เจาะลึกงานศิลปะป๊อปอาร์ตเกาหลีที่เลือกสรรได้ที่ RCB Photographers’ Gallery
Pop Korea: A Korean Group Exhibition in Thailand นิทรรศการป๊อป อาร์ตจากสามศิลปินเกาหลี ณ RCB Photographers’ Gallery
บทความ: LuxuoTH ภาพ: แกลเลอรี่ช่างภาพ RCB
RCB Photographers’ Gallery ได้ร่วมมือกับ 608 Gallery จากประเทศเกาหลี ในการจัดนิทรรศการผลงานที่ชื่อว่า “Pop Korea: A Korean Group Exhibition in Thailand” นำเสนอผลงานของ 3 ศิลปินชาวเกาหลี ได้แก่ มันอุค ยูแจยุน และพัคฮยองอุง (Emil) ซึ่งได้ถ่ายทอดความคิดและจินตนาการของตนเองผ่านศิลปะในรูปแบบป๊อป อาร์ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถึงแม้จะมีความแตกต่าง แต่กลับเหมือนกันตรงที่ทำให้ความซ้ำซากจำเจในชีวิตประจำวันของเราหมดไป และทำให้เส้นแบ่งระหว่างความตลกและความเศร้าโศกเลือนลางลง
ป๊อป อาร์ต (Pop Art) เป็นชื่อศิลปะรูปแบบหนึ่งที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยๆ “ป๊อป” มาจากคำว่า “ป๊อปปูลาร์” (Popular) ซึ่งแปลว่า “เป็นที่นิยม” “เป็นที่รู้จักแพร่หลาย” “เป็นที่รู้จักในวงกว้าง” ดังนั้น ป๊อป อาร์ต จึงหมายถึง งานศิลปะที่เป็นที่นิยมในวงกว้าง หรือตามชื่อไทยที่นิยามก็คือ “ศิลปะประชานิยม” ด้วยแนวคิดที่ว่า ใครๆ ก็สนุกกับศิลปะ สร้างสรรค์ และครอบครองมันได้ แรงบันดาลใจของงานแนวป๊อป อาร์ตสามารถเกิดได้จากทุกสิ่งที่ “ป๊อป” ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ทางสังคม บุคคล หรือแม้แต่สิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
มันอุค นำเสนอผลงานในธีม “(Dog-Human-Machine)” ซึ่งทั้งสามคำนี้ออกเสียงเหมือนกันในภาษาเกาหลี แต่มีความหมายที่ต่างกัน ซึ่งเธออยากเน้นย้ำว่าความแตกต่างเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความหลากหลายมากกว่าความแตกแยก และเชื่อว่าการที่เราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างแท้จริงนั้นต้องอาศัยการมองโลกด้วยมุมมองของสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ ในผลงานครั้งนี้ มันอุคนำเสนอเครื่องจักรในฐานะสิ่งมีชีวิตที่อบอุ่น ไม่ใช่กลไกที่เย็นชา และเธอได้นิยามให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับเครื่องจักรและสุนัขได้ผ่านภาษารูปแบบใหม่ และสามารถอยู่ร่วมกันในโลกใหม่ที่ไร้แรงโน้มถ่วง มีเพียงออกซิเจนและแสง ในฐานะมนุษย์ไร้เพศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการดำรงอยู่ โดยได้ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดที่มีสีสันสดใส และใช้สีเรืองแสง ลายเส้นดูคล้ายตวัดอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งนี้ การที่มนุษย์ในภาพวาดซึ่งเป็นตัวแทนของเธอเองพูดกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ (สัตว์ เครื่องจักร พืช) ถือเป็นการพูดกับตัวเองรูปแบบหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการรับฟังการตอบสนองจากสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ด้วย ซึ่งก็คือภาพวาดนั่นเอง
