พูดคุยกับ ไบเบิ้ล-วิชญ์ภาส สุเมตติกุล และคิวพี-ณสิริ ตัณฑรัตน์ สองหนุ่มนักแสดงจากซิตคอม ‘Jet lag เจ๊ทแหลก’ ถึงมุมมองและเป้าหมายบนเส้นทางอาชีพนักแสดงที่กลายเป็นความหลงใหลในแบบที่คุณคาดไม่ถึง
เส้นทางสายใหม่ สู่โลกใบใหม่
“ผมไม่เคยคิดว่าจะได้มาเป็นนักแสดง แล้วพอได้เข้ามาจริงๆ การแสดงถือเป็นโลกใบใหม่ของผมเลยครับ” คิวพีเล่าด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่ปัจจุบันเขากำลังอยู่ในช่วงท้ายของชีวิตมัธยมปลาย ที่เลือกเรียนวิชาเอกวิศวกรรมไฟฟ้ายานยนต์ และกำลังมุ่งมั่นกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในฝันที่ตั้งใจไว้ การก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงจึงดูเป็นเส้นทางที่แตกต่างจากสิ่งที่เขากำลังศึกษาอยู่ไม่น้อย ในฐานะนักแสดงน้องใหม่ เขามองการแสดงเป็นโลกใบใหม่ที่น่าค้นหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงมากความสามารถอย่างป๊อก-ปิยธิดา ที่ถ่ายทอดเทคนิคการแสดงให้กับรุ่นน้องอย่างเขา ผ่านการรับส่งอารมณ์ในบทบาทที่แต่ละคนได้รับ “การแสดงซีรีส์สำหรับผม ถึงจะเจอความท้าทายบ้าง แต่ก็กลับรู้สึกสนุก และอยากทำให้ดีที่สุด”
ในขณะที่ไบเบิ้ลซึ่งผ่านผลงานการแสดงมาหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น KinnPorsche The Series, 4Minutes และล่าสุดอย่าง ‘Jet lag เจ๊ทแหลก’ เส้นทางการเป็นนักแสดงได้พาเขาไปเจอมุมมองใหม่ๆ เช่นกัน “ทุกครั้งที่ได้ออกกอง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเอ็มวี ซีรีส์ หรือซิตคอม ในแต่ละบทบาทที่ได้รับ ทำให้เราได้ explore อะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ในสามเรื่องที่ผ่านมา ผมรู้สึกโชคดีที่คาแรคเตอร์แต่ละเรื่องแตกต่างกันมาก ผมก็หวังว่าจะได้เจออะไรที่แปลกใหม่ ได้เรียนรู้ ฝึกฝนตัวเองต่อไปเรื่อยๆ” นอกจากนี้แล้ว ไบเบิ้ลยังมองว่าการแสดงเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่มีคุณค่าและท้าทายตัวเองที่สุด “ผมชอบ Daniel Day-Lewis กับ Cillian Murphy มากครับ ชอบที่เขามองว่าการแสดงเป็นศาสตร์ ที่เป็น art form และเป็นคนที่ทำให้ผมพยายามเตือนตัวเองว่า เราอย่าทำเพียงเพื่ออยากดัง หรือเพื่อให้คนชอบ เราตั้งใจทำ เพราะเราอยากทำมัน และอยากพัฒนาให้ดีที่สุดครับ”
ศิลปะบนจอที่มากกว่าแค่ความบันเทิง
หลายคนอาจมองซิตคอมเป็นเพียงความบันเทิงเบาสมอง แต่ไบเบิ้ลกลับเห็นว่ามีความท้าทายที่มากกว่า หลังจากที่เขาได้สัมผัสด้วยตัวเอง “หลักๆ คือการเข้าใจบทและความนัยของมัน ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ การเวิร์คช็อปจะเน้นการทำ ร่วมกันกับนักแสดงแต่ละคน แต่พอเป็นซิตคอม จะเป็นวิธีที่แต่ละคนเข้าใจคาแรคเตอร์ของตัวเอง พัฒนาเคมีของตัวเอง แล้วเมื่อเข้าซีน ความเป็นตัวของตัวเองในแต่ละตัวละคร จะเป็นตัวส่งที่ทำให้สถานการณ์นั้นมันเกิดอารมณ์แบบที่ผู้กำกับและคนเขียนบทต้องการ เป็นเคมีหน้าเซ็ตมากกว่า ต้องอินกับบทและอินกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น” เขาเผยความท้าทายที่คนดูอาจไม่รู้ รวมไปถึงอีกหนึ่งความท้าทาย โดยเฉพาะการทำงานในกองซิตคอมนี้ กับนักแสดงตลกหน้าตายอีกหลายท่าน คือ ” ห้ามขำตามครับ!”
