมัธยมปลายกันแล้ว ได้วางแผนชีวิตมหาลัยของตัวเองไว้อย่างไรบ้าง อย่างเรียนคณะไหน เพราะอะไร
โปรเกรส: “มองไว้บางที่ครับ อย่างที่ มศว. หรือที่ ม.กรุงเทพ ตอนนี้มองเรื่องคณะไว้เป็น COSCI (วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม) หรือเป็นแนวภาพยนตร์ แล้วก็คณะนิเทศศาสตร์ครับ”
แอลม่อน: “จริงๆ คล้ายกับของโปรเกรสเลยครับ อย่างที่ มศว คณะ COSCI (วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม) ก็ตอบโจทย์กับสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้ครับ”
ทั้งคู่บาลานซ์ชีวิตส่วนตัว อย่างเช่นการเรียนหรือใช้ชีวิตกับเพื่อนๆ และชีวิตการทำงานอย่างไรบ้าง
แอลม่อน: “ของผมก็พยายามบาลานซ์ให้ได้ดีขึ้นครับ หลายๆ ครั้งที่การทำงานก็เอาพลังงานเราไปเยอะเหมือนกัน ตอนนี้ก็กำลังมองหาแนวทางที่น่าจะเข้ากับชีวิตของตัวเองในตอนนี้มากขึ้นครับ อาจจะมองถึงการสอบเทียบหรือวิธีอื่นๆ เพื่อให้บาลานซ์ชีวิตได้ดียิ่งขึ้นครับ”
โปรเกรส: “ตอนนี้เริ่มจะบาลานซ์ได้เยอะขึ้นแล้วครับ ถ้าเทียบกับตอนเข้าวงการใหม่ๆ เพราะทั้งการเรียนและการทำงานก็สำคัญเท่าๆ กัน ตอนนี้ก็พยายามจัดตารางตัวเองให้ลาเรียนน้อยที่สุด แต่ก็ไม่ให้กระทบกับตารางงานครับ”
New Year’s Resolution ของแอลม่อนและโปรเกรสในปี 2025 คืออะไร
แอลม่อน: “ผมตั้งเป้าไว้ว่าอยากเก็บเงินให้ได้ 10 ล้านครับ เราตั้งเป้าไว้ให้สูงไว้ก่อน ให้เป็นเหมือนแรงผลักดันตัวเราครับ แล้วก็มีแผนอยากจะซื้อรถซักคันครับ”
โปรเกรส: “ผมอยากไปเที่ยว อยากไปเที่ยวทั้งในในไทยให้เยอะขึ้น หรือถ้าเป็นต่างประเทศก็มองเป็นแถวๆ ยุโรปครับ แล้วก็อยากทำงานให้มากขึ้นแล้วก็ดีขึ้น พัฒนาตัวเองให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ครับ”
จะมีผลงานในอนาคตอะไรที่ให้แฟนคลับได้ติดตามกันบ้าง
แอลม่อน: “คิดว่ามีนะครับ ส่วนตัวก็อยากให้มีซีรีส์เรื่องใหม่เหมือนกัน ก็ขอให้ทุกคนรอติดตามแล้วก็สนับสนุนผมกับโปรเกรสกันต่อในปีนี้นะครับ (ยิ้ม)”
โปรเกรส: “อาจจะมีซีรีส์เรื่องใหม่หรือเปล่า อันนี้ก็ยังไม่แน่ใจนะครับ อยากให้ทุกๆ คนติดตามผลงานต่อๆ ไปของผมกับแอลม่อนไปเรื่อยๆ ครับ”
ช่างภาพ: อินทรชัย วัดมะกะวัน
บรรณาธิการแฟชั่น: วัชรชัย หนุนงาม
โปรดิวเซอร์และผู้เขียนบท: ชยานนท์ จงประเสริฐ
แต่งหน้า : รัตนโชติ โพธิ์คำ
ผม : ปฏิพันธ์ ลังกาพะยม
ผู้ช่วยถ่ายภาพ: อรรณพ ชาภักดี, ลีออน ซาเวียร์ โคล
ผู้ช่วยสไตลิสต์: พงศกร ตรีเทพ และ นพมาศ คมสม
The post ทำความรู้จักกับสองหนุ่มคลื่นลูกใหม่ ‘แอลม่อน-โปรเกรส’ กันให้มากขึ้น กับก้าวต่อไปที่น่าติดตามและตัวตนที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยสัมผัส appeared first on L’Officiel Thailand.