ยูแจยุน ศิลปินผู้ผสมผสานงานจิตรกรรมเข้ากับเครื่องปั้นดินเผาได้อย่างน่าสนใจ ในครั้งนี้ ยูแจยุนได้ให้“Kimsee” ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดของเธอได้กลายเป็นศูนย์กลางของการสำรวจทางศิลปะ โดยชื่อ Kimsee ก็มาจากคำว่า “Kim” ซึ่งเป็นนามสกุลที่พบได้มากที่สุดของชาวเกาหลี และคำว่า “See” ที่แปลว่าการมองเห็น Kimsee จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของคนธรรมดาในชีวิตประจำวันที่มีทั้งความเป็นสากลหรือสิ่งที่คุ้นเคยและความคลุมเครือหรือความลึกลับอยู่ในคนๆ เดียว เพื่อสะท้อนให้ผู้ชมได้มองเห็นประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของตนเองผ่านตัวละครนี้ Kimsee ที่ถูกถ่ายทอดลงในผลงานของยูแจยุนอาจดูเป็นคนวิตกกังวล ไม่ประสีประสา และมีร่างกายอ่อนแอ แต่เขาก็ใช้ชีวิตในแต่ละวันเพื่อบ่มเพาะความชอบและรสนิยมของตัวเอง ซึ่งลักษณะการแสดงออกของตัวละครที่ไม่สมมาตร ไม่เป็นระเบียบ และเกินจริงจะทำให้เกิดมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปตามการรับชม ถือเป็นการมอบมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับสิ่งธรรมดาและสิ่งพิเศษในชีวิตประจำวันได้อย่างแยบยล ทั้งยังทำให้ผู้ชมได้มองเห็นความงดงามและความหมายลึกซึ้งที่ซ่อนเร้นอยู่ในสิ่งธรรมดาทั่วไป ซึ่งงานชุดนี้ของยูแจยุนก็ไม่ได้มีเพียงภาพวาด แต่ยังมีผลงานเครื่องปั้นดินเผาที่เธอถนัดด้วย
สำหรับศิลปินคนสุดท้ายในนิทรรศการนี้อย่างพัคฮยองอุง หรือ Emil เขาได้สะท้อนความรู้สึกสมัยใหม่เข้ากับองค์ประกอบย้อนยุคผ่านเรื่องราวของหุ่นยนต์ ซึ่งผสมผสานความทรงจำในวัยเด็กเข้ากับจินตนาการแห่งอนาคต โดยผลงานในชุดนี้เป็นเรื่องราวตัวตนที่เขาสร้างขึ้นในจินตนาการชื่อว่า “BB” ที่ได้ออกเดินทางไปซ่อมหุ่นยนต์ 7 ตัวที่พบบนดาวโอไรออน s-273 ซึ่ง Emil ก็ได้สะท้อนความอยากรู้อยากเห็นและความหลงใหลในหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก รวมถึงความคิดอิสระเกี่ยวกับอนาคตที่เราอาจได้พบเจอ และสิ่งที่เราควรระมัดระวังผ่านเรื่องราวระหว่างเดินทางในอวกาศและการซ่อมหุ่นยนต์ของ BB และการแสดงออกที่เป็นเอกลักษณ์ของหุ่นยนต์ โดย Emil ได้ผสานการเล่าเรื่องเข้ากับผลงานศิลปะที่มีทั้งชิ้นงานเรซิ่นและภาพวาดที่ใช้เทคนิคซับซ้อนละเอียดอ่อนจนออกมางดงามและดูมีมิติ ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความเป็นอนาคตและความลึกซึ้งทางอารมณ์ ชวนให้ผู้ชมจินตนาการว่าตัวเองกำลังอยู่ในโลกของศิลปะ และได้สำรวจอารมณ์ของมนุษย์และเครื่องจักร ซึ่งผลงานชุดนี้ก็ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่สำหรับ Emil ที่อยากบอกเล่าเรื่องราวผ่านสื่อที่หลากหลายซึ่งไม่ได้มีแค่ภาพวาด
ผู้ที่สนใจสัมผัสผลงานป๊อป อาร์ตจากศิลปินชาวเกาหลีทั้งสามท่านในนิทรรศการ Pop Korea: A Korean Group Exhibition in Thailand สามารถเข้าชมฟรีได้ถึงวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ที่ RCB Photographers’ Gallery ชั้น 2 River City Bangkok
บทความที่เกี่ยวข้อง: บริการดูแลสุขภาพสุนัขแบบครบวงจรที่ Dog Sport Club ของ Nanisa