ในขณะที่คิวพีเองถึงแม้ชั่วโมงบินจะยังไม่สูงมาก เลือกที่จะใช้วิธีการแบบ ‘ครูพักลักจำ’ จากผู้มีประสบการณ์ในกองถ่าย “ผมถามทั้งผู้กำกับ พี่ๆ นักแสดง แล้วก็พยายามทำความเข้าใจเองด้วย เพราะผมรู้สึกว่า ตัวละครทุกตัวจะมี ความลึกตื้นหนาบาง ต้องใช้ทั้งเหตุผลและอารมณ์ในการทำการบ้าน” หรือในหลายๆ ครั้งเองที่ประสบการณ์หน้ากล้องก็เป็นบทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับเขาเช่นกัน “ชอบตอนที่ต้องยืนขึ้นแล้วหัวโขก คือต้องกะว่าจะให้โขกแค่ไหน โขกจริงมันก็เจ็บ โขกไม่จริงมันก็ดูไม่จริงอีก ผมก็กะอยู่สามสี่ที หามุมไม่ได้สักที สุดท้ายก็โขกไปเลยครับ เจ็บไปเลย เจ็บมาสี่ห้าทีละ ผมก็หวังว่าทุกคนจะแฮปปี้นะ”
เป้าหมายที่มากกว่าการเป็นนักแสดง
คิวพีมองว่าการมอบความสุขจากงานการแสดง คือเป้าหมายแรกที่สำคัญ “ผมเห็นพ่อแม่ตัวเองทำงานมาเหนื่อยๆ เปิดซีรีส์ขึ้นมาดู เขาก็แฮปปี้ละ ถ้าผมเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนมีความสุขได้ นี่ก็ทำให้ผมรู้สึกดีในใจ ก่อนแล้ว ตอนนี้อาจจะเริ่มจากจุดเล็กๆ ตรงนี้ที่เราสามารถทำได้ แล้วค่อยๆ ทำต่อไปให้ดีที่สุดครับ”
ทางไบเบิ้ลนั้น มีมุมมองไปถึงศักยภาพของวงการบันเทิง “ผมคิดว่าคนไทยในสายงานวงการบันเทิงมีฝีมือมากนะครับ ตั้งแต่พรีโปรดักชั่น การจัดไฟ การหาโลเคชั่น การทำ CG ฯลฯ อย่างที่เราจะเห็นว่า ผลงานระดับอินเตอร์มากมายที่ทีมคนไทยมีส่วนร่วม” เขาเล่าด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง และรู้สึกชื่นชมกับผู้คนที่เขาได้เคยมีโอกาสร่วมงานด้วย “อยากให้วงการเปิดโอกาสกับเด็กรุ่นใหม่มากขึ้น และอยากให้คนไทยสนับสนุนผลงานคนไทยด้วยกันมากขึ้น ในปัจจุบันมีผลงานที่เปิดกว้าง ทั้งเนื้อหา มุมมองความคิด และงานโปรดักชั่นที่รอให้ทุกคนได้ลองเปิดใจดูครับ”
คลื่นลูกใหม่กับเส้นทางของนักแสดงมืออาชีพ
สิ่งที่เราสัมผัสได้หลังจากการพูดคุยกันครั้งนี้ ไบเบิ้ลและคิวพีคือตัวแทนของนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีทั้งความมุ่งมั่นในการส่งมอบความบันเทิงจากบทบาทการแสดงที่ได้รับ ทัศนคติที่มีต่องานการแสดง มากกว่าความเป็นที่รักและสนใจของผู้คนมากมาย หากยังเป็นอาชีพที่ผสานศาสตร์และศิลป์บนสังเวียนของ “ตัวจริง” ที่ทั้งคู่ยังตั้งใจเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพ เพื่อเป็นนักแสดงคุณภาพ ที่จะสร้างสรรค์ผลงานดีๆ มอบความสุขให้กับทุกคน และเป็นส่วนสนับสนุนวงการบันเทิงไทยให้เติบโตและยิ่งแข็งแกร่งต่อไป
2 คลื่นลูกใหม่นี้ มาบรรจบพบกันบนจอในซิตคอม ‘Jet lag เจ๊ทแหลก’ คิวพีรับบท “กรีฑา” หนุ่มหน้ามนคนซื่อที่ต้องกลายเป็นสายลับจำเป็น ส่วนไบเบิ้ลรับบท “ออนิว” ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ที่เข้าสังคมไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นัก ร่วมด้วย นักแสดงคุณภาพอีกมากมาย ติดตามผลงานและความสนุกจากความมุ่งมั่นตั้งใจของทั้งสองได้ใน ‘Jet lag เจ๊ทแหลก’ ซิตคอมเรื่องแรกของค่ายบีออนคลาวด์ ที่จะทำให้คุณได้ทั้งเสียงหัวเราะและคลิกมุมคิดเกี่ยวกับชีวิตที่ไม่คาดฝัน เร็วๆ นี้
ช่างภาพ: Intrachai Watmakawan
บรรณาธิการ: Watcharachai
นักเขียน: Pomphet Phawadet
ผู้ประสานงาน: Janenita Chaimongkoltrakul
Makeup: Wasubat Saninat
ผม: Seeder Pann
ผู้ช่วยถ่ายภาพ: Chudchpong Aumponrat, Pharunwat Sivapiripat,
ratchaporn muangsak
ผู้ช่วยสไตลิสต์: Panithan Prasongsanti
ขอบคุณเป็นพิเศษ: โชว์รูม Motif ที่ Siam Paragon, 3 Fl. North Zone, Siam Paragon
โทร. 02-160-5984, IG: @motifartofliving
อ่านบทความเพิ่มเติม:
เสียงเพลงในสายลมร้อนของ Violette Wautier
โทมัส – ก้อง กับความต่างที่แสนจะลงตัว
การค้นพบมุมมองใหม่ของนักแสดงสาวเก๋เปี่ยมสไตล์ ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล
