จุดหมายปลายทาง Unseen ของนิวซีแลนด์และประสบการณ์การผจญภัยปี 2025
นิวซีแลนด์เตรียมรับนักท่องเที่ยวในปี ค.ศ. 2025 ด้วยประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
บทความ: ลภีพันธ์ โชติจินดา ภาพเปิด: ลิซ คาร์ลสัน
ประเทศนิวซีแลนด์นับว่าเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่หลงใหลความงดงามของธรรมชาติที่สามารถสัมผัสได้ทั้งทิวเขา แม่น้ำ และชายทะเล อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย ซึ่งเรามักจะคุ้นเคยกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ อย่าง ยอดเขาอีเดนของเมืองอ็อคแลนด์ เทือกเขาไคไมเรนจ์หรือหมู่บ้านชาวฮอบบิทในเมืองมาทามาท่า อุทยานแห่งชาติเมาท์คุก น้ำตกฮูก้าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในแม่น้ำไวกาโต และอีกมากมาย
Great Journeys New Zealand Scenic Plus (ภาพ: Pure New Zealand) ไร่องุ่น Caldera Estate (ภาพ: Caldera Estate)
ในปี ค.ศ. 2025 ที่กำลังจะมาถึง นิวซีแลนด์เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกด้วยการยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์โดยผสมผสานความงามของธรรมชาติ วัฒนธรรมที่โดดเด่น และการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ค้นพบเสน่ห์และแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่น้อยคนจะรู้จัก และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจใหม่ ๆ หลายแห่ง อาทิ เส้นทางสันเขาทัวทาเปเร (Tuatapere Hump Ridge Track) ในอุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นเส้นทางเดินป่า Great Walk ลำดับที่ 11 ของนิวซีแลนด์ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาพร้อมมอบประสบการณ์การเดินป่าที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยเส้นทางระยะทางยาวกว่า 61 กิโลเมตร ท่ามกลางวิวเทือกเขาสุดตระการตา ป่าฝนอันเขียวชอุ่ม และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
อุทยานแห่งชาติ Whanganui, Whanganui (ภาพ: เยี่ยมชม Ruapehu)
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มไวน์ ไร่องุ่น Caldera Vineyard Estate เป็นโรงกลั่นไวน์บูติกที่ตั้งอยู่ท่านกลางทัศนียภาพอันงดงามและสถาปัตยกรรมร่วมสมัยในเมืองอากาโรอา ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ก็พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับไวน์ในบรรยากาศสุดพิเศษ หรือโครงการ Great Journeys New Zealand ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะเปิดในเดือนมีนาคมปีหน้าก็เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายการท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการลิ้มลองรสชาติและการเดินทางแบบใหม่ๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน
ทะเลสาบวานากา, ทะเลสาบวานาก้า (ภาพ: Miles Holden) ปูนาไกกิ, เวสต์แลนด์ (ภาพ: Pure New Zealand)
และสำหรับเหล่านักผจญภัยก็สามารถสัมผัสความตื่นเต้นบนเส้นทางใหม่ของหุบเขาคาวารัว (Kawarau Gorge Trail) ที่มีความยาวถึง 32 กิโลเมตรที่เตรียมกำหนดเปิดปลายปี 2025 หรือจะเป็นเส้นทางปูนามู (The Pounamu Pathway) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือกับเวตา เวิร์กช็อป (Wētā Workshop) ที่จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2025 ที่พร้อมมอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมของชาวเมารีและชุมชนโบราณที่ล้ำลึกผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสี่แห่งบนชายฝั่งตะวันตกที่จะทำให้การเดินทางของคุณเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม
ไคคูรา (ภาพ: Destination Kaikoura)
ไคโคอูรา (Kaikōura) ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดนานาชาติ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชมวาฬในเวลากลางวันและดื่มด่ำกับการชมหมู่ดาวที่สวยงามในยามค่ำคืน และนอร์ทแลนด์ (Northland) ก็มีความโดดเด่นไปด้วยน้ำทะเลที่ใสสะอาดและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของชาวเมารี และวังกานุย (Whanganui) ซึ่งได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นเมืองแห่งการออกแบบ โดดเด่นด้วยการผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับแนวคิดร่วมสมัย ในขณะที่ เวสต์แลนด์ (Westland) ก็มีแหล่งอนุรักษ์ทางทะเลที่อุดมไปด้วยสัตว์ทะเลและทิวทัศน์อันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นธารน้ำแข็งฟรานซ์โจเซฟ (Franz Josef Glaciers) หรือธารน้ำแข็งฟ็อกซ์ (Fox Glaciers)
Matapouri, Northland (ภาพ: Miles Holden) Cape Kidnappers – อ่าว Hawkes (ภาพ: Graeme Murray)
นิวซีแลนด์ยังเป็นเพียงผู้นำในด้านการท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน หรือ Regenerative Tourism โดยมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ช่วยปกป้องและฟื้นฟูธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรม อาทิ ฮอว์คเบย์ (Hawke’s Bay) กับทัวร์ Cape Sanctuary ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศัยและเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ หรือโครงการ Southern Way สนับสนุนการเดินทางแบบเนิบช้า หรือ Slow Travel ไปทั่วเกาะทางใต้ เพื่อสร้างประสบการณ์อันลึกซึ้งร่วมกับธรรมชาติและผู้คนบนเกาะ หรือโครงการการท่องเที่ยวแบบฟื้นสร้างยั่งยืน Hotel Britomart Regenerative Travel Experience ของโรงแรม The Hotel Briomart ในโอ๊คแลนด์ (Auckland) ที่มอบโอกาสสุดพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวได้ปลูกต้นไม้พื้นเมืองและเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์ Kawattiri – ทางเดิน Pounamu (ภาพ: Pure New Zealand)
บทความที่เกี่ยวข้อง: Four Seasons Yachts Reveals Itineraries from November 2026 to January 